วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ครีเอเตอร์มากฝีมือของประเทศไทย ตัวแทน Gen X ได้เผยแนวคิด และมุมมองความแตกต่างของ Generation ในแต่ละช่วงอายุ โดยเชื่อว่าความแตกต่างของอายุไม่ใช่อุปสรรค แต่สิ่งสำคัญ คือ เรื่องของความเคารพ และข้อตกลงที่ทุกคนควรจะต้องมีความเป็น Professional ในบทบาทของตนเอง

วันที่ 13 มิถุนายน 2567 ในงานเสวนา “Talk of the Gens เปิดเวทีความคิด ของคนหลายเจน” ซึ่งภายในงานมีวู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ครีเอเตอร์มากฝีมือของประเทศไทย ในบทบาทตัวแทนกลุ่มคน GEN X ที่เคยเล่นมุกคำถาม ‘ปลาวาฬชุบแป้งทอด’ ให้ยังเป็นเรื่องขบขันในสมัยนั้น ที่มาร่วมพูดคุย และกล่าวถึงเรื่องของความแตกต่างของเจนในมุมมองต่างๆ

แนวคิด Work Life Balance ของคน GEN X 

หนึ่งเรื่องที่น่าสนใจในงานเสวนาครั้งนี้ สำหรับแนวคิด Work Life Balance ของคนในแต่ละเจน ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีแนวคิดที่แตกต่างกันสำหรับ วู้ดดี้ วุฒิธร ได้มองมุมการทำงานนี้ว่า “แน่นอนว่าวิวัฒนาการทำงานของคน GEN X มาจากกลุ่ม Baby Boomer ยังมีความคล้ายคลึงกันอย่างเถียงไม่ได้ แต่สำหรับผมมีแนวคิดเรื่องการเกษียณ หรือรางวัลในชีวิตเข้ามาเป็นแรงผลักดันให้กับตัวเอง เช่น การซื้อรถ การซื้อบ้าน”

...

 “ทัศนคติในการทำงานของคนเจนนี้มีคำนิยามว่า 'ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น หรือการทำงานหามรุ่งหามค่ำ' คำเหล่านี้แหละมักจะสื่อความหมายได้ดี เพราะบางครั้งประชุมยาวถึงตี 4 นั่งตัดต่องานเกิดมาคุยจนถึงเช้า หรือบางทีก็ก่อนออกอากาศประมาณ 15 นาทีก็เคยมาแล้ว ซึ่งเราก็ไม่ได้สนใจหรอกว่าจะช้า หรือจะเร็ว แต่รู้สึกว่างานต้องออกมาดี ดินฟ้าจะเป็นอย่างไร พ่อแม่จะรออยู่ที่บ้านยังไง เราจะรู้สึกว่า ‘งานต้องมาก่อน’ ฉะนั้นรุ่น GEN X ส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมการทำงานที่ต้องหนัก ถึงจะเท่มากสำหรับยุคผม” 

GEN X คือ การไล่ล่า และวิ่งไล่จับความสำเร็จไปเรื่อย “เชื่อไหมว่ามันก็นำพามาสู่ ‘โรคทางจิตเวช’ ในวัยนี้กันเยอะเป็นส่วนใหญ่ เพราะทุกคนมีพฤติกรรมเดียวกัน ต้องมีความเป๊ะ เป็น Perfectionist และต้องดีที่สุด ทำให้วันนี้ในการพูดถึง Work Life Balance ของผม ผมจึงไม่มีคำตอบ เพราะผมสามารถทำงานได้ทุกที่ ด้วยความสนุก ความเอนจอย ใช้เวลาวันต่อวัน มีโอกาสก็เที่ยว หรือบางครั้งก็เอางานไปทำด้วย และสนุกไปกับมัน” วู้ดดี้ กล่าว

ฐานะที่วู้ดดี้ เคยเป็นกลุ่มคน GEN X ที่ทำงานหนัก ซึ่งแน่นอนปัจจุบัน วู้ดดี้ วุฒิธร ได้กลายมาเป็นผู้บริหารบริษัท วู้ดดี้เวิลด์ จำกัด และต้องทำงานกับคนในหลากหลายเจเนอเรชัน รูปแบบการทำงานที่แตกต่างกันนี้เป็นอุปสรรคหรือไม่สำหรับครีเอเตอร์ GEN X คนนี้

มุมมองความต่างเจนของเด็กสมัยใหม่

วู้ดดี้ วุฒิธร กล่าวว่า “แน่นอนว่าผมต้องปรับจูนเยอะมาก ต้องใช้ความเข้าใจเด็กรุ่นใหม่ คุยกันให้เคลียร์ และเตือนตัวเองตลอดเวลาว่าจะไม่นำสไตล์การทำงานของเราไปยัดใส่ใคร แค่เราต้องปรับตัว เกรงใจต่อกัน และมีเงื่อนไขร่วมกันตั้งแต่เริ่ม ทำให้รู้สึกว่าความต่าง Gen นั้นไม่เป็นอุปสรรคเท่าไร จะเป็นยังไงไม่สำคัญ เราเคลียร์กันได้ เรื่องนิสัย และต้องมีข้อตกลงร่วมกันในการทำงานอย่างเป็น Professional ที่มีอยู่ในทุกเจน และทุกสายงานของตนเอง ตามมาตรฐาน และผลลัพธ์ที่ทำได้กับองค์กรเสียมากกว่า”

เทคโนโลยีสมัยใหม่ ChatGPT ที่เข้ามาช่วยคน GEN X 

วู้ดดี้ กล่าวถึงเรื่องของเทคโนโลยีว่า “เราอาจจะไม่ตรงกับคน GEN X คนอื่นๆ ด้วยความที่เราเป็นสื่อ ที่ชอบวิ่งไปข้างหน้าตลอดเวลา ซึ่งพอเทคโนโลยีใหม่ๆ มาเรามักจะกระโดดลงไปหาเลยทันทีสมัยนั้นก็จะเป็นเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม แต่ก็รู้สึกได้ว่าหลังๆ พออายุเยอะขึ้นเข้าเลข 40 ปีก็อาจจะขี้เกียจตาม แล้วจะรู้สึกว่าเราค่อยๆ ช้ากับเทคโนโลยีลง”

...

วู้ดดี้ วุฒิธร เห็นด้วยกับทัศนะจาก พี่ตุ้ม หนุ่มเมืองจันท์ ผู้เสวนาตัวแทน Baby Boomers กับคำพูดที่บอกว่า “AI เป็นจุดเปลี่ยนของเทคโนโลยี ที่เข้ามา และคนทุกเจนสามารถเริ่มต้นนับหนึ่งเท่ากันทุกๆ คน ”
วู้ดดี้ วุฒิธร เห็นด้วยกับทัศนะจาก พี่ตุ้ม หนุ่มเมืองจันท์ ผู้เสวนาตัวแทน Baby Boomers กับคำพูดที่บอกว่า “AI เป็นจุดเปลี่ยนของเทคโนโลยี ที่เข้ามา และคนทุกเจนสามารถเริ่มต้นนับหนึ่งเท่ากันทุกๆ คน ”

ปัจจุบันวู้ดดี้รู้สึกว่าตอนนี้มีตัวช่วย คือ ChatGPT ที่สามารถรังสรรค์ทุกอย่างให้กับเราเหมือนทานอสดีดนิ้ว และรู้สึกว่ายุคสมัยเทคโนโลยีของเรายังไม่ตกใจ ซึ่งโล่งใจมาก ปัจจุบันก็คุยกับ ChatGPT ในการทำงานบ่อยๆ” วู้ดดี้กล่าวทิ้งทาย ก่อนเห็นด้วยกับทัศนะจาก พี่ตุ้ม หนุ่มเมืองจันท์ ผู้เสวนาตัวแทน Baby Boomer กับคำพูดที่บอกว่า “AI เป็นจุดเปลี่ยนของเทคโนโลยีที่เข้ามา และคนทุกเจนสามารถเริ่มต้นนับหนึ่งเท่ากันทุกๆ คน”  

...

ความคิดเห็นทางการเมืองระหว่างเจน

เรื่องการเมือง วู้ดดี้เชื่อว่า “ทุกคนสนใจ แต่จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับคนคนนั้นให้ความสำคัญอย่างไร คนรุ่นใหม่บางคนก็อินการเมืองมาก หรือแม้กระทั่ง Baby Boomer บางคนก็ไม่สนใจเรื่องการเมืองเลยก็มี” 

ครีเอเตอร์ชาว GEN X กล่าวต่อว่า “สำหรับผม ผมอยากพูดการเมือง อยากแสดงความคิดเห็นในทุกวัน ผมจำได้ว่าวันหนึ่งเคยสัมภาษณ์นักการเมืองท่านหนึ่ง แต่กลับโดนสังคมก่นด่าว่าสนับสนุนเลือกข้าง ซึ่งเราก็งงว่าในฐานะที่เราเป็นสื่อ เราต้องเป็นกลางสิ จนมีคนคนหนึ่งกล่าวกับผมว่า ‘ประเทศไทยไม่มีคำว่ากลาง’ ซึ่งผมว่าแปลกมากสำหรับประเทศเรา ซึ่งประเทศอื่นๆ นั้นสามารถแลกเปลี่ยนกันได้ นี่เลยกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราถอยออกมาจากคำว่าการเมือง ปัจจุบันก็เลยคุยกับแฟนเสียส่วนใหญ่ ถกเถียงกันแทน”

รัฐบาลในฝันของ วู้ดดี้ วุฒิธร ต้องเป็นอย่างไร 

“รัฐบาลในฝัน ไม่ใช่รัฐบาลที่ผ่านมาทั้งหมด เหมือนจะดีแต่ยังไม่ดี เหมือนจะได้แต่ยังไม่ได้ มันก็ยังไม่มีความโปร่งใส… เราวนลูปแบบนี้มานานครับ แต่ผมเชื่อว่ารัฐบาลในเจนต่อไปจะอยู่กับสิ่งที่มีเสถียรภาพ และมั่นคงกว่านี้” วู้ดดี้ กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

หากวุฒิธร มิลินทจินดา เป็นรัฐมนตรี

วู้ดดี้ กล่าวต่อจากประเด็นรัฐบาลในฝันว่า “ถ้าเกิดว่าผมได้เป็นรัฐมนตรี เก้าอี้เดียวที่ตั้งใจไว้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง คือ รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ เพราะผมคิดว่าการศึกษาไทยควรเปิดกว้างได้แล้ว เพราะตั้งแต่อดีต-ปัจจุบัน นี่คือกระทรวงเดียวที่เปลี่ยนแปลงได้ยากมาก บริบทในการเรียนยังไง ยังคงเหมือนเดิม เปลี่ยนช้ามาก เด็กไทยในอนาคตจำเป็นต้องเปลี่ยน และต้องคิดใหญ่กว่าประเทศไทย ณ ปัจจุบัน ซึ่งเป็นหนึ่งในหน้าที่ของผู้ใหญ่อย่างเราในการผลักดันเด็กๆ เรานี้ในเจนอัลฟาและเจนในลำดับต่อๆ ไป”

...

คิดอย่างไรกับคำว่า ‘อาบน้ำร้อนมาก่อน’ 

“ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ใช้ไม่ได้แล้วละ คนแต่ละคนมีมุมมองที่ซับซ้อน และในความซับซ้อนมันทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ซึ่งในปัจจุบันคนเจนใหม่ๆ อาจจะแค่ต้องการเลย ณ วันนี้ แต่โลกในความเป็นจริง คือ แน่นอน และไม่แน่นอน” ผู้บริหารบริษัท วู้ดดี้เวิลด์ กล่าว

ย้ายประเทศ คิดเล่น หรือเอาจริง

ความเห็นจาก วู้ดดี้ วุฒิธร เผยว่า “ประเทศไทยเปรียบเสมือนหมู่บ้านหนึ่งที่ยังไม่ก้าวหน้า ผมคิดมาเสมอว่าประเทศไทยอนาคตวันนั้นมันจะสวยงามด้วยความคิดใหม่ๆ ของคนเจนใหม่ เชื่อไหมว่าในปัจจุบันมุมมองของผมเปลี่ยนไปตามคนสมัยใหม่ที่ว่า เราไม่ใช่คนไทย แต่เราเป็นประชากรของโลก ฉะนั้นอย่ามองว่าคนเราจะสามารถทำงาน และใช้ชีวิตได้แค่ที่เมืองไทย แต่ถ้าคุณมีโอกาสก็ให้รีบคว้าไว้ ยิ่งในปัจจุบันผนวกกับเทคโนโลยีด้วยคนสามารถทำงานได้ทั่วโลก แถมยังอยู่ในประเทศไทยได้เหมือนเดิม”

วู้ดดี้ กล่าวเสริมจากประเด็นข้างต้นว่า “อย่าปิดตัวเองว่าจะต้องอยู่แต่ในประเทศไทย ในอนาคตข้างหน้าไม่แปลกเลยที่เด็กไทยจะไม่อยู่เมืองไทย เพราะมันมีโอกาสมากมายในต่างประเทศ ด้วยนโยบาย และเหตุผลมากมายอย่าง เช่น ปากท้อง บางประเทศเขาถึงกับมีข้อเสนอดีๆ ดึงสมองคนในหลายๆ ประเทศทั่วโลกไปอยู่ด้วยเลยก็มี แต่สำหรับผมคิดว่ายังไงประเทศไทยก็ยังเป็นประเทศที่น่าอยู่จริงๆ วัฒนธรรม ธรรมชาติ ความคุ้นชิน ไม่ว่าเด็กรุ่นใหม่จะคิดเล่น หรือเอาจริง พวกเขานั่นแหละต้องเป็นคนตัดสินใจในอนาคตด้วยปัจจัยของเขาเอง”