รวมเรื่อง "สุดว้าวุ่นในแคมป์ทีมชาติเกาหลีใต้" ก่อนดวลทีมชาติไทย หลัง “Ping Pong Gate” ยังถูกตั้งคำถามถึง "การเซาะกร่อนบ่อนทำลายสปริตภายในทีมแทกุกวอร์ริเออร์ส..."

เรื่องราว "สุดว้าวุ่นในแคมป์ทีมชาติเกาหลีใต้" ทีมอันดับ 22 ของโลก (FIFA Ranking ณ วันที่ 20 มี.ค.24) ก่อนดวลแข้งกับทีมชาติไทย (ทีมอันดับที่ 101 ของโลก) ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย กลุ่ม C ในนัดที่ 3 ที่สนามโซล เวิลด์คัพ สเตเดียม (Seoul World Cup Stadium) หลังเรื่องอื้อฉาวที่ถูกตั้งฉายาจากสื่อมวลชนในเกาหลีใต้ว่า “Ping Pong Gate” ยังคงทำให้เกิดความเคลือบแคลงเรื่อง “ความสมัครสมานสามัคคีภายในทีม” 

หนำซ้ำ การเรียก “อี คัง อิน” (Lee Kang In) เพลย์เมกเกอร์จาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ต้นตอการก่อกบฏต่อนักเตะรุ่นพี่ ซึ่งนำไปสู่ความล้มเหลวในศึกเอเชียนคัพที่ประเทศกาตาร์ ยังทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงการใช้ “สองมาตรฐาน” และให้อภิสิทธิ์กับนักเตะมากพรสวรรค์แห่งอนาคตรายนี้มากเกินไปหรือไม่อีกด้วย

...

อะไรบ้างคือ “ผลพวง” ที่อาจนำไปสู่ “การเซาะกร่อนบ่อนทำลาย” สปริตภายใน “ทีมแทกุกวอร์ริเออร์ส (Taeguk Warriors)”  ได้บ้าง วันนี้ “คุณ” และ “เรา” ไปร่วมพิจารณาประเด็นร้อนเหล่านั้นกันทีละประเด็น…  

อี คัง อินและรอยร้าวภายในทีมชาติเกาหลีใต้

“ผมได้รับความรักและการสนับสนุนมากมายจากแฟนๆ ในศึกเอเชียนคัพที่ผ่านมา แต่ผมกลับไม่ได้ตอบแทนอะไรให้กับพวกเขาเลย หนำซ้ำผมยังทำให้พวกเขาผิดหวังอีกด้วย ผมจึงอยากมาที่นี่เพื่อกล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจ เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทุกคนจะช่วยให้ผมเป็นคนที่ดีขึ้นและนักฟุตบอลที่ดีขึ้น และเป็นคนที่สามารถช่วยทีมและเป็นตัวอย่างที่ดีได้”

คำกล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการครั้งที่ 3 ของ “อี คัง อิน” วัย 22 ปี กลายเป็นสัญลักษณ์ที่ยังคงถูกตั้งคำถามอยู่ต่อไปว่า…

รอยร้าวที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ “ฉันจะเล่นปิงปองแกจะทำไม?” นั้น ที่สุดแล้วสามารถทำให้ทุกคนในทีมโดยเฉพาะนักเตะซีเนียร์เกิดความพึงพอใจและยินดีที่จะร่วมลงเล่นในสนามกับ “จอมห้าว” หรือนักเตะที่ร่วมแก๊งกับ “ไอ้หนู” ที่เคยหาญกล้าท้าทายนักเตะรุ่นพี่ มากน้อยแค่ไหน?

รวมถึงยังเป็นการเปิดช่องให้คิดได้ไกลไปกว่านั้นหรือไม่ว่า? บางที...ไฟที่คิดว่ามอดไปแล้ว อาจพร้อมลุกโชนขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะไม่เช่นนั้น อี คัง อิน จะต้องกล่าวขอโทษต่อสาธารณชนถึง 3 ครั้งไปเพื่ออะไร?

...

การไร้ซึ่งบทลงโทษต่อกรณีของ “อี คัง อิน” 

“ฮวัง ซอน ฮง” (Hwang Sun hong) อดีตผู้จัดการทีมชุด U-23 ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมชาติเกาหลีใต้แทนที่ “เยอร์เกน คลินส์มันน์” (Juergen Klinsmann) เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางทันที หลังเรียกตัว “อี คัง อิน” กลับคืนสู่ทีมชาติ ทั้งๆ ที่ Wonder Kid รายนี้ เพิ่งก่อเรื่องก่อราวจนนำไปสู่เหตุการณ์สุดอื้อฉาว จนมีปัญหากับรุ่นพี่ที่ได้รับความเคารพอย่างสูงในทีมอย่าง “ซอน เฮือง มิน” (Son Heung Min) ซุปเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของทีม 

โดย “ฮวัง ซอน ฮง” ให้เหตุผลถึงการตัดสินใจที่ขัดแย้งกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนบอลที่อยากให้ อี คัง อิน มีเวลาอีกพักใหญ่ๆ (หรือพูดง่ายๆ คือ ลงโทษหรือดัดนิสัย) สำหรับการไตร่ตรองความผิดที่เกิดขึ้นก่อนถูกเรียกตัวกลับคืนสู่ทีมชาติเอาไว้ว่า…

“การชะลอการเรียก อี คัง อิน กลับคืนสู่ทีมชาตินั้นไม่เกิดประโยชน์อะไร เมื่อพิจารณาจากพรสวรรค์ของนักเตะรายนี้ ขณะเดียวกันเขายังต้องการให้โอกาสกับ อี คัง อิน ได้เคลียร์ใจกับบรรดาเพื่อนร่วมทีมและเหล่านักเตะรุ่นพี่ในทีมชาติด้วย” 

...

อย่างไรก็ดี การชี้แจงดังกล่าว กลับถูกแฟนบอลเกาหลีใต้ส่วนหนึ่งโต้ตอบกลับทันทีว่า “แบบนี้ไม่เท่ากับว่าจากนี้ต่อไปทีมชาติเกาหลีใต้จะขาด "อี คัง อิน" ไม่ได้แล้วใช่หรือไม่?”

และอาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ก็เป็นได้...ที่ทำให้ ผู้จัดการทีมชาติเกาหลีใต้ ยังคงไม่ยืนยันว่า “อี คัง อิน” จะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดที่พบกับทีมชาติไทยในวันนี้ (21 มี.ค. 24) หรือไม่?

แคมเปญแบนอี คัง อิน ที่ยังดังกระหึ่ม 

การตัดสินใจดึง “อี คัง อิน” กลับคืนสู่ทีมชาติ ถูกต่อต้านจากแฟนบอลจำนวนหนึ่ง จนกระทั่งมีการผุดแคมเปญ “แบน อี คัง อิน” ด้วยการเรียกร้องให้งดการซื้อตั๋วเข้าชมการแข่งขันกับทีมชาติไทย ในวันที่ 21 มี.ค. ที่สนามโซล เวิลด์คัพ สเตเดียม (Seoul World Cup Stadium) ซึ่งมีความจุถึง 66,000 คน ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ

อย่างไรก็ดี....แม้ว่าในท้ายที่สุด แคมเปญดังกล่าวจะไม่สามารถทำให้เกิดผลกระทบใดๆ เนื่องจากสมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ (Korea Football Association) หรือ KFA อ้างว่า บัตรเข้าชมถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยงภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงหลังเปิดขายตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 มี.ค. แต่แคมเปญที่เกิดขึ้น ย่อมไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ยังคงมีแฟนบอลเกาหลีใต้จำนวนหนึ่งที่ยังคง “ติดใจ” กับการกระทำของ อี คัง อิน อยู่ 

...

ความอยากรู้อยากเห็นของสื่อมวลชน 

จนถึงปัจจุบัน เนื่องจากยังคงไม่มี “คำตอบ” ที่ชัดเจนว่าที่สุดแล้ว “อี คัง อิน” ได้ทำร้ายร่างกาย “Sonny” จนได้รับบาดเจ็บที่นิ้วในระหว่างศึกเอเชียนคัพจริงหรือไม่? 

ทำให้ทุกครั้งที่มีโอกาส สื่อของเกาหลีใต้จึงยังพยายามยื่นไมค์สอบถามไปยังทั้ง “อี คัง อิน” และ “ซอน เฮือง มิน” หรือนักเตะคนอื่นๆ อยู่ร่ำไป…ไม่เว้นแม้แต่ในระหว่างการกล่าวขอโทษต่อสาธารณชนครั้งที่ 3 ของ นักเตะวัยรุ่นมากพรสวรรค์ ก่อนร่วมลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมที่สนามโซล เวิลด์คัพ สเตเดียม วานนี้ (20 มี.ค. 24)

ทั้งๆ ที่ล่าสุด กัปตันทีมชาติเกาหลีใต้ ได้ยืนยันต่อหน้าสื่อแล้วว่า “อี คัง อิน” ได้ยืนต่อหน้านักเตะทุกคนและกล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจแล้ว พร้อมกับขอร้องสื่อมวลชนว่า ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องพยายามฝืนฝอยหาตะเข็บในเรื่องที่เกิดขึ้นอีกแล้ว 

พร้อมกับแสร้งทำทีเป็นพูดในเชิงขบขันว่า “เจ้านายผม (อังเก ปอสเตโคกลู ผู้จัดการทีมทอตแนมฮอตสเปอร์) บอกกับผมว่า ตั้งแต่ผมเป็นนักฟุตบอล ผมก็โอเคดีนี่ ถึงแม้ว่าจะไม่มีนิ้วก็ตาม” 

ความอึดอัดและแรงกดดันในแคมป์ทีมชาติ

ผู้จัดการทีมชาติเกาหลีใต้ ยอมรับผ่านสื่อว่า หลังความล้มเหลวในศึกเอเชียนคัพที่เต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาว โดยเฉพาะประเด็นความขัดแย้งที่เกิดจาก “อี คัง อิน” เหล่านักเตะ “แทกุกวอร์ริเออร์ส” (Taeguk Warriors) ส่วนหนึ่งเกิดความรู้สึกอึดอัดใจกับการถูกจับจ้องแทบทุกฝีก้าวจากสื่อมวลชนและแฟนบอล ที่ต้องการเฟ้นหาคำตอบเรื่อง “เหตุวิวาทปิงปอง” และประเด็นอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับ “อี คัง อิน”

ด้วยเหตุนี้ ผู้จัดการทีมชาติเกาหลีใต้คนใหม่จึงตัดสินใจ ห้ามทั้งแฟนบอลและสื่อมวลชนเข้ารับชมการฝึกซ้อมประจำวันในแคมป์ทีมชาติ หรือคอยติดตามสัมภาษณ์เหล่านักเตะ เพื่อให้ทุกคนมุ่งโฟกัสไปที่การแข่งขันกับทีมชาติไทยเพียงอย่างเดียว   

สารพัดเรื่องอื้อฉาวที่ยังถูกขุดคุ้ยต่อเนื่อง  

ก่อนเปิดแคมป์ทีมชาติ เพื่อเตรียมรับมือกับทีมชาติไทยไม่นานนัก สมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ ได้เกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นอีกครั้ง เมื่อถูกแฉว่า...มีสตาฟฟ์ระดับอาวุโสในทีมชาติจำนวนหนึ่ง ตั้งวงเล่นไพ่กับนักเตะจำนวนหนึ่งในระหว่างศึกเอเชียนคัพที่ประเทศกาตาร์ 

และแม้ว่าทาง KFA จะพยายามออกมาอธิบายว่า เป็นเพียงการเล่นเพื่อสังสรรค์โดยมีเดิมพันเพียงเล็กน้อยระหว่างนักเตะและสตาฟฟ์เท่านั้น แต่คำอธิบายนี้ถูกหักล้างลงอย่างสิ้นเชิง เมื่อปรากฏความจริงที่ว่า กลุ่มสตาฟฟ์ชุดดังกล่าวดันมี “ชิปโป๊กเกอร์” เหมือนกับที่ใช้ในบ่อนกาสิโน ในระหว่างที่ทีมชาติเกาหลีใต้ลงฟาดแข้งในศึกเอเชียนคัพด้วย และนั่นเองจึงทำให้ กลุ่มสตาฟฟ์ดังกล่าวถูกไล่ออกจาก KFA ในเวลาต่อมา  

ความสั่นคลอนของเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ 

จนถึงปัจจุบันเก้าอี้ของ “ชอง มง คยู” (Chung Mong-gyu) นายกสมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ ยังสั่นไหวอยู่อย่างต่อเนื่อง หลังความล้มเหลวในศึกเอเชียนคัพ และเรื่องอื้อฉาวต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดเสียงเรียกร้องให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใน KFA 

เนื่องจากมองว่า การครองเก้าอี้ในลักษณะ “อยู่แล้ว อยู่ต่อ และจะขออยู่ต่อไป” มาอย่างยาวนานถึง 4 สมัย ทำให้เกิดความไม่โปร่งใส และมีการรวบอำนาจในการบริหารมากเกินไป ดั่งจะเห็นได้จาก การยืนยันที่จะแต่งตั้ง “เยอร์เกน คลินส์มันน์” เป็นผู้จัดการทีมชาติโดยไม่รับฟังคำทัดทานใดๆ 

ซึ่งนั่นเท่ากับว่า...หากผลการแข่งขันในนัดที่พบกับทีมชาติไทยทั้ง 2 นัด เกิดไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ “บางที” แรงกดดันที่ต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอาจเดินทางมาถึง “เร็วกว่าที่คิด” ก็เป็นได้!

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน 

กราฟิก : Anon Chantanant  

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง