กล้องวงจรปิดมุมสำคัญที่เห็นภาพโต๊ะจีนกำนันนกและสารวัตรแบงค์ นั่งอยู่ไม่ไกลกัน ถูกตัดภาพตั้งแต่ 10 โมงเช้าในวันเกิดเหตุ ก่อนมีการจัดเลี้ยงช่วงค่ำ ทำให้ตำรวจพยายามหาหลักฐานสำคัญ เพื่อมัดผู้สั่งการให้นายหน่องลั่นไก แม้มีคำให้การจากพยานในที่เกิดเหตุ โดยทางนิติวิทยาศาสตร์สามารถตรวจสอบได้จากมือถือของคนที่อยู่ในงาน เพื่อคลี่คลายปมช่วงเวลาเกิดเหตุว่ามีใครอยู่จุดไหน และใครคือผู้สมรู้ร่วมคิดช่วยผู้กระทำผิด

สำหรับประเด็นกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ มีผู้ให้การว่า กำนันนก หรือนายประวีณ จันทร์คล้าย อดีตกำนัน ต.ตาก้อง อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ได้ถอดปลั๊กออกตั้งแต่ 10 โมงเช้า ก่อนเกิดเหตุรัวยิง สารวัตรแบงค์ หรือ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว โดยประเด็นนี้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า เบื้องต้นพื้นที่เกิดเหตุมีกล้อง 15 ตัว โดยเป็นกล้องวงจรปิดที่เชื่อว่าเสียมานานแล้ว 2 กล้อง ส่วนกล้องอีกตัวเวลาหยุดตอน 10 โมงเช้า เป็นกล้องตัวสำคัญ ซึ่งสมมติฐานคาดว่า กำนันนก เป็นผู้หยุดกล้องตัวนี้ หรือมีการลบทำลายหลังเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

...

ตัวกล้องวงจรปิด ทางเทคนิคพอลบภาพได้ แต่ในช่วงเวลาเกิดเหตุมีการถอดเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดไปทิ้งน้ำ จึงอาจมีการหยุดกล้องมุมสำคัญ ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ หรือไปลบภาพหลังจากนั้น โดยตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐานทำการตรวจสอบ

แม้จะกู้ภาพจากกล้องตัวสำคัญไม่ได้ แต่มีพยานหลักฐานอีกหลายอย่าง รวมถึงมูลเหตุจูงใจที่เชื่อว่าสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ถึงที่สุดได้

สัญญาณโทรศัพท์หลักฐานสำคัญปิดคดีกำนันนก

รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เปิดเผยกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ถึงประเด็นกล้องวงจรปิด มุมสำคัญในสถานที่จัดเลี้ยงโต๊ะจีน ที่ไม่สามารถเปิดได้ เนื่องจากกำนันนกไปดึงปลั๊กออกก่อนมีงานเลี้ยง ถือเป็นประเด็นที่ตำรวจต้องค้นหาหลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เพื่อคลี่คลายปริศนา เนื่องจากขณะนี้มีข้อสงสัยว่ากำนันนกเป็นผู้สั่งการจริงหรือไม่ และมีใครเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด เพราะถ้าวิเคราะห์จากพยานบุคคลในที่เกิดเหตุเพียงอย่างเดียวไม่ได้

“ขณะนี้ต้องหาหลักฐานเพื่อยืนยันถึงการสั่งการให้ทำร้ายสารวัตรแบงค์ แต่จากการสอบสวนของตำรวจพบว่า มีปัญหาในด้านการให้ข้อมูลของพยานบุคคลมีความขัดแย้งกับข้อมูลหลายจุด ทำให้สงสัยว่าข้อมูลจากพยานบุคคลในที่เกิดเหตุมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน และเมื่อขึ้นไปให้การในชั้นศาลจะมีการกลับคำให้การหรือไม่ เพราะพยานบุคคลสามารถกลับคำให้การได้ เลยต้องหันมาหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลัก”

หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในคดีกำนันนกมี 2 ส่วนสำคัญที่จะนำมาใช้เชื่อมโยงคือ 1.ภาพจากกล้องวงจรปิดวันเกิดเหตุ จะเห็นว่าก่อนเกิดเหตุมีการเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุออกจากพื้นที่ มีการนำคนที่มีอาวุธปืนเข้ามาในพื้นที่จัดเลี้ยง 2.ข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือของทุกคนที่อยู่ในงานเป็นหลักฐานสำคัญที่สามารถตรวจสอบการคุยไลน์ ถึงจะลบออกก็กู้คืนได้ รวมถึงการสนทนาทางโทรศัพท์ โดยเฉพาะมือถือระบบแอนดรอยด์ มีการบันทึกเสียงอัตโนมัติ สามารถกู้ไฟล์เสียงได้ หรือตำแหน่งเจ้าของโทรศัพท์ในช่วงเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุอยู่ในตำแหน่งใด ถือเป็นหลักฐานที่สามารถเชื่อมโยงได้

...

หลักฐานจากการชันสูตรพลิกศพสารวัตรแบงค์


รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิเคราะห์ถึงรอยบาดแผลการถูกยิงของสารวัตรแบงค์ พบว่ามีบาดแผลการถูกยิงใน 4 จุดสำคัญ ขณะเดียวกันบาดแผลก็บ่งบอกถึงระยะในการถูกยิง สามารถบ่งบอกได้ว่ามือปืนยืนยิงในตำแหน่งใด โดยทิศทางและระยะจะบ่งบอกจากบาดแผล และสอดคล้องกับการให้ข้อมูลกับพยานในที่เกิดเหตุหรือไม่ ซึ่งบาดแผลของผู้ตายจะเป็นอีกหลักฐานสำคัญที่จะไขข้อสงสัยแทนกล้องวงจรปิดที่ถูกตัดภาพไป

“บางคดีที่กล้องวงจรปิดไม่เห็นตอนเกิดเหตุ แต่คดีพลิกเพราะบาดแผลของผู้ตาย เนื่องจากพยานให้ข้อมูลว่าผู้ยิงยืนอยู่ห่างจากผู้ตายก่อนลั่นไก แต่บาดแผลเห็นได้ชัดว่าถูกยิงในระยะประชิด ดังนั้นข้อมูลด้านนิติวิยาศาสตร์เป็นหลักฐานสำคัญที่ยืนยันคำให้การของพยานในที่เกิดเหตุว่าให้การจริงหรือไม่”

การโอนย้ายสำนวนคดีกำนันนกมายังสอบสวนกลาง ต้องยอมรับว่า เป็นหน่วยงานที่มีเทคโนโลยีในการสืบสวนสูงกว่าหน่วยอื่น จึงไม่ใช่เรื่องน่ากังวล ประกอบกับสอบสวนกลางมีความร่วมมือกับตำรวจสอบสวนในต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา สามารถแชร์เทคโนโลยีในการสืบสวนระหว่างกัน เพื่อคลี่คลายดีนี้ได้อย่างรอบด้าน และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายได้.

...