10 รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2024 แข็งแรง เข็นง่าย พับเก็บได้

10 รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2024 แข็งแรง เข็นง่าย พับเก็บได้

รถเข็นเด็กช่วยอำนวยความสะดวกเวลาเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็ก ไม่ต้องคอยระวังกับการอุ้มหรือจูงมือเด็กๆ ตลอดเวลา ทำให้สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ได้สะดวกขึ้น

สำหรับใครที่กำลังมองหารถเข็นเด็กให้ลูกน้อย บทความนี้ไทยรัฐช็อปปิ้งได้คัดเลือกรถเข็นเด็กที่มีความแข็งแรง เข็นง่าย และพับเก็บได้ มาแนะนำ พร้อมเคล็ดลับการเลือกซื้อรถเข็นเด็กมาให้แล้ว ติดตามได้ที่นี่

10 รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2024 เข็นง่าย พับเก็บได้ ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด - 4 ปี

1. รถเข็นเด็ก Joie Muze Lx Ts

รถเข็นเด็ก Joie Muze Lx Ts เป็นรถเข็นที่มีความแข็งแรง มาพร้อมระบบเบรกสัมผัสเดียว มีหลังคาผ้า UPF 50+ สามารถป้องกันความร้อนจากแสงแดด และรังสี UV ได้ถึง 99.99% และยังป้องกันละอองฝนได้ ตัวเบาะนั่งมีความกว้าง จะนั่งหรือนอนก็สบาย สามารถปรับเอนได้สูงสุด 170 องศา และปรับที่วางขาได้ 2 ระดับ ด้านหน้ามีถาดสำหรับวางอาหารและเครื่องดื่ม และใต้เบาะนั่งยังมาพร้อมตะกร้าสำหรับใส่ของหรือสัมภาระอื่นๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบล็อกนิรภัย 5 จุด ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน

  • เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด - 4 ปี น้ำหนักไม่เกิน 22 กก.
  • น้ำหนักรถเข็น 9.11 กก.
  • ถอดเป็นคาร์ซีทได้
  • พับเก็บและนำขึ้นเครื่องบินได้

ราคา 11,400 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Shopee / Lazada

2. รถเข็นเด็ก Stokke YOYO2

รถเข็นเด็ก YOYO2 เป็นอีกรุ่นยอดนิยม สามารถพับและกางได้ง่ายด้วยมือเดียว มีสายสะพายมาให้ในตัว ช่วยเพิ่มความสะดวกเวลาเดินทาง เบาะนั่งทำจากผ้าสัมผัสนุ่มสบาย ปรับเอนนอนได้สูงสุด 145 องศา มีหลังคาผ้า UPF 50+ ช่วยป้องกันละอองฝน ความร้อน และรังสี UV ได้ และยังมี Peekaboo Windows เป็นช่องตาข่ายเอาไว้มองเด็กๆ ในรถเข็น มีระบบโช้คทั้ง 4 ล้อที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของแบรนด์ อย่าง Hytrel® Elastomer Suspension ช่วยให้เข็นง่าย แข็งแรง ลดแรงกระแทก นอกจากนี้ยังมีระบบล็อกนิรภัย 5 จุด ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน

  • เหมาะสำหรับเด็ก 6 เดือน - 4 ปี น้ำหนักไม่เกิน 22 กก.
  • น้ำหนักรถเข็น 6.2 กก.
  • พับเก็บได้และนำขึ้นเครื่องบินได้

ราคา 18,900-19,000 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Shopee / Lazada

3. รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Luxuna Cushion

รถเข็นเด็ก Aprica ถูกคิดค้นและวิจัยโดยกุมารแพทย์ประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ได้รถเข็นเด็กที่มีโครงสร้างช่วยดูดซับแรงกระแทก ด้วย Omega Cushion หรือเบาะรูปตัว M ช่วยป้องกันภาวะ Baby Shaken Syndrome และยังมีหมอน Mamoru Support ช่วยประคองศีรษะ ลำคอ และสะโพก ช่วยให้นั่งและนอนได้สบายมากยิ่งขึ้น เบาะมีความนุ่มสบาย ระบายความร้อนได้ดี สามารถปรับเอนได้ถึง 165 องศา มีหลังคากันแดดขนาดใหญ่ มีตะกร้าเก็บของใต้เบาะ รถเข็นรุ่นนี้สามารถปรับเข็นได้ 2 ทิศทางโดยไม่ต้องยกเบาะ มีระบบโช้คทั้ง 4 ล้อ หมุนได้ 360 องศา ช่วยให้ควบคุมรถเข็นได้ง่าย

  • เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด - 3 ปี น้ำหนักไม่เกิน 18 กก.
  • น้ำหนักรถเข็น 5.6 กก.
  • พับเก็บได้

ราคา 19,400 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Shopee / Lazada

4. รถเข็นเด็ก Looping รุ่น SQUIZZ 3+

รถเข็นเด็กรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมล้อลูกปืนเกรดพรีเมียมแบบ High Speed พร้อมระบบโช้คทั้ง 4 ล้อ ช่วยให้เข็นได้ไหลลื่นมากขึ้น เบาะนั่งกว้างและให้สัมผัสนุ่มสบาย สามารถปรับเอนได้ถึง 180 องศา มีระบบล็อกนิรภัย 5 จุด ช่วยป้องกันเด็กตกจากรถเข็น มีหลังคากันแดดเป็นผ้า 2 ชั้น ช่วยป้องกันรังสียูวีได้ถึง 97.5% มีตะกร้าเก็บของขนาดใหญ่ใต้เบาะนั่ง แม้มีของอยู่ในตะกร้าก็สามารถพับเก็บได้

  • เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด - 4 ปี น้ำหนักไม่เกิน 20 กก.
  • น้ำหนักรถเข็น 6.9 กก.
  • พับเก็บและนำขึ้นเครื่องบินได้

ราคา 12,500-13,500 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Shopee / Lazada

5. รถเข็นเด็ก DOONA LIKI

DOONA LIKI รถเข็นเด็กที่สามารถเปลี่ยนเป็นจักรยานสามล้อได้ ล้อมีขนาดใหญ่ เข็นง่าย บริเวณล้อหน้ามีแป้นเหยียบสำหรับให้เด็กๆ วางเท้าและสามารถถีบเป็นจักรยานได้ เบาะนั่งใหญ่ มาพร้อมเข็มขัด ช่วยป้องกันเด็กตกจากรถเข็น มีหลังคาช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดด เป็นรถเข็นเด็กอีกหนึ่งรุ่นที่มีความคุ้มค่า เหมาะสำหรับการเดินทาง

  • เหมาะสำหรับอายุ 10 เดือน - 3 ปี น้ำหนักไม่เกิน 20 กก.
  • น้ำหนักรถเข็น 6.7 กก.
  • พับเก็บและนำขึ้นเครื่องบินได้

ราคา 10,990 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Shopee / Lazada

6. รถเข็นเด็ก Chicco We Stroller

Chicco We Stroller รถเข็นเด็กอีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะสำหรับใช้เดินทาง น้ำหนักเบาเพียง 5.5 กก. สามารถพับเก็บและนำใส่กระเป๋าได้ ตัวรถเข็นมีความแข็งแรง เบาะนั่งกว้าง ระบายอากาศได้ดี มีหลังคากันแดด ช่วยป้องรังสี UV SPF50+ ช่วยให้เด็กๆ สบายตัว ไม่รู้สึกร้อน มาพร้อมล้อที่แข็งแรง เข็นง่าย เหมาะกับทุกสภาพพื้นผิว ใต้เบาะนั่งมีตะกร้าผ้าตาข่าย สามารถเก็บของได้

  • เหมาะสำหรับแรกเกิด - 4 ปี น้ำหนักไม่เกิน 22 กก.
  • สามารถใช้กับคาร์ซีท รุ่น Chicco KAILY, KIROS i-Size และเปลนอนเด็กอ่อน Chicco Soft Carrycot ได้
  • น้ำหนักรถเข็น 6.7 กก.
  • พับเก็บและนำขึ้นเครื่องบินได้

ราคา 19,995 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Shopee / Lazada

7. รถเข็นเด็ก Keenz Airplus Ultimate 3.0 Next Gen

รถเข็นเด็กพับเก็บได้จาก Keenz รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีราคาไม่แพงจนเกินไป แต่มีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน เบาะนั่งสามารถปรับเอนนอนได้ถึง 180 องศา และมี U-Bar รองรับการใส่ถาดอาหาร มีหลังคารถเข็นขนาดใหญ่ ช่วยป้องกันแสงแดด และมีช่องตาข่ายสำหรับมองเด็กๆ ในรถเข็นได้ ล้อรถเข็นลื่น และใช้ระบบเบรกสัมผัสเดียว ช่วยให้หยุดรถเข็นได้ง่ายและปลอดภัย นอกจากนี้ด้านหลังและใต้เบาะนั่งมีตะกร้าขนาดใหญ่ ความจุ 40 ลิตร พร้อมซิปเปิด-ปิด สามารถเก็บสัมภาระได้ หรือใส่สัตว์เลี้ยงตัวเล็กได้

  • เหมาะสำหรับแรกเกิด - 5 ปี ส่วนสูงไม่เกิน 110 ซม.
  • น้ำหนักรถเข็น 6.8 กก.
  • พับเก็บและนำขึ้นเครื่องบินได้

ราคา 11,500-12,300 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Shopee / Lazada

8. รถเข็นเด็ก Apramo รุ่น Modul mini

รถเข็นเด็ก Apramo รุ่น Modul mini โดดเด่นด้วยคุณสมบัติพับเก็บอัตโนมัติได้ด้วยมือเดียว และมีปุ่มป้องกันการพับเก็บโดยไม่ได้ตั้งใจ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน รถเข็นมีขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับใช้เดินทางท่องเที่ยว เบาะนั่งทำจากผ้า สัมผัสนุ่มสบาย ช่วยระบายอากาศได้ดี ไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง หลังคากันแดดทำจากผ้า UPF50 ช่วยป้องกันแสงแดดและรังสี UV ได้ ล้อรถเข็นมีโช้คและระบบกันสั่นสะเทือนทั้ง 4 ล้อ ช่วยให้เข็นรถได้ลื่นไหลในทุกพื้นผิว และช่วยลดแรงสั่นสะเทือน

  • เหมาะสำหรับแรกเกิด - 4 ปี น้ำหนักไม่เกิน 22 กก.
  • น้ำหนักรถเข็น 7.7 กก.
  • พับเก็บและนำขึ้นเครื่องบินได้

ราคา 15,900 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Shopee / Lazada

9. รถเข็นเด็ก Saker

รถเข็นเด็ก Saker เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีความคุ้มค่า เบาะนั่งทำจากผ้าที่ช่วยระบายความร้อนได้ดี และออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ทำให้นั่งสบาย ไม่รู้สึกเมื่อย แม้นั่งเป็นเวลานาน สามารถปรับเอนได้ตั้งแต่ 110 – 170 องศา มีหลังคากันแดดที่ปรับได้ 3 ระดับ ล้อรถเข็นมีระบบโช้ค ช่วยเพิ่มความนุ่มนวล ลดแรงสั่นสะเทือน เข็นได้ง่ายโดยไม่ต้องออกแรงมาก พร้อมระบบล็อกล้อด้วยเท้า รถเข็นเด็กรุ่นนี้สามารถพับเก็บอัตโนมัติได้ด้วยมือเดียว และมีปุ่มป้องกันการพับโดยไม่ตั้งใจ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน

  • เหมาะสำหรับแรกเกิด - 4 ปี น้ำหนักไม่เกิน 22 กก.
  • น้ำหนักรถเข็น 6.4 กก.
  • พับเก็บและนำขึ้นเครื่องบินได้

ราคา 12,000 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Shopee / Lazada

10. รถเข็นเด็ก GLOWY รุ่น Cheetah II

รถเข็นเด็ก GLOWY รุ่น Cheetah II มาพร้อมระบบพับเก็บอัตโนมัติได้ด้วยมือเดียว เบาะนั่งนุ่มสบาย มีเสริมแผ่นรองหลังที่มีความกว้าง ช่วยให้นั่งหรือนอนได้สบายมากขึ้น สามารถปรับเอนนอนได้ถึง 170 องศา มีหลังคาสำหรับบังแดดปรับได้ 3 ระดับ พร้อมช่องตาข่าย ช่วยระบายอากาศและมองเด็กๆ ในรถเข็นได้ มีระบบล็อกล้อหลังเวลาจอด ช่วยป้องกันรถเข็นไหล ใต้เบาะนั่งมีตะกร้าสำหรับใส่สัมภาระ

  • เหมาะสำหรับแรกเกิด - 4 ปี น้ำหนักไม่เกิน 22 กก.
  • น้ำหนักรถเข็น 6.4 กก.
  • พับเก็บและนำขึ้นเครื่องบินได้

ราคา 5,985 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Shopee / Lazada

เคล็ดลับเลือกซื้อรถเข็นเด็กให้นั่งสบายและปลอดภัย

สำหรับพ่อแม่มือใหม่อาจกำลังสับสนว่าจะเลือกซื้อรถเข็นเด็กรุ่นไหนดี เลือกยังไงให้เด็กๆ นั่งและนอนได้สบายและปลอดภัย สามารถติดตามได้ที่นี่

1. ล้อรถเข็น

ล้อรถเข็นเป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แนะนำให้เลือกซื้อรุ่นที่ล้อหมุนได้ 360 องศา จะช่วยให้ควบคุมรถเข็นได้ง่าย และล้อควรมีระบบโช้คหรือระบบที่ช่วยลดการสั่นสะเทือน เพื่อป้องกันภาวะ Baby Shaken Syndrome ในเด็กทารก และช่วยให้เด็กๆ หลับสนิทระหว่างอยู่บนรถเข็น

2. ระบบเบรกล้อ

รถเข็นเด็กควรมีระบบเบรกล้อหลัง เพื่อป้องกันรถไหลเมื่อจอดรถเข็นอยู่กับที่หรือต้องจอดบนทางลาดชัน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

3. ระบบล็อก

แนะนำให้เลือกรถเข็นเด็กที่มีระบบล็อกนิรภัยหรือมีเข็มขัดรัดตัวเด็กกับเบาะ เพื่อป้องกันเด็กตกจากรถเข็น

4. การปรับเอนนอน

ควรเลือกรถเข็นที่ปรับเอนนอนได้ในตัว เพื่อรองรับอิริยาบถของเด็กได้ทั้งท่านั่งและท่านอน และยังช่วยให้เด็กนอนดูดขวดนมได้สะดวกอีกด้วย

5. เบาะนั่ง

เบาะนั่งรถเข็นควรอยู่สูงจากพื้นตั้งแต่ 50 ซม. ขึ้นไป เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่อาจกระเด็นจากพื้นระหว่างใช้งานรถเข็น และควรเลือกเบาะที่มีผัสนุ่ม ช่วยระบายอากาศได้ดี มีหมอนซัพพอร์ตศีรษะ คอ และหลัง เพื่อจัดท่าให้อยู่ในอิริยาบถที่ถูกต้อง จะทำให้เด็กๆ นั่งหรือนอนได้สบายตัวมากยิ่งขึ้น

6. มีหลังคาบังแดด

ในการเลือกซื้อรถเข็นเด็กแนะนำให้เลือกรถเข็นรุ่นที่มีหลังคากันแดด UPF50+ ที่สามารถป้องกันรังสี UV ได้ถึง 99% จะช่วยปกป้องผิวเด็กๆ ที่มีความบอบบางจากแสงแดดได้

ทั้งหมดนี้เป็นรถเข็นเด็กที่ไทยรัฐช็อปปิ้งคัดเลือกมาให้ พร้อมเคล็ดลับการเลือกซื้อ ถ้าหากชื่นชอบหรือสนใจรุ่นไหนสามารถเลือกซื้อจากลิสต์ข้างต้นได้ทันที หรือเลือกดูรุ่นอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ Shopee และ Lazada

(ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบราคาอีกครั้งก่อนสั่งซื้อ)

...

สินค้ามาแรงสินค้ามาแรง

OKADY ลูกโป่งตกแต่งหนามีให้เลือกหลายสีกลมพร้อมคุณสมบัติตกแต่ง บอลลูน

OKADY ลูกโป่งตกแต่งหนามีให้เลือกหลายสีกลมพร้อมคุณสมบัติตกแต่ง บอลลูน

ถูกลง23%

79