- สงครามรัสเซีย-ยูเครน ผ่านมา 1 เดือน พร้อมกับความหายนะพังพินาศทั่วยูเครน การล้มตายเป็นจำนวนมาก จากฝีมือของ "วลาดิเมียร์ ปูติน" ประธานาธิบดีรัสเซีย ตัวการสำคัญ จนถูกประณามเป็น "อาชญากรสงคราม"
- ชะตากรรมโลก จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือไม่ จึงอยู่ที่ปูติน แม้คาดเดาได้ยากมาก แต่เมื่อวิเคราะห์จากชีวิตในอดีต ความมุ่งมั่นในการเป็นสายลับเคจีบี อาจได้เห็นความคิด บุคลิกนิสัยที่ซ่อนไว้ของผู้นำมหาอำนาจคนนี้ที่ดำรงตำแหน่งลากยาวที่สุดในศตวรรษที่ 21
- สงครามยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น พร้อมกระแสข่าวผู้ทรงอิทธิพลชนชั้นสูงในรัสเซีย รับไม่ได้กับการถูกคว่ำบาตรอย่างหนักจนกระทบเศรษฐกิจ จึงวางแผนจะสังหารปูติน ยิ่งทำให้ปูตินในวัย 69 ปี หวาดระแวงหนักต้องปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตทุกอย่าง
สงครามที่เกิดขึ้น อาจเรียกว่า "สงครามปูติน" ในความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ "ศ.ดร.ไชยวัฒน์ ค้ำชู" ผู้อำนวยการวิทยาลัย การเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า เพราะปูติน มีความคิดมานานแล้วว่ายูเครน เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ทั้งจากการให้สัมภาษณ์ และการกล่าวสุนทรพจน์ ตั้งแต่รับตำแหน่งมา จากความไม่พอใจที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย จึงอยากจะรื้อฟื้นความยิ่งใหญ่ที่รัสเซียเคยมีมาก่อน และตั้งใจอยากได้ยูเครน จนหาโอกาสเป็นข้ออ้างในการรุกรานยูเครน ว่าเป็นเพราะโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครน จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต
...
“เป็นข้ออ้างของปูติน เพราะภูมิรัฐศาสตร์ในการทำสงครามโดยใช้อาวุธนั้น ไม่จำเป็นต้องบุกไปยูเครน หรือนาโตจะไปอยู่ไหนก็ได้เช่นกัน เพราะขีปนาวุธปัจจุบันทันสมัย ยิงจากที่ไหนก็ได้ ที่ผ่านมาปูติน ยึดไครเมียไปแล้ว รวมทั้งเมืองลูฮันสก์และโดเนตสก์ในภูมิภาคดอนบัส ควรมองมุมกลับกันว่ายูเครน ก็รู้สึกว่าถูกคุกคามเหมือนกัน ต้องคิดถึงอกเขาอกเรา ต้องเห็นใจยูเครน เพราะความหวังเข้านาโต ก็แค่ความฝันอย่างที่เซเลนสกีเคยพูด และไม่ใช่จะเข้าไปง่ายๆ ต้องผ่านความเห็นชอบของประเทศสมาชิก”
อย่าเชื่อคำโกหกปูติน อ้างความชอบธรรม รุกรานยูเครน
การที่ปูติน พยายามพูดอยู่เสมออยากให้ยูเครนเป็นกลาง แต่ต้องอยู่ภายใต้รัสเซีย และยูเครน เพิ่งเลิกเป็นกลางโดยแก้รัฐธรรมนูญ ในสมัยประธานาธิบดีคนที่แล้ว ภายหลังรัสเซียยึดไครเมียไป และสิ่งที่ปูตินโยงประวัติศาสตร์ที่มาของอนุสาวรีย์นักบุญวลาดิเมียร์ เคยทำให้รัสเซียยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่ 10 ซึ่งมีพระนิกายออร์ทอดอกซ์องค์หนึ่งที่สนิทกับปูติน ออกมายุยงในปี 2009 ในสถานที่แห่งนี้ บอกถ้ารักและหวังดีต่อรัสเซียจริง ต้องมีผู้นำอย่างปูติน จะทำให้รัสเซียยิ่งใหญ่ จนผู้เชี่ยวชาญในรัสเซีย ออกมาบอกอย่าเชื่อเรื่องโกหกของปูติน เพื่ออ้างความชอบธรรมในการรุกรานยูเครน
...
แม้กระทั่งการอ้างเรื่องเชื้อชาติว่ารัสเซียและยูเครน มีเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกัน มีความเป็นหนึ่งเดียว ทำให้ปูติน เชื่อว่าการรุกรานยูเครนจะสำเร็จง่ายๆ แต่สุดท้ายประเมินต่ำเกินไป เพราะคนยูเครนไม่ยอม เมื่อเป็นเอกราชแล้วก็อยากจะใช้ชีวิตของตัวเอง อยากมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ไม่อยากไปอยู่กับรัสเซีย ไม่ใช่การต่อต้านใดๆ แต่อยากไปอยู่กับตะวันตก โดยไม่มีประเทศใดบีบคั้นให้ทำ หรือแม้คนยูเครนส่วนหนึ่งสนับสนุนรัสเซีย แต่ก็มีส่วนน้อย กระทั่งไปยั่วยุดินแดนแบ่งแยกทางตะวันออกให้เป็นรัฐอิสระ จนต้องเห็นใจยูเครนในการกำหนดชะตากรรมตัวเอง แต่รัสเซียจะทำอย่างไรก็ไม่สำเร็จ
“สงครามที่เกิดขึ้นเพราะพฤติกรรมปูติน ไปคุกคามยูเครน เอาขีปนาวุธเร็วกว่าเสียงไปถล่ม ทั้งที่ยูเครนไม่ได้คุกคามรัสเซีย แต่ตัวเองทำเขาก่อน แม้ปูตินมีสิทธิคิดที่จะทำ แต่ก็มีผลกระทบอย่างที่เห็น เพราะปูติน มีความคิดฝังใจ เอารูปภาพพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ซึ่งปฏิรูปรัสเซียให้มีความสมัยใหม่ ไปติดในที่ทำงานแทนรูปอดีตประธานาธิบดีบอริส เยลต์ซิน แต่ตัวเองกลับหันหลังให้ตะวันตก ทั้งที่สามารถรักษาความยิ่งใหญ่ของรัสเซียได้ เพราะมีทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ ทั้งแก๊สและน้ำมัน โดยไม่ต้องไปรุกรานยูเครน แต่ดันใช้ตะวันตกเป็นเครื่องมือ คิดว่าไม่น่าเดือดร้อน กลายเป็นว่าตะวันตกก็ลดการพึ่งพิงรัสเซียไปเลย”
...
สิ่งที่ปูติน ทำไปเป็นการประเมินที่ต่ำเกินไป จนวันนี้ถลำลึกขึ้นมามากแล้ว แม้จะยึดยูเครนได้ แต่ได้ทำลายบ้านเมืองของชาวยูเครน จนสร้างบาดแผลความเจ็บปวด จะสามารถปกครองชาวยูเครนได้อย่างไร อีกทั้งต้องใช้เงินในการฟื้นฟูประเทศให้กลับมาได้อย่างไร กับสิ่งที่ทำไปในการสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับชาวยูเครน หรือใครจะขึ้นมาเป็นรัฐบาลหุ่นให้รัสเซีย ก็จะถูกต่อต้านทำให้ปกครองลำบาก
จากสิ่งที่ปูตินคิดว่าง่าย เป็นการประเมินต่ำ เพราะชาตินิยมของชาวยูเครน ไม่ยอมสยบให้กับรัสเซีย และการกล่าวอ้างของปูติน ว่ายูเครนเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขกับรัสเซีย แต่ทำไมต้องทำสงคราม และไปบังคับประชาชนที่เลือกผู้นำยูเครนเข้ามาตามระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไร
...
ชะตากรรมโลก ในอุ้งมือผู้นำเผด็จการ ตัวอันตราย
กลายเป็นว่าปูติน ต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นอยู่ในวงแคบกับที่ปรึกษาคนสนิทเท่านั้น และคนวงนอกก็ต้องอยู่ห่าง เพราะยังมีคนในรัสเซียไม่เห็นด้วยกับปูติน แต่ปูตินยังพยายามทำให้เห็นว่ามีการปรึกษาสภาความมั่นคง ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ฟังเสียงใครจากสิ่งที่ทำ กลายเป็นอันตรายจากตัวผู้นำระบบเผด็จการ และลุกลามไปถึงสื่อ อาจทำให้โลกเดือดร้อนไปหมด จากที่เคยได้ไครเมีย และอีก 2 เมืองในภูมิภาคดอนบัสของยูเครน และจะสร้างเขตอิทธิพลเพิ่ม แต่ไม่สามารถทำได้เหมือนแต่ก่อน เพราะแต่ละประเทศมีความเป็นอิสระ หรือแม้แต่ประเทศเล็กๆ ก็สามารถตัดสินแนวทางของตัวเอง ในการมีสัมพันธ์กับใคร
อย่างไรก็แล้วแต่ในโลกตะวันตก ได้มีการถกเถียงกันว่าต้นตอสงครามรัสเซียกับยูเครน ก็เกิดจากตะวันตก แต่ได้ถูกตอบโต้ว่าเป็นการให้ท้ายรัสเซีย และควรเห็นใจยูเครนบ้าง คาดกันว่าสงครามจะยืดเยื้อไม่จบง่าย เพราะปูติน ยังไม่บรรลุเป้าหมาย จากการประเมินต่ำว่าจะไม่ถูกชาวยูเครนต่อต้าน หรือปูติน อาจประเมินตัวเองสูงเกินไปหรือไม่
หากคิดใหม่จะคิดอย่างนี้หรือไม่ หรือแม้จะเป็นอย่างนี้ก็ต้องทำ เป็นการประเมินที่ผิดที่ลงทุนทำไป ทั้งอาวุธรถถัง ทหารรัสเซียที่ล้มตายจำนวนมาก แล้วสังคมโลกจะอยู่อย่างไรต่อไป ถ้าสถานการณ์ยืดเยื้อยาวนาน เกิดความสูญเสียทุกอย่าง ทำลายบ้านเรือนจนสร้างบาดแผลลึกให้กับชาวยูเครน และต่อไปใครจะเชื่อถือ ยิ่งอ้างว่ารัฐบาลยูเครน เป็นนาซี ก็ไม่จริง ทั้งๆ ที่เซเลนสกีเป็นยิว
สรุปแล้วปูติน จะยอมถอยคงเป็นไปไม่ได้ และลาออกจากตำแหน่งให้คนใหม่เข้ามา ก็คงไม่ทำ ยกเว้นเกิดสิ่งที่ทำให้ปูติน ต้องตกจากอำนาจไม่ว่าวิธีใด ก็จะคลี่คลายสถานการณ์ลงได้ ภายหลังปูติน ตัดสินใจผิดพลาดไปแล้ว ทำให้ชะตากรรมของโลก จะพินาศหรือไม่อย่างไรอยู่ที่ปูติน.
ผู้เขียน : ปูรณิมา