ทำความรู้จัก "มาซาทาดะ อิชิอิ" และร่วมสัมผัสความหวังของผู้ปลุกฟุตบอลไทยให้ตื่นจากหลับใหล...Before : 8 ส.ค. 22ถ้าหากผมได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมชาติไทย ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และผมเชื่อมั่นว่า จะสามารถรักษาความเข้มแข็งทั้งร่างกาย และจิตใจ เพื่อทำหน้าที่นี้ได้จนถึงอายุ 65 ปีมาซาทาดะ อิชิอิ (Masatada Ishii) ในฐานะผู้จัดการทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ณ ขณะนั้น) กล่าวให้สัมภาษณ์สื่อ After : 26 ม.ค. 24 เราพูดแล้วว่า เราทัวร์นาเมนต์นี้ เราจะเดินหน้าไปแบบเกมต่อเกม และเราจะทำแบบนี้ต่อไปแบบเป็นขั้นเป็นตอนมาซาทาดะ อิชิอิ ผู้จัดการทีมชาติไทย กล่าวกับสื่อหลังพาทีมช้างศึกสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญด้วยการผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 ด้วยสถิติสุดสวยหรู ลงเล่น 3 นัด มี 5 คะแนน ชนะ 1 และเสมอ 2 นัด และ “ไม่เสียประตูแม้แต่เพียงประตูเดียว” ... ซึ่งการเล่นเกมรับอันแข็งแกร่งนี้ มีเพียง “ทีมชาติกาตาร์” ในฐานะเจ้าภาพเท่านั้นที่ทำได้! คุณเริ่มอยากรู้จัก มาซาทาดะ อิชิอิ ชายผู้สร้างประวัติศาสตร์คนนี้มากขึ้นแล้วใช่ไหม? Who is Masatada Ishii? มาซาทาดะ อิชิอิ ปัจจุบัน อายุ 57 ปี เกิด : 1 ก.พ. 1967 จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น สูง : 179 ซม.น้ำหนัก : 71 กิโลกรัม สถิติและเกียรติประวัติในฐานะผู้จัดการทีม : สถิติการคุมทีม 265 นัด ชนะ 154 นัด (58%) เสมอ 36 นัด (14%) แพ้ 75 นัด 28%1.สโมสรคาชิมา แอนท์เลอร์ส (ปี 2015-2017) 96 นัด : ชนะ 59 นัด เสมอ 7 นัด แพ้ 30 นัดแชมป์เจลีก ปี 2016 แชมป์ลูวานคัพ ปี 2015แชมป์เอ็มเพอร์เรอร์คัพ ปี 2016 2. สโมสรโอมิยะ อาร์ดิจา (ปี 2017-2019)48นัด : ชนะ 22 นัด เสมอ 9 นัด แพ้ 17 นัด 3. สโมสรสมุทรปราการ ซิตี้ (ปี 2019-2021)49 นัด : ชนะ 20 นัด เสมอ 10 นัด แพ้ 19 นัด 4. สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ปี 2021-2023)68 นัด : ชนะ 52 นัด เสมอ 8 นัด แพ้ 8 นัด แชมป์ไทยลีก 2 ครั้ง (ฤดูกาล 21/22, 22/23)แชมป์ เอฟเอ คัพ 2 ครั้ง (ฤดูกาล 21/22, 22/23)แชมป์ลีกคัพ 2 ครั้ง (ฤดูกาล 21/22, 22/23)ทีมชาติไทย : ได้รับการแต่งตั้ง พฤศจิกายน 2566แข่ง 4 นัด ชนะ 1 นัด เสมอ 2 นัด แพ้ 1 นัด (สิ้นสุดวันที่ 26 ม.ค. 67)มาซาทาดะ อิชิอิ กับ จุดเริ่มต้นการค้าแข้ง : มาซาทาดะ อิชิอิ เข้าชมรมฟุตบอลในระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนอิจิฮารา มิโดริ (Ichihara Midori High School) ก่อนจะเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยจุนเทนโด (Juntendo University) ในปี 1987 จากนั้น ได้เข้าร่วมทีม Sumitomo Metal Factory Football Club ปัจจุบัน คือ “สโมสรคาชิมา แอนท์เลอร์ส” (Kashima Antlers) ทำให้ถือเป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมทีมของ “ซิโก้” หรือ “เปเล่ขาว” อดีตนักเตะชื่อดังของทีมชาติบราซิล โดยมีสถิติการค้าแข้งกับ คาชิมา แอนท์เลอร์ส ในศึกเจลีกตั้งแต่ปี 1993-1997 รวม 94 นัด ยิง 3 ประตู และคว้าแชมป์เจลีกได้ 1 ครั้ง แชมป์ลูวานคัพ 1 ครั้ง และ แชมป์เอ็มเพอร์เรอร์คัพ 1 ครั้ง ก่อนจะไปแขวนสตั๊ดกับสโมสร อัลวิสตา ฟุกุโอกะ ในปี 1998 ตอนอายุ 31 ปี เส้นทางสู่ผู้จัดการทีมเมื่อครั้งทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมคาชิมา แอนท์เลอร์ส นั้น มาซาทาดะ อิชิอิ มักไม่แสดงออกถึงภาพลักษณ์ความเป็นเจ้านายที่สั่งการและควบคุมนักเตะอย่างสมบูรณ์แบบ แต่สิ่งที่แสดงออกมาคือการเป็นพี่ใหญ่ใจดีในการสื่อสารกับบรรดานักเตะมากกว่า ทัศนะและมุมมองจากสื่อกีฬาญี่ปุ่น ความรุ่งโรจน์ : ปี 1999 : หลังแขวนสตั๊ด มาซาทาดะ อิชิอิ กลับไปรับหน้าที่โค้ชทีมเยาวชนให้กับถิ่นเก่า คาชิมา แอนท์เลอร์ส ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ผู้จัดการทีมในปี 2015 โดยถือเป็นผู้จัดการทีมชาวญี่ปุ่นคนแรกในรอบ 21 ปีของสโมสรแห่งนี้ หลังนิยมใช้กุนซือต่างชาติมาอย่างยาวนาน ปี 2016 : พาทีมคาชิมา แอนท์เลอร์ส คว้าแชมป์เจลีกได้เป็นผลสำเร็จ ทำให้เขาสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ลีกได้ทั้งในฐานะนักเตะและผู้จัดการทีม เป็นคนแรกของเจลีก และในปีเดียวกันนั้นเอง มาซาทาดะ อิชิอิ ยังสามารถพา “เจ้ากวางเขาเหล็ก” ให้กลายเป็นทีมแรกจากทวีปเอเชีย ที่สามารถเข้าชิงชนะเลิศในศึกชิงแชมป์สโมสรโลกได้สำเร็จ ก่อนจะไปพ่ายแพ้ให้กับราชันชุดขาว “เรอัล มาดริด” ที่ในเวลานั้นมี คริสเตียโน โรนัลโด ร่วมทีม จุดตกต่ำ : ปี 2017 : รอยปริแยกจากความขัดแย้งภายในทีม รวมถึงการออกไปมุ่งแสวงหาความท้าทายใหม่ของนักเตะกำลังหลักอย่าง “กาคุ ชิบาซากิ” ฉุดผลงานในสนามของ คาชิมา แอนท์เลอร์ส ย่ำแย่ลงตามลำดับ เขาจึงต้องอำลาทีม ก่อนจะไปรับงานที่สโมสรโอมิยะ อาร์ดิจา แต่ผลงานทีมไม่ดีนัก จนกระทั่งทีมตกชั้นจาก เจ1 และยังพลาดเป้าขึ้นสู่ลีกสูงสุดในฤดูกาลถัดมา ทำให้ต้องโบกมือลาอีกครั้งมกราคม ปี 2019 : อดีตผู้จัดการทีมคาชิมา แอนท์เลอร์ส สร้างความประหลาดใจครั้งใหญ่ ด้วยการไปทำงานเป็นเจ้าหน้าที่โภชนาการ ที่โรงเรียนมัธยมในเมืองคาชิมะ จังหวัดอิบารากิ โดย มาซาทาดะ อิชิอิ ให้เหตุผลถึงการตัดสินใจในครั้งนั้นว่า ต้องการให้เวลากับครอบครัวมากขึ้น เนื่องจากได้หยุดเสาร์-อาทิตย์ และมีวันหยุดยาวช่วงปิดเทอมอย่างไรก็ดี หลังได้รับคำเชิญชวนจากรุ่นน้องให้เดินทางไปอิตาลี การตระเวนทัวร์ชมการแข่งขันของบรรดาทีมชื่อดังของกัลโช่ เซเรีย อา ทำให้ไฟในการหวนคืนสู่วงการฟุตบอลในฐานะผู้จัดการทีมลุกโชนขึ้นอีกครั้ง!การผจญภัยครั้งใหม่ของโรนิน กับเป้าหมายประเทศไทย ตุลาคม ปี 2017 : มาซาทาดะ อิชิอิ พาทีมคาชิมา แอนท์เลอร์ส เดินทางมาเล่นที่ประเทศไทยและได้มีโอกาสพบกับเจ้าของทีมสมุทรปราการ ซิตี้ ซึ่งมีข่าวว่ากำลังให้ความสนใจตัวเขา และด้วยความประทับใจจากที่ได้มีโอกาสพบกันเป็นการส่วนตัว ก่อนเดินทางกลับเขาจึงได้เขียนรายงานที่เป็นข้อแนะนำในการช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งเอาไว้ให้กับทีมธันวาคม ปี 2019 :เมื่อถูกทาบทามให้มาคุมทีมสมุทรปราการ ซิตี้ อดีตนายใหญ่เจ้ากวางเขาเหล็ก ตัดสินใจเดินทางมารับงานที่ประเทศไทย แม้ว่าจะไม่มีประสบการณ์ใช้ชีวิตในต่างแดน และได้รับค่าจ้างต่ำกว่าที่เคยได้รับเกือบครึ่งหนึ่ง และที่สำคัญที่สุดยังถูกคัดค้านอย่างหนักจากภรรยา ซึ่งไม่ต้องการให้สมาชิกในครอบครัวต้องอยู่ห่างไกลกันก็ตาม! ผมคิดว่า ทักษะส่วนบุคคลของนักเตะไทย เช่น เซนส์ความเร็วในการเล่นเกมรุก และความสามารถในการไล่ล่าหาลูกบอลด้วยความแข็งกร้าวเมื่อยามเล่นเกมรับ ดีกว่านักเตะญี่ปุ่นมาซาทาดะ อิชิอิ กับ วงการฟุตบอลประเทศไทย :ก่อนตัดสินใจเดินทางมารับงานคุมสโมสรสมุทรปราการยูไนเต็ด มาซาทาดะ อิชิอิ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เขาได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยและฟุตบอลไทยจากบรรดาคนสนิทที่เคยมีประสบการณ์ทำงานในวงการฟุตบอลไทยจำนวนมาก และนี่คือ...ข้อมูลที่ได้รับสิ่งที่ต้องระมัดระวัง เมื่อต้องทำงานกับคนไทย : เพื่อนผมให้คำแนะนำว่า การทำงานที่ประเทศไทย ต้องระลึกอยู่เสมอว่าหลายๆ อย่างอาจไม่เป็นไปตามสัญญา แต่แทนที่ผมจะรู้สึกไม่ดีไม่ดีกับประเทศไทย ผมกลับคิดว่าควรลองมาทำงานที่ประเทศไทยดูก่อน และผมจะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และพร้อมที่จะยอมรับสังคม วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนไทยด้วยความจริงใจ และพยายามถ่ายทอดสิ่งที่ผมต้องการสื่อสารให้มีความชัดเจน นักเตะไทย : ก่อนเดินทางมาประเทศไทย ผมได้รับการบอกเล่าจากผู้จัดการทีมชาวญี่ปุ่นคนก่อนๆ ว่า คนไทยมีความมั่นใจในตัวสูงมาก ด้วยเหตุนี้การแสดงความโกรธต่อหน้าพวกเขา หรือปฏิบัติกับพวกเขาเหมือนกับเป็นคนญี่ปุ่นนั้นเป็นเรื่องที่อาจจะส่งผลในแง่ไม่ดีนัก อย่างไรก็ดี ในบางครั้งเมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องแสดงความโกรธออกมาบ้าง (เพื่อกระตุ้นนักเตะ) ผมจึงต้องพยายามหาวิธีการว่าควรจะต้องทำอย่างไร ด้วยเหตุนี้จึงได้พยายามหาทางปฏิสัมพันธ์กับคนไทยให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะตามร้านอาหาร หรือแผงขายสินค้าต่างๆ และถึงแม้จะมีอุปสรรคทางด้านภาษาอยู่บ้าง แต่มันก็ช่วยให้สามารถตีความวัฒนธรรมไทยในแบบของตัวเองได้ ซึ่งเอาล่ะ! แม้ว่าผมอาจจะไม่ชอบวิธีการแบบนี้มากนัก แต่อย่างน้อยที่สุดมันก็ช่วยให้ผมสามารถถ่ายทอดความคิดของผมไปถึงนักเตะได้อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเขา นักเตะไทยมีสมรรถภาพทางกายภาพในระดับสูง ซึ่งถือเป็นจุดเด่นต่อการเล่นฟุตบอลในเชิงแข็งกร้าว แต่ในแง่ของการเล่นป้องกัน ผมไม่ค่อยชอบใจนัก ที่พวกเขามักจะอารมณ์ร้อนมากเกินไปเมื่อเข้าแย่งลูกบอล ซึ่งบางครั้งมันรุนแรงมากจนผมรู้สึกกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บ แต่ในทางกลับกัน ผมสังเกตเห็นว่านักเตะไทยยังขาดความเข้าใจเรื่องทักษะพื้นฐานและกลยุทธ์การเล่นเป็นทีมการสร้างสัมพันธ์กับคนไทย : ชื่อของคนไทยนั้นทั้งยาวและเรียกได้ยากสำหรับคนญี่ปุ่น ผมเลยใช้วิธีเรียกชื่อเล่นแทน (หัวเราะ) และวิธีที่ทำให้ผมรู้จักชื่อของนักเตะทุกคนก็คือ ให้พวกเขามายืนเป็นวงกลมก่อนการฝึกซ้อมแล้วพูดขึ้นว่า ถ้าผมเรียกชื่อตรงกับคนไหน ช่วยมาตบมือกับผมหน่อย (หัวเราะ) ซึ่งวิธีการนี้ทำให้ผมสนิทสนมกับนักเตะได้มากขึ้น แม้ว่าผมจะพูดภาษาไทยไม่ค่อยได้ แต่ในเมื่อทุกคนในทีม ต่างมีความปรารถนาร่วมกันที่จะสร้างให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น มันจึงถือเป็นจุดร่วมที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ ขณะเดียวกันมันยังถือเป็นข้อดีในแง่เมื่อถูกสื่อในประเทศไทยวิพากษ์วิจารณ์ ผมก็ยังคงสบายใจได้มากกว่าตอนอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะผมไม่เข้าใจภาษาไทย (หัวเราะ)23 ธันวาคม 2019ประสบการณ์ที่สมุทรปราการ ซิตี้ : มันทั้งทำให้ผมสดชื่น และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลับมาสนุกสนานอีกครั้ง ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะได้รับข้อเสนอนี้ แต่ผมคิดว่าผมควรตัดสินใจเลือกข้อเสนอที่ดีและน่าตื่นเต้นนี้ แม้ไทยลีกจะต้องเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดโควิด-19 จนทำให้หลายๆ สโมสรต้องลดเงินเดือนนักเตะและทีมงานลงมากถึง 30-50% แต่เจ้าของทีมสมุทรปราการ ซิตี้ ทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยให้พวกเราได้รับเงินค่าจ้าง 100% เหมือนเดิม ผู้บริหารทีมปฏิบัติและดูแลพวกเราเป็นอย่างดีจริงๆ ธันวาคม ปี 2021 ข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : นี่คือข้อเสนอที่ยิ่งใหญ่สำหรับอาชีพผู้จัดการทีมของผม เมื่อผมได้รับทราบจากเจ้าของทีมสมุทรปราการ ซิตี้ ว่า มีข้อเสนอจากสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาถึงผม ผมจึงตอบกลับไปตามตรงว่า ผมอยากรับความท้าทายนี้ สวมมงกุฎทริปเปิลแชมป์ 2 สมัยติดต่อกันกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : การพาทีมคว้าทริปเปิลแชมป์ได้ ไม่ว่าจะเป็นวงการฟุตบอลในประเทศใดก็ตาม ย่อมถือเป็นเรื่องที่ยากลำบากทั้งสิ้น ซึ่งความสำเร็จนี้ทำให้ผมได้รับความมั่นใจมากขึ้นในฐานะผู้จัดการทีมตารางการทำงานในแต่ละวันของ มาซาทาดะ อิชิอิ : มาซาทาดะ อิชิอิ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงตารางการทำงานในแต่ละวัน เมื่อครั้งเป็นผู้จัดการทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดว่า...ผมจะตื่นก่อน 6โมงเช้าทุกวัน และเมื่อทำกิจวัตรประจำวัน เช่น รับประทานอาหารเช้า ทำความสะอาดห้องพัก ซักผ้า เสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะไปตัดต่อวิดีโอการเล่นของลูกทีม และคิดค้นกลยุทธ์สำหรับการฝึกซ้อมในวันนั้น และเมื่อถึงเวลา 15.00 น. จะเข้าร่วมการประชุมกับทีมงานเพื่อเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ โดยปกติแล้ว เราจะเริ่มฝึกซ้อมช่วงบ่ายในเวลา 17.00 น. หลังจากฝึกซ้อมเสร็จจะมีการ Download ฟุตเทจการฝึกซ้อมที่ถ่ายจากโดรนลงในคอมพิวเตอร์ เพื่อนำกลับบ้านไปตรวจสอบและหาทางแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆ มาซาทาดะ อิชิอิ กับ เมนูอาหารไทยสุดโปรด : ผมมักจะชอบกินส้มตำในตอนกลางคืน (หัวเราะ) ประเทศไทยมีอาหารอร่อยมากมาย และที่ดีที่สุดคือสามารถหาผลไม้บางชนิดที่ในประเทศญี่ปุ่นมีราคาแพงมากๆ มารับประทานได้ในราคาที่ไม่แพงนัก (หัวเราะ) ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังใช้ชีวิตในแบบ Luxurious Diet (หัวเราะ) ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน กราฟิก Anon Chantanantอ่านบทความที่เกี่ยวข้อง Japan’s Way วิถีญี่ปุ่นสู่แชมป์โลกปี 2050 (ตอนที่ 1)เปิดสเปกนักเตะญี่ปุ่น ตามวิถี Japan’s way สู่แชมป์โลก 2050 (ตอนที่ 2)ฟรานซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ แด่ความสง่างามของนักเตะผู้มาจากอนาคตโชเฮย์ โอทานิ สัตว์ประหลาดแห่งเบสบอล อีกหนึ่งชัยชนะของวงการกีฬาญี่ปุ่นจิม แรตคลิฟฟ์ ความหวังใหม่ และหนี้สินแมนยูฯ ที่ยังไม่เปลี่ยนแปลง