แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส สาวสวยลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย วัย 24 ปี ดีกรีตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2021 (Miss Universe Thailand 2021) ผู้ปลุกกระแส Real Size Beauty ให้ผู้คนตื่นตัวเรื่องการภูมิใจในรูปร่างของตนเองด้วยการก้าวข้าม Beauty Standard
จากการเป็นผู้นำทางความคิดที่ทำให้ผู้คนในสังคมตื่นตัวเรื่องการเคารพรูปร่างของตนเองและผู้อื่น เธอจึงเป็นตัวแทนของกลุ่มคนรุ่นใหม่วัย Gen Z ที่กล้าพูด กล้าทำ กล้าแสดงออก โดยเป็นหนึ่งในสปีกเกอร์ของงาน Thairath Forum 2024 ในหัวข้อ Talk of the Gens เปิดเวทีความคิด หลากหลายมุมมองของคนหลายวัย
วิธีดูแลความสัมพันธ์กับคนต่างเจน
เมื่อถามถึงวิธีการดูแลความสัมพันธ์ระหว่างคนต่างเจนที่มักจะมีแนวคิดต่างกันไปตามช่วงวัย แอนชิลีบอกว่าสำหรับเธอแล้วสิ่งสำคัญคือ การเคารพ รับฟัง กล้าที่จะพูด แชร์ความคิดเห็นของเรา และต้องกล้าที่จะถามคำถาม หากไม่เข้าใจเรื่องไหนก็ควรถามเพื่อให้รู้ เพราะเธอเชื่อว่าเป็นสิทธิของการที่จะอยากรู้และเข้าใจ
...
ขณะเดียวกัน เธอก็ยอมรับว่าคนต่างวัยย่อมมีประสบการณ์มากกว่าคนรุ่นใหม่แบบเธอ การรับฟังแล้วนำมาปรับใช้ให้เข้ากับวิถีของตนเองก็เป็นเรื่องที่ดี
“เราก็ต้องยอมรับว่าคนอายุมากกว่าเรา เขาผ่านอะไรมาเยอะมากเลยที่เราคงยังไม่รู้ว่าเราต้องผ่านสักวันหนึ่งด้วย หนูคิดว่าถ้าเรารับฟังตรงนั้นแล้วเอามาปรับในวิธีของเรา หนูคิดว่ามันมันคงมันคงเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เลย”
ในทางกลับกัน หากคนเจนอื่นไม่เข้าใจคนรุ่นใหม่แบบเธอ เธอก็เคารพในสิทธิของเขา เพราะเธอมองว่าการจะทำให้คนทั้งโลกมาเข้าใจตัวเราคงเป็นเรื่องยากและไม่มีทางเป็นไปได้
ถ้าให้เลือกเป็นรัฐมนตรีได้ อยากเป็นกระทรวงไหน เพราะอะไร
“รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาฯ” คือคำตอบที่ชัดเจนของแอนชิลี เมื่อเราถามเธอว่าถ้าหากมีโอกาสได้เป็นรัฐมนตรีของไทยได้ เธออยากเป็นรัฐมนตรีของกระทรวงไหน โดยเธอให้เหตุผลว่าอยากให้โรงเรียนไทยปรับรูปแบบการเรียนการสอนให้เด็กนักเรียนมีวิธีคิดแบบ Critical Thinking หรือการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เพื่อให้เกิดการคิดและตั้งคำถามกับสิ่งต่างๆ รอบตัว
“หนูเคยได้ยินจากเพื่อนคนไทยที่เรียนโรงเรียนในไทยว่าเราไม่มีการสอนแบบ Critical Thinking เพราะหนูเชื่อว่าการที่เราได้ตั้งคำถามว่า ทำไมต้องทำอย่างนี้ ทำเพื่ออะไร มันช่วยอะไร การสอนแบบนี้จะทำให้เราหา Solution ของเราเองได้ หนูคิดว่าอันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะการที่เราอยากเติบโตในสังคมที่จะไม่มีใครมาสอนว่าเราต้องทำแบบไหน มันคือชีวิตของเรา ถ้าเราตัดสินใจทำอะไรได้เพื่อตัวเอง เพื่ออะไร ทำไมต้องทำ หนูคิดว่ามันสำคัญมากๆ เลย”
ส่วนเวลาที่เธอคิดว่าเหมาะสมกับการรับตำแหน่งนี้คือหลังมีลูก เพราะการจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาฯ ได้ก็ควรเข้าใจความสัมพันธ์ของการมีเด็กในชีวิตตัวเองเสียก่อน
ประเทศไทยในฝันอีก 3 ปีข้างหน้าของแอนชิลี
สิ่งที่เธอคาดหวังว่าอยากจะให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยในอีก 3 ปีข้างหน้า คือ การมีฟุตบาทที่ดีขึ้น คนขับรถหยุดให้คนข้ามถนนตรงทางม้าลาย การจราจรมีสภาพคล่องขึ้น มีคุณภาพอากาศที่ดีขึ้น นอกจากนี้ เธอยังหวังว่าคนไทยจะกล้าที่จะใช้ชีวิตด้วยตนเองคนเดียวโดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นตลอดเวลา
...
“หนูขอให้คนใช้ชีวิตของตัวเองมากขึ้น อยากให้ทำอะไรด้วยตัวเองมากขึ้น เพราะไม่ค่อยเห็นคนไปทำอะไรด้วยตัวเองคนเดียว เช่น ไปดูหนังคนเดียว ไปกินข้าวคนเดียว หนูหวังว่าคนกล้าที่จะทำอย่างนี้มากขึ้น กล้าที่อยากจะไปใช้ชีวิตของตัวเองมากขึ้น ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นมากขึ้น แล้วหาความสุขในตัวเองได้มากขึ้น”
เป้าหมายความสำเร็จในปัจจุบันและในอนาคตหลังอายุ 30 ปีของแอนชิลี
เป้าหมายความสำเร็จในปัจจุบันที่แอนชิลีตั้งเป้าไว้คือการมีธุรกิจส่วนตัวเป็นของตนเอง ซึ่งเธอสนใจอยากทำธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพเพื่อทำให้คนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น นอกจากนี้ เธอก็อยากใช้ชีวิตอยู่ใกล้คุณพ่อคุณแม่ รายล้อมไปด้วยเพื่อนที่รักเธอ
ส่วนเป้าหมายความสำเร็จตอนหลังอายุ 30 ปีที่เธอคาดหวังไว้คือการมีชีวิตครอบครัวที่ดี ได้อยู่กับคนที่รักเธอ ได้ใช้ชีวิตอย่างเพียงพอ พร้อมกับได้ทำธุรกิจส่วนตัวโดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น รวมทั้งได้ไปท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ ที่เธอยังไม่เคยไป และเธอตั้งใจว่าจะได้วิ่งมาราธอน ซึ่งนี่คือการประสบความสำเร็จในชีวิตในแบบของแอนชิลี
...
ภาพ : ศรันย์ พงษ์สวัสดิ์