ชื่อของ "เรือหลวงสุโขทัย" ที่ประสบเหตุเรือเอียงและอับปางลงกลางทะเลประจวบคีรีขันธ์เมื่อกลางดึกคืนวันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค. 2565 กลายเป็นที่สนใจจำนวนมาก เรือนี้มีประวัติน่าสนใจอย่างไร

ประวัติเรือหลวงสุโขทัย

จากข้อมูลบนเว็บไซต์กองเรือฟรีเกตที่ 1 ของกองทัพเรือไม่ได้ระบุว่าเรือหลวงสุโขทัยเริ่มต้นใช้งานครั้งแรกในปีใด โดยให้ข้อมูลว่าเป็นเรือคอร์เวตชุดเรือหลวงรัตนโกสินทร์ (2 ลำ) สร้างโดย TACOMA BOATBUILDING COMPANY ที่เมือง TACOMA สหรัฐอเมริกา โดยเรือหลวงสุโขทัยมีชื่อเดิมว่า RTN 252 FT PSMM MK-16 #446 ที่ได้รับการติดตั้งระบบอาวุธยุทโธปกรณ์และระบบอำนวยการรบที่ทันสมัย มีขีดความสามารถและประสิทธิภาพสูงพร้อมปฏิบัติการรบได้ทั้ง 3 มิติในเวลาเดียวกัน คือ การป้องกันภัยทางอากาศ ผิวน้ำ และสงครามปราบเรือดำน้ำ

คุณสมบัติของเรือหลวงสุโขทัย

  • ระวางขับน้ำ: ปกติ 866.8 ตัน / เต็มที่ 958.9 ตัน
  • กว้างxยาวxสูง: 9.6 x 76.7 x 26.82 เมตร
  • น้ำลึกหัว: 3.81 เมตร
  • น้ำลึกท้าย: 3.07 เมตร
  • โดมโซนาร์: 4.5 เมตร
  • เครื่องจักรใหญ่: ดีเซลจำนวน 2 เครื่อง ชนิด 4 Stroke, Single Action แบบ 20V 1163 TB 83 กำลัง 7,268 แรงม้า
  • เครื่องไฟฟ้า: จำนวน 4 เครื่อง ชนิด Self-Regulating Brushless Alternators แบบ DKB 100/550-4TS
  • ความเร็ว: มัธยัสถ์ 16 นอต สูงสุด 24 นอต
  • ระยะปฏิบัติการสูงสุด: 3,568 ไมล์ทะเล

ภารกิจของเรือหลวงสุโขทัย

ภารกิจหลักของเรือหลวงสุโขทัยคือการปราบเรือดำน้ำ ลาดตระเวนตรวจการณ์ คุ้มกันกระบวนเรือ สนับสนุนการยิงฝั่ง ส่วนภารกิจรองคือสนับสนุนภารกิจกองทัพเรือ

ขีดความสามารถของเรือหลวงสุโขทัย

...

  • ระดมยิงด้วยปืน 76/62 OTO MELARA 1 กระบอก
  • ต่อสู้อากาศยานด้วยปืนกล 40L70 มิลลิเมตร แท่นคู่ 1 กระบอก
  • ป้องกันระยะประชิดด้วยปืนกล 40L70 มิลลิเมตร แท่นคู่ ปืนกล 20 มิลลเมตร 2 กระบอก และเครื่องทำเป้าลวง DAGAIE
  • ระบบอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น-สู่-พื้น แบบ HARPOON BLOCK 1C
  • ระบบอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น-สู่-อากาศ แบบ ASPICE 2000 ด้วยแท่นยิง ALBATROS Mk2 9/T
  • ท่อตอร์ปิโด 2 แท่น MK 32 MOD5

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เรือหลวงสุโขทัยเอียงจนอับปางในเวลา 23.30 ของคืนวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2565 มาจากคลื่นลมแรง จนทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ จนทำให้เครื่องไฟฟ้าดับ และส่งผลต่อเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงานเป็นเหตุให้เรือไม่สามารถควบคุมเรือได้ และทำให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็วจนทำให้เรือเอียงและอับปางในเวลาต่อมา ซึ่งกำลังพล 110 นาย ที่อยู่บนเรือหลวงสุโขทัย ได้รับการช่วยเหลือปลอดภัยเบื้องต้นประมาณ 70 นาย ส่วนอีกประมาณ 30 นาย ที่สูญหายหลังเรืออัปปางยังอยู่ระหว่างการค้นหาของเจ้าหน้าที่