อัปเดตวิกฤติตัวประกัน หลังสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาส ครบ 1 เดือน...
หลังสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส เดินทางครบ 1 เดือน รายงานล่าสุดจากองค์การสหประชาชาติระบุว่า มีชาวปาเลสไตน์ เสียชีวิตแล้ว 9,485 ศพ โดยในจำนวนนี้เป็น เด็ก 4,008 ศพ สตรี 2,550 ศพ บาดเจ็บอีก 24,173 คน สูญหาย 2,260 คน (ในจำนวนนี้คาดว่าส่วนใหญ่เสียชีวิตอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล)
ทำให้องค์การสหประชาชาติ คาดการณ์ว่าในทุกๆ วันจะมีเด็กๆ ชาวปาเลสไตน์ ต้องเสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลเฉลี่ย 134 คนต่อวัน นับตั้งแต่เริ่มสงครามในวันที่ 7 ต.ค. 23 เป็นต้นมา
ขณะที่จำนวนชาวปาเลสไตน์ผู้ผลัดถิ่นฐานจากพิษภัยสงครามสูงถึง 1.4 ล้านคน หรือคิดเป็น 62% ของจำนวนประชากรในพื้นที่ฉนวนกาซา หลังอาคารที่พักอาศัยมากกว่า 40,000 ยูนิต ถูกทำลายจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ ส่วนอีกมากกว่า 220,000 ยูนิต ได้รับความเสียหายบางส่วน โดยตัวเลขทั้งหมดนี้คิดเป็น 45% ของจำนวนอาคารที่พักอาศัยทั้งหมดบนพื้นที่ 360 ตารางกิโลเมตร ของ "ฉนวนกาซา"
...
ขณะเดียวกันพิษภัยจากสงครามยังทำให้โรงพยาบาล 14 แห่ง จากทั้งหมด 35 แห่งรวมถึงสถานีอนามัยและคลินิกมากกว่า 51 แห่งจากทั้งหมด 72 แห่ง ในพื้นที่ฉนวนกาซา ต้องยุติการให้บริการลงเนื่องจากขาดแคลนไฟฟ้าและเวชภัณฑ์
ส่วนทางฝ่ายอิสราเอล มีเสียชีวิตแล้ว 1,400 ศพ บาดบาดเจ็บ (รวมชาวต่างชาติ) 5,431 คน (สิ้นสุดวันที่ 5 พ.ย. 23) โดยในจำนวนนี้ เป็นทหารอิสราเอลที่ถูกสังหารนับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินในพื้นที่ฉนวนกาซา (26 ต.ค. 23) รวมแล้ว 29 นาย
วิกฤติตัวประกัน :
สำหรับความคืบหน้าในการเจรจาช่วยเหลือตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสจับกุมตัวไปตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 23 เป็นต้นมานั้น ล่าสุด (สิ้นสุดวันที่ 3 พ.ย. 23) มีความคืบหน้าดังต่อไปนี้
จำนวนตัวประกันทั้งหมด :
เบื้องต้นจากถ้อยแถลงของ "โฆษกกลุ่มฮามาส" ระบุว่า มีตัวประกันที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมดประมาณ 200-250 คน ขณะที่ "กองทัพอิสราเอล" ระบุว่า มีจำนวนผู้ที่ถูกกลุ่มฮามาสควบคุมตัวประมาณ 240 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งพลเรือนและทหารอิสราเอล รวมถึงชาวต่างชาติ
สัญชาติของตัวประกัน :
จากข้อมูลของกองทัพอิสราเอล ตัวประกัน 138 คน ถือหนังสือเดินทางต่างประเทศ โดยเบื้องต้นตัวประกันที่สามารถระบุสัญชาติได้แล้วประกอบด้วย...
ชาวอาร์เจนตินา : 15 คน
ชาวเยอรมนี : 12 คน
ชาวอเมริกัน : 12 คน
ชาวฝรั่งเศส : 6 คน
ชาวรัสเซีย : 6 คน
...
ชาวจีน : 1 คน
ชาวศรีลังกา : 1 คน
ชาวฟิลิปปินส์ : 2 คน
ชาวแทนซาเนีย : 2 คน
ชาวเนปาล : 5 คน
จำนวนตัวประกันชาวไทย :
สำหรับจำนวนตัวประกันชาวไทย นั้น ในเบื้องต้นจากข้อมูลของกองทัพอิสราเอลระบุว่ามีประมาณ 54 คน อย่างไรก็ดี ล่าสุดทางกระทรวงต่างประเทศไทย ระบุว่า จำนวนตัวประกันสัญชาติไทยน่าจะอยู่ที่ 18 คนเท่านั้น เนื่องจากตัวเลข 54 คนของอิสราเอล มีความเป็นไปได้ว่าน่าจะเป็นตัวเลขรวมที่รวมกับจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้สูญหาย
อย่างไรก็ดี ล่าสุด "นายมุข สุไลมาน" เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมาระบุว่า จำนวนตัวประกันชาวไทยที่ถูกควบคุมตัวโดยกลุ่มฮามาส มีทั้งสิ้น 23 คน โดยทุกคนยังคงปลอดภัยและได้รับการดูและเป็นอย่างดี
จำนวนตัวประกันที่ถูกปล่อยตัว :
สิ้นสุดวันที่ 3 พ.ย. 23 มีตัวประกันที่ถูกปล่อยตัวจากช่องทางในการเจรจารวม 4 คน โดยในวันที่ 20 ต.ค. 23 กลุ่มฮามาสได้ปล่อยตัว แม่ลูกชาวสหรัฐฯ 2 คน วัย 59 ปี และ 17 ปี ต่อมาในวันที่ 23 ต.ค. 23 ได้มีการปล่อยตัว หญิงชราชาวอิสราเอลอีก 2 คน วัย 79 ปี และ 85 ปี
ส่วนในวันที่ 30 ต.ค. 23 กองทัพอิสราเอลได้ช่วยเหลือ พลทหารหญิงชาวอิสราเอลที่ถูกจับเป็นตัวประกันได้ 1 นาย ขณะกำลังปฏิบัติการภาคพื้นดินในพื้นที่ฉนวนกาซา
...
ตัวกลางที่ทำหน้าประสานงานในการเจรจา :
ปัจจุบันผู้แทนของประเทศกาตาร์และอียิปต์ ถือเป็นแกนหลักในความพยายามทางการทูตระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอล เนื่องจากกาตาร์เป็นประเทศผู้บริจาคเงินช่วยเหลือให้กับพลเรือนในพื้นที่ฉนวนกาซารายใหญ่ อีกทั้งยังถือเป็นหนึ่งในประเทศภูมิภาคตะวันออกกลางมีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งสหรัฐอเมริกาและอิสราเอลด้วย โดยที่ผ่านมากาตาร์ เคยมีบทบาทสำคัญในการคลี่คลายวิกฤติตัวประกันชาวอเมริกันในอัฟกานิสถาน มาลี และ ไนเจอร์ มาแล้ว
ส่วนทางด้านอียิปต์ นั้น ก็มีความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มฮามาสมาเนิ่นนานเช่นกัน และก่อนหน้านี้ยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสมาแล้วหลายครั้ง
ข้อเสนอและท่าทีของกลุ่มฮามาสต่อวิกฤติตัวประกัน :
กลุ่มฮามาสยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลอิสราเอลว่าจะยินยอมปล่อยตัวประกันที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมดทันที หากอิสราเอลยอมปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ทั้งหมด ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 5,000 คน
...
อย่างไรก็ดี จากรายงานของสำนักข่าวอัลจาซีรา ระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 23 เป็นต้นมา จำนวนนักโทษชาวปาเลสไตน์ที่ถูกทางการอิสราเอลควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำนั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 10,000 คนแล้ว ซึ่งในจำนวนนี้เป็น คนงานจากพื้นที่ฉนวนกาซาที่เดินทางเข้าไปทำงานในประเทศอิสราเอลมากกว่า 4,000 คน ที่ติดอยู่ในช่วงการเริ่มต้นการโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 23 รวมอยู่ด้วย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 23 ที่ผ่านมา โฆษกของกลุ่มฮามาส ได้ออกมาระบุว่า เร็วๆ นี้ จะมีการปล่อยตัวประกันเพิ่มเติม เพียงแต่ยังไม่มีการระบุถึงรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม
ท่าทีของอิสราเอลต่อวิกฤติตัวประกัน :
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของ อิสราเอล ยังคงแสดงท่าทีแข็งกร้าวโดยย้ำจุดยืนที่ว่าจะยังคงไม่มีการหยุดยิงกับกลุ่มฮามาสจนกว่าจะมีการปล่อยตัวประกันทั้งหมด พร้อมกับยืนยันว่า จะดำเนินมาตรการทุกวิถีทางเพื่อพาตัวประกันทั้งหมดกลับบ้าน
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง