อินเดีย ความหวังและเป้าหมายของ Apple ทั้งในแง่ของการขยายตลาดสมาร์ทโฟน และฐานการผลิต...

ข้อมูลจากเว็บไซต์ StatCounter ระบุว่า Apple สามารถทำส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนของประเทศอินเดียจากยอดขาย iPhone ล่าสุด ณ สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2023 เพียง 3.89%! หรืออยู่ในลำดับที่ 7 ตามหลังเหล่าแบรนด์สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์สัญชาติจีนและเกาหลีใต้ อย่าง อันดับ 1.Xiaomi 24.69% อันดับ 2.Vivo 16.4% อันดับที่ 3.Samsung 15.45% อันดับที่ 4.Realme 13.81% อันดับที่ 5.Oppo 12.09% และอันดับที่ 6.OnePlus 4.3%

แต่แล้วการปรากฏตัวของ "ทิม คุก" (Tim Cook) CEO Apple เพื่อเปิด "แอปเปิล สโตร์" สาขาแรกบนดินแดนภารตะ ที่นครมุมไบ และสาขาที่ 2 ที่กรุงนิวเดลี รวมถึงยังได้เข้าพบกับนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย เมื่อเร็วๆ นี้ ได้กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนทันทีว่า Apple กำลังมุ่งมั่นเชิงกลยุทธ์ทางการตลาดในประเทศที่มีพลเมืองมากกว่า 1,400 ล้านคน และมีตลาดสมาร์ทโฟนใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของโลก (คิดเป็น 12% ของยอดขายสมาร์ทโฟนโลก) มากแค่ไหน!

...

ทำไม อินเดีย จึงกลายเป็นวาระสำคัญสำหรับ Apple :

ในแง่ของการลงทุน เมื่อช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมา Apple แสดงท่าทีชัดเจนว่าจะมีการย้ายฐานการผลิต iPhone รุ่นใหม่จากประเทศจีนมายังประเทศอินเดียเพื่อลดความเสี่ยงทางด้านธุรกิจ อันเป็นผลมาจากการขับเคี่ยวทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างวอชิงตันและปักกิ่งที่ยังคงคุกรุ่นมาจนถึงปัจจุบัน ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์มองการตัดสินใจของ Apple ในครั้งนี้ว่า ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะอินเดียมีปัจจัยอะไรหลายๆ อย่างที่ใกล้เคียงกับประเทศจีนในอดีต ไม่ว่าจะเป็น ขนาดจำนวนประชากรเพิ่มสูงขึ้น ตลาดแรงงานราคาถูกโดยเฉพาะตำแหน่งวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้

ส่วนในแง่ของการทำตลาดสมาร์ทโฟนนั้น อินเดียมีการขยายตัวของจำนวนกลุ่มคนชั้นกลาง ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้นในทุกปี รวมถึงยังมีจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่ปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 600 ล้านเครื่อง และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ยังมีอัตราการใช้ สมาร์ทโฟน 5G ขยายตัวอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

ซึ่งทั้งสองประเด็นนี้สอดคล้องกับที่ “ทิม คุก” เคยพูดเชิงเปรียบเทียบระหว่างจีนและอินเดียก่อนหน้านี้ว่า “โดยพื้นฐานแล้วเรากำลังนำสิ่งที่เคยเรียนรู้จากประเทศจีน รวมถึงวิธีการขยายตลาดไปสู่ประเทศจีน มาปรับใช้ในกรณีนี้”

การมองวิกฤติให้กลายเป็นโอกาส :

แม้ว่า “สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์” จะครอบครองส่วนแบ่งการตลาดในอินเดียได้มากถึง 95% หากแต่ในทัศนะของ “ทิม คุก” ประเด็นนี้กลับกลายเป็นโอกาสในการขยายตลาดครั้งสำคัญของ iPhone หากสามารถโน้มน้าวให้ชาวอินเดียยอมละทิ้งสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ มาหา iPhone ได้สำเร็จ โดยเฉพาะหากสามารถขจัดปัญหาในเรื่องอุปสรรคสำคัญเรื่อง “ราคาที่สูงลิบลิ่ว” มากกว่าคู่แข่งลงได้สำเร็จ!

...

กลยุทธ์ราคาของ Apple ในอินเดีย :

ปัจจุบันราคาขายเฉลี่ยของสมาร์ทโฟนในประเทศอินเดียอยู่ที่ 224 ดอลลาร์สหรัฐต่อเครื่อง (7,698 บาท อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 21 เม.ย.) ซึ่งถึงแม้จะเพิ่มขึ้นถึง 18% จากปี 2022 ที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงสูงกว่าราคาขายเริ่มต้นของ iPhone ในประเทศอินเดีย ซึ่งอยู่ที่ 429 ดอลลาร์สหรัฐ (14,744 บาท อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 21 เม.ย.) ถึงเกือบ 2 เท่าอยู่ดี!

ซึ่งการ “กดราคาขาย” เพื่อการแข่งขันในประเทศอินเดียนี้มีแนวโน้มสูงว่าอาจจะเกิดขึ้นจริง หลังเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา “ทิม คุก” ได้กล่าวถึงกลยุทธ์หั่นราคาเอาไว้ว่า...“มีหลายอย่างที่สามารถทำได้จากออปชันทางการเงินและการ Trade-ins เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์มีราคาที่ย่อมเยามากขึ้น และทำให้ผู้คนมีทางเลือกในการซื้อผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น” ซึ่งจากคำให้สัมภาษณ์ที่ว่านี้ ทำให้นักวิเคราะห์เชื่อว่า...วิธีการที่จะช่วยทำให้ชาวอินเดียส่วนใหญ่สามารถเข้าถึง iPhone ก็คือ Apple อาจเปิดให้มีการผ่อนชำระ หรือให้ส่วนลดสำหรับการนำ "สมาร์ทโฟนเครื่องเก่า" มาแลกซื้อ iPhone เครื่องใหม่ก็เป็นได้!

เพราะ ณ เวลานี้ในประเทศอินเดียมี "แอปเปิล สโตร์" แล้วถึง 2 แห่งสำหรับการรองรับการให้บริการลูกค้า รวมถึงยังมี "แอปเปิล สโตร์ ออนไลน์" ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งจะสามารถช่วยกระตุ้นการขายได้เป็นอย่างดี

...

เป้าหมายที่ทำให้อินเดียกลายเป็นฐานการผลิตใหม่ของ Apple :

การเดินทางเยือนอินเดียเมื่อปี 2016 “ทิม คุก” ได้ยืนยันถึงเจตนารมณ์การวางกลยุทธ์การลงทุนระยะยาวในประเทศอินเดียเอาไว้อย่างชัดเจนว่า “เราจะทุ่มเททรัพยากรจำนวนมหาศาลมาที่นี่ (อินเดีย) และมันจะไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งหรือสองไตรมาส ปีหน้าหรือปีถัดไป แต่เราจะอยู่ที่นี่นานนับพันปี!”

อย่างไรก็ดีแม้ “ทิม คุก” จะแสดงเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นในเรื่องนี้มากแค่ไหนก็ตาม แต่บรรดานักลงทุนและนักวิเคราะห์ต่างยังคงเชื่อว่า “ความเปลี่ยนแปลง” จะยังคงไม่สามารถเกิดขึ้นได้เร็วนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Apple อาศัยฐานการผลิตและโรงงานขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยความพร้อมในประเทศจีนมาต่อเนื่องและยาวนานถึง 20 ปี อีกทั้ง Apple ยังต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในเรื่องคุณภาพการผลิตจากฝีมือแรงงานชาวอินเดียอีกด้วยว่าจะสามารถทำได้ใกล้เคียงกับแรงงานที่มีความช่ำชองจากประเทศจีนได้เมื่อไหร่ด้วย

...

ซึ่งประเด็นนี้สอดคล้องกับที่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา รัฐบาลอินเดียได้ออกมาเปิดเผยว่า Apple มีเป้าหมายที่จะผลิต iPhone ในประเทศอินเดียให้ได้ถึง 25% หากแต่บรรดานักวิเคราะห์ส่วนใหญ่กลับเชื่อว่า “เป้าหมายที่ว่านั้นสูงเกินไป” และหากมองในระยะยาวหลังจากนี้ความเป็นไปได้สำหรับศักยภาพของโรงงานในประเทศอินเดียน่าจะอยู่ที่การผลิตในระดับ 10% หรือ 15% มากกว่า.

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง