ฟังคำตอบจาก KBS สื่อยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ เมื่อการนำเสนอเทปลับที่นำไปสู่มรณกรรมของ “อี ซอน คยุน” นักแสดงชื่อดัง ถูกตั้งคำถามถึง “การตรวจสอบข้อมูลและจริยธรรมสื่อ”...

สถานีโทรทัศน์ KBS (Korean Broadcasting System) สื่อที่ทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศเกาหลีใต้ ออกแถลงการณ์ "ตอบโต้" กรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง “มาตรฐานทางด้านจริยธรรมสื่อ” กรณีการเปิดเผย “ข้อมูลบทสนทนาส่วนตัวทางโทรศัพท์” ระหว่าง “อี ซอน คยุน” (Lee Sun-Kyun) กับ “หญิงสาวคู่กรณี” ซึ่ง นักแสดงหนุ่มผู้ล่วงลับ “ยืนยัน” มาโดยตลอดว่า “หลอกลวง” ให้เขาใช้สารเสพติดเพื่อหวังแบล็กเมล์ ข่มขู่เรียกร้องเงินสูงถึง 300 ล้านวอน (7.9 ล้านบาท) อีกทั้งบทสนทนาดังกล่าวยัง “ไม่มี” การพูดถึงประเด็นเรื่องการใช้สารเสพติด หรือการที่ “อี ซอน คยุน” มีความตั้งใจที่จะใช้สารเสพติด! 

...

โดยแถลงการณ์อย่างเป็นทางการของ KBS ฉบับนี้ ระบุว่า...“เพื่อเปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องการใช้สารเสพติดของนักแสดงอี ซอน คยุน ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนปีที่แล้ว สถานีโทรทัศน์ KBS จึงได้ดำเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริงและตรวจสอบสอบข้อมูลจากหลากหลายแง่มุม และเบื้องต้นได้มีการกลั่นกรองเนื้อหาต่างๆ มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว 

สำหรับบทสนทนาทางโทรศัพท์ที่มีการนำเสนอตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม ปี 2023 และกำลังเป็นประเด็นปัญหานั้น แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหา (ที่มีต่อ อี ซอน คยุน) แต่อย่างน้อยที่สุดก็เป็นการสนับสนุนความน่าเชื่อถือที่มีต่อข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น อีกทั้งมันยังถูกนำเสนอภายใต้ความรอบคอบอย่างที่ดีที่สุด” 

นอกจากนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวของ KBS ยังได้เน้นย้ำว่า “ระยะเวลา” การรายงานข่าวดังกล่าว (เทปลับของ อี ซอน คยุน) ยังเกิดขึ้นเกือบ 1 เดือน ก่อนที่นักแสดงหนุ่มวัย 48 ปี จะตัดสินใจทำอัตวินิบาตกรรม (วันที่ 27 ธ.ค.23) มันจึงแทบไม่มีความสมเหตุสมผลที่จะเชื่อมโยงเรื่องดังกล่าวเข้าด้วยกัน ตามที่ Association of Solidarity of Cultural Artists ภายใต้การนำของ “พง จุน โฮ” (Bong Joon Ho) ผู้กำกับชื่อดังและบรรดาศิลปินในวงการ K-POP ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้มีการ “ตรวจสอบ” การทำงานของสื่อ (โดยเฉพาะการรายงานข่าวของ KBS) และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อาจขัดต่อกฎหมายและจริยธรรม รวมถึง “ลบการรายงานข่าว” ที่เข้าข่ายละเมิดสิทธิของผู้ตายทั้งหมด 

ทั้งนี้แถลงการณ์ล่าสุดของ KBS สอดคล้องกับความพยายาม “ยืนกราน” ท่าทีต่อการนำเสนอข่าวในเรื่องนี้มาตลอด โดย “พัค ฮี-บง” (Park Hee-Bong) หัวหน้าฝ่ายกิจการสังคมของ KBS สำนักงานใหญ่ ที่เคยออกตอบโต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงประเด็นการรายงานข่าวดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2023 เอาไว้ว่า...“ปัญหาการใช้สารเสพติดถือเป็นอาชญากรรมที่สำคัญ เนื่องจากมันส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขและระเบียบสังคม อีกทั้งมันยังเป็นเรื่องที่สังคมกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างสูงเรื่องจากมีบุคคลที่มีชื่อเสียงเข้าไปเกี่ยวข้อง เราในฐานะสื่อจึงตัดสินใจที่จะขอทำหน้าที่ค้นหารายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ 

อีกทั้งการรายงานข่าวในเรื่องดังกล่าวของ KBS ยังเป็นการรายงานข่าวที่ครอบคลุมจุดยืนและข้อโต้แย้งของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหล่าเซเลบริตี้ และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อให้เกิดความสมดุลมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว 

และที่สำคัญที่สุด KBS ได้รับทราบถึงความสับสนอันเกิดจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมถึงข้อโต้แย้งของผู้มีชื่อเสียง (อี ซอน คยุน) ไว้ด้วยความจริงใจมาโดยตลอด อย่างไรก็ดี ตามที่สาธารณชนได้พยายามชี้ให้เห็นถึงประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น เราจะพยายามนำเสียงสะท้อนดังกล่าวไปใช้สำหรับการรายงานข่าวและการทำงานของเราต่อไปในอนาคต เพื่อที่จะประสานความเห็นในหลากหลายแง่มุมเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องสิทธิในการรับรู้ข้อมูลหรือสิทธิของผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยและผลกระทบที่เกิดขึ้นในด้านต่างๆ” 

...

อย่างไรก็ดีแม้ว่า KBS จะยังคงยืนกราน “ปฏิเสธ” ข้อเรียกร้องและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสาธารณชน หากแต่อย่างน้อยที่สุดความพยายามของ Association of Solidarity of Cultural Artists ก็ไม่ได้ถือว่า “สูญเปล่า” แต่อย่างใด นั่นเป็นเพราะ “แรงกระเพื่อม” ที่เกิดขึ้นได้ทำให้มีสื่อบางส่วนในเกาหลีใต้ยินยอม “ตอบสนอง” ต่อข้อเรียกร้อง (และการเตรียมใช้มาตรการทางด้านกฎหมาย) ที่เกิดขึ้นเช่นกัน 

โดย สถานีโทรทัศน์โชซอน (Chosun TV) ซึ่งนอกจากจะออกแถลงการณ์ขอโทษต่อครอบครัวผู้สูญเสียแล้ว ยังได้ประกาศ “ลบ” รายงานข่าวและบทความออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับ “อี ซอน คยุน” ออกทั้งหมดแล้ว ภายหลังจาก Hodu&U Entertainment บริษัทเอเจนซี่ของนักแสดงหนุ่ม ได้ออกแถลงการณ์เตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายต่อการเผยแพร่ข้อมูลเท็จที่ไร้ซึ่งการตรวจสอบ รวมถึงอ้างอิงแหล่งข่าวที่ชัดเจนทั้งหมด

...

ขณะเดียวกัน ล่าสุด “คณะกรรมการมาตรฐานด้านจริยธรรมสื่อของเกาหลีใต้” (The Korea Communications Standards Commission) หรือ KCSC ออกมาระบุว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีการรายงานที่เป็นปัญหาของ สถานีโทรทัศน์ KBS ไว้พิจารณาแล้ว

ทั้งนี้ หลังรายงานข่าวที่มีปัญหาของ KBS ถูกเผยแพร่ออกไป มีมุมมองที่น่าสนใจจาก “อี ซอน-ยอง” (Lee Sun-Young) ผู้ประกาศข่าวชื่อดังของสถานีโทรทัศน์ MBC (Munhwa Broadcasting Corporation) ที่ถูกแชร์ออกไปอย่างล้นหลามในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งได้ระบุเอาไว้ว่า.....

“เราไม่อาจรู้ได้ว่าผู้เสียชีวิต (อี ซอน คยุน) รู้สึกอย่างไร เมื่อเขาได้ตัดสินเลือกทางเลือกที่ยากลำบากเช่นนั้น (อัตวินิบาตกรรม) แต่ในความเห็นของฉัน อยากชี้นิ้วไปที่ การรายงานข่าวของ KBS  

...

บทสนทนาที่เป็นความลับทางโทรศัพท์ระหว่าง อี ซอน คยุน และคู่กรณี ซึ่งถูกนำออกมาเปิดเผยนั้น แม้ว่า เราอาจสามารถวิเคราะห์การกระทำของผู้ตายได้ก็จริง แต่อย่างไรก็ดี ฉันไม่รู้จริงๆ ว่า รายงานข่าวดังกล่าว (รายงานข่าวของ KBS) มีวัตถุประสงค์อะไร นอกเสียจากพยายามขโมยชีวิตของใครบางคน เพราะปลายดาบแหลมที่ใช้ในนามการรายงานข่าวไม่ได้มุ่งเป้าไปที่เพียง อี ซอน คยุน ผู้ล่วงลับเท่านั้น แต่มันยังมุ่งหมายไปที่ภรรยาและลูกๆ ของเขาในฐานะผู้ตกเป็นเหยื่อด้วยเช่นกัน และสิ่งที่ต้องไม่ลืมคือ เทปลับดังกล่าว จะคงอยู่อย่างถาวรในโลกยุคดิจิทัล ซึ่งมันจะทำให้กลายเป็นเรื่องที่แสนยากลำบากสำหรับการเยียวยาผู้ที่ตกเป็นเหยื่อไปตลอดกาล 

ท้ายที่สุดนี้ การตัดสินใจเลือกของผู้ตาย ทำให้ฉันรู้สึกห่วงใยบรรดาสมาชิกในครอบครัวที่ถูกทิ้งเอาไว้อยู่เบื้องหลังทุกคน ฉันหวังว่าคนเหล่านั้นจะได้รับการปกป้อง ฉันชื่นชอบการแสดงของคุณ อี ซอน คยุน ขอให้คุณนอนหลับให้สบาย” 

แรงกดดันที่ อี ซอน คยุน ต้องแบกรับหลังเกิดเรื่องอื้อฉาว : 

โปรเจกต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ “อี ซอน คยุน” ซึ่งได้รับผลกระทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ “Project Silence” ทุนสร้าง 20,000 ล้านวอน (528 ล้านบาท) ซึ่งผลิตโดย CJ ENM Studios และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเมื่อได้รับเชิญให้ไปฉายที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ถูกระงับการฉายและการจัดจำหน่ายในตลาดโลกทั้งหมดชั่วคราว

ภาพยนตร์ The Land of Happiness ทุนสร้าง 9,000 ล้านวอน (237 ล้านบาท) ถูกระงับการถ่ายทำชั่วคราว และซีรีส์ No Way Out ซึ่งกำลังเตรียมถ่ายทำ ต้องหานักแสดงคนใหม่แทนนั้น ล้วนแล้วแต่ มีราคาที่ “อี ซอน คยุน” ต้องชดใช้ทั้งสิ้น! 

ส่วนหากถามว่า “ราคาที่ต้องชดใช้มีมูลค่าประมาณเท่าไร?” นั้น บทวิเคราะห์ของสื่อในเกาหลีใต้ ระบุว่า โดยทั่วไปแต่ละโปรเจกต์มักมีการกำหนดเงื่อนไขสัญญาที่ระบุเอาไว้ชัดเจน และมีขอบเขตของบทลงโทษที่แตกต่างกันไปตามทุนสร้างของแต่ละโปรเจกต์

อย่างไรก็ดี โดยทั่วไปแล้ว บทลงโทษมักจะอิงอยู่กับค่าตัวของนักแสดงเป็นหลัก อย่างไรก็ดีทั้งหมดนั้น ยังไม่นับรวม “ค่าปรับ” จากบรรดาบริษัทพันธมิตรทางการค้าต่างๆ ที่ทั้ง “อี ซอน คยุน” และ ภรรยาสาว มีสัญญาเป็นพรีเซนเตอร์อยู่ ทำให้ทั้งหมดนี้อาจจะมีตัวเลขที่ต้องจ่ายรวมกันสูงถึง 10,000 ล้านวอน (264 ล้านบาท) 

ว่าแต่เมื่อ “เรา” ได้อ่านสกู๊ปทั้ง 2 ตอนมาจนถึงบรรทัดนี้แล้ว... คิดว่า “ราคา” ที่ครอบครัวของ “อี ซอน คยุน” ต้องแบกรับนี้ “คุณ” คิดว่ามันมี “ความยุติธรรม” มากน้อยเพียงใด?

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง