วิเคราะห์เหตุการณ์ หลังอิสราเอลโจมตีทางอากาศ สังหารผู้นำฮิซบอลเลาะห์ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อ อิหร่านจะเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น แต่ยังคงไม่เข้าร่วมสมรภูมิโดยตรง มองสหรัฐฯ หนุนหลังอิสราเอลและพยายามมีบทบาทในตะวันออกกลาง เหตุยอมไม่ได้ต้องเสียพื้นที่อิทธิพลเก่า
เมื่อวันเสาร์ ที่ 28 กันยายน 2567 กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) ออกมาประกาศว่า 'ซายเยด ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์' ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนถูกสังหาร หลังจากที่พวกเขาโจมตีทางอากาศใส่ศูนย์บัญชาการกลางของฮิซบอลเลาะห์ ในเขตทางตอนใต้ของกรุงเบรุตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
หลังจากนั้น กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ออกมายืนยันว่า นาสรัลเลาะห์ถูกสังหารจากการโจมตีดังกล่าวจริง ปิดตำนานผู้นำของกลุ่มที่อยู่มายาวนานถึง 32 ปี อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ให้คำมั่นว่าพวกเขาจะต่อสู้กับอิสราเอล เพื่อสนับสนุนกาซาและชาวปาเลสไตน์ รวมถึงเพื่อปกป้องเลบานอนและพลเรือนผู้มีเกียรติของประเทศนี้ต่อไป!
ขณะเดียวกันหลายประเทศในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นพันธมิตรของฮิซบอลเลาะห์ ต่างออกมาประณามการสังหารนาสรัลเลาะห์ของอิสราเอล ด้าน 'นาสเซอร์ คานานี' โฆษกกระทรวงต่างประเทศของอิหร่าน กล่าวประณามว่า การโจมตีทางอากาศครั้งนี้เป็นอาชญากรรมสงคราม ที่ทั้งอิสราเอลและสหรัฐฯ ต้องแสดงความรับผิดชอบ ส่วนสำนักนายกรัฐมนตรีอิรักประกาศไว้อาลัยแก่นาสรัลเลาะห์เป็นเวลา 3 วัน
...
ฮิซบอลเลาะห์ยังคงเข้มแข็ง :
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 'ดร.อารีฝีน ยามา' นักวิจัยศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้วิเคราะห์และให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวฯ ไทยรัฐออนไลน์ว่า การต่อสู้ครั้งนี้ผมคงไม่ดูแค่ที่ฉนวนกาซาแล้ว เพราะแม้ว่าอิสราเอลยังไม่ได้ยึดครอง แต่ก็เหมือนควบคุมได้ในระดับหนึ่ง และกำลังพยายามจะขยายสงครามสู่ที่มั่นอื่น ๆ ของผู้สนับสนุนฉนวนกาซา เช่น กลุ่มฮิซบอลเลาะห์
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมมองว่าอิหร่านจะเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เพราะเดือนที่แล้ว 'อิสมาอิล ฮานิเยห์' ผู้นำของกลุ่มฮามาสก็ถูกสังหารในเซฟเฮาส์ที่ดูปลอดภัย กลางกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน แม้ว่าไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าอิสมาอิลถูกฝ่ายไหนสังหาร เพราะอิสราเอลก็ไม่ได้ออกมาพูดถึงความรับผิดชอบโดยตรง แต่ทางอิหร่านเชื่อว่าเป็นฝีมืออิสราเอล
ส่วนกรณีของ 'ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์' แน่นอนว่าเป็นการถูกสังหารจากทางอากาศ โดยกองกำลังของอิสราเอลทิ้งระเบิดกลางกรุงเบรุต นี่คืออุณหภูมิที่รุนแรงเพิ่มขึ้นทุกที คาดว่าอิหร่านกำลังพยายามเพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะกับผู้นำสูงสุดของประเทศอย่าง 'อาลี คาเมเนอี'
"ผมเข้าใจว่าตอนนี้ทางอิหร่านมีความกังวลกับบุคคลสำคัญของประเทศ เพราะมีความเสี่ยงจะถูกลอบสังหารโดยอิสราเอล เนื่องจากมอสซาด (Mossad) ของอิสราเอลมีความเชี่ยวชาญในการลอบสังหารบุคคลสำคัญของฝ่ายตรงข้ามอยู่แล้ว"
นักวิจัยศูนย์มุสลิมศึกษา มองว่า แม้จะสิ้นนาสรัลเลาะห์ แต่เชื่อว่าฮิซบอลเลาะห์มีตัวแทนที่พร้อมจะขึ้นแทนแล้ว เพราะฮิซบอลเลาะห์ยังเป็นกองกำลังที่เข้มแข็ง เป็นองค์กรทางการเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมายในเลบานอน และมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่ในสภา 28 คน จากหนึ่งร้อยกว่าคน
"ฮิซบอลเลาะห์ถือเป็นพรรคการเมืองใหญ่และถูกต้องตามกฎหมาย แม้ว่าตะวันตกจะมองว่าพวกเขาเป็นผู้ก่อการร้าย เพราะฉะนั้นผมคิดว่าพรรคการเมืองและกองกำลังฮิซบอลเลาะห์จะยังคงเข้มแข็งต่อไป แค่ต้องหาผู้นำขึ้นมาใหม่" ดร.อารีฝีน แสดงความคิดเห็น
...
อิหร่านไม่ลงสนามเอง :
แม้ว่าสมรภูมินี้จะร้อนแรงขึ้นมากเท่าไร แต่ ดร.อารีฝีน มีความคิดเห็นว่า สุดท้ายแล้วอิหร่านคงจะไม่ลงไปเล่นเอง เพราะขณะนี้ถึงจะมีปัญหาต่าง ๆ เข้ามา แต่ช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจอิหร่านมีท่าทีกระเตื้องขึ้นเรียกได้ว่ากำลังไปได้ดี หากอิหร่านพลาดพลั้งเข้ามามีส่วนกับสงครามโดยตรง อาจทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี ฉะนั้น อิหร่านจะยังใช้กองกำลังที่ตนสนับสนุน เช่น กองกำลังฮูตีในเยเมน เป็นสงครามตัวแทนต่อไป
"ที่สำคัญอิหร่านเปิดเผยชัดเจนว่าให้การสนับสนุนต่อฮิซบอลเลาะห์ และให้ความสำคัญกับกลุ่มนี้ การต่อสู้ครั้งนี้ผมคิดว่าน่าจะมีการตอบโต้ไปมา แต่คงไม่ถึงกับบานปลายเป็นสงครามที่ขยายกว้าง แต่ก็ต้องบอกก่อนว่านี่เป็นเพียงความคิดเห็นของผม" ดร.อารีฝีนย้ำกับเรา
อเมริกาอยู่เบื้องหลังอิสราเอล? :
คาดว่าฝั่งอิสราเอลจะมีท่าทีอย่างไรต่อไป ทีมข่าวฯ สอบถามปลายสาย ดร.อารีฝีน ระบุว่า จากการที่ผมได้ติดตามของช่อง อัล จาซีรา (Al Jazeera) ซึ่งผมดูแบบที่เป็นภาษาอาหรับ เขาจะรายงานว่านี่คือสงครามระหว่าง "ฮิซบอลเลาะห์ อิสราเอล และสหรัฐอเมริกา"
...
จุดนี้ผมมองว่าเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญเลยนะ เพราะเขาไม่ได้เจาะจงแค่อิสราเอลแต่กล่าวถึงสหรัฐฯ ด้วย หมายความว่า พวกเขามองว่าการที่อิสราเอลกล้าทำขนาดนี้ แสดงว่ามีแบล็คที่ดีเปิดทางให้เดินหน้าไปได้ แม้ว่าในที่ประชุมสหประชาชาติ เราจะเห็นว่าอเมริกาพยายามที่จะให้สองฝ่ายประณีประนอมกัน แต่โดยเบื้องหลังอเมริกาก็มีการสนับสนุนอิสราเอลอย่างชัดเจน อันนี้ปฏิเสธไม่ได้
"ดังนั้น การตอบโต้ยังคงดำเนินต่อไป ไม่ว่าจะจากฝั่งอิสราเอลหรือฮิซบอลเลาะห์ แต่ที่น่าเศร้าใจคือในเลบานอนเองก็มีผู้เสียชีวิตนับร้อยแล้ว" นักวิจัยศูนย์มุสลิมศึกษา กล่าวถึงความจริงอันน่าเจ็บปวด จากผลพวงแห่งไฟสงคราม
สหรัฐฯ หวั่นเสียอำนาจในตะวันออกกลาง? :
ดร.อารีฝีน ยามา แสดงความคิดเห็นว่า สงครามยังคงดำเนินต่อเพราะถ้าทุกอย่างสงบลงอิทธิพลของสหรัฐฯ จะหายไป โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นความพยายามของอเมริกาที่จะเข้าไปสนับสนุน เพราะหลังจากที่นำกองกำลังออกจากอิรักและอัฟกานิสถาน ทำให้เขาเสียอิทธิพลจากตะวันออกกลางค่อนข้างมาก
...
"เราจะเห็นว่าตะวันออกกลางมีความเป็นหนึ่งเดียว และสมัครสมานสามัคคีมากขึ้น และจีนอาจจะเข้ามามีบทบาทในตะวันออกกลาง ในการร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ ฉะนั้น อเมริกายอมไม่ได้ที่จะต้องเสียพื้นที่อิทธิพลเก่าของตัวเอง เลยพยายามเข้ามามีบทบาทอีกครั้ง ด้วยการสร้างตัวละครที่ทำให้ตนเกิดความชอบธรรม ที่จะเข้ามามีอิทธิพลในภูมิภาคแห่งนี้ขึ้น"
นักวิจัยศูนย์มุสลิมศึกษา แสดงทรรศนะว่า หากนานาชาติมองว่านี่คือความรุนแรง และเกิดการประณามมากขึ้น สุดท้ายจะจบลงที่การเจรจาหยุดยิง แต่ขณะนี้การโต้ตอบยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะไม่บ่อยมากนัก
"ผมคิดว่าประเด็นนี้เป็นการเมืองอย่างชัดเจน ไม่ใช่ประเด็นศาสนา การเมืองระหว่างประเทศ ไม่มีขาว ไม่มีดำ ไม่มีผิด ไม่มีถูก แต่มันขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ ดังนั้น การเสพข่าวต้องมีการวิเคราะห์ ไม่ได้จะเข้าข้างฝ่ายไหนถูกหรือผิด แต่มองโลกตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นมากกว่า" ดร.อารีฝีน กล่าวส่งท้าย
ภาพ : AFP