การที่ "ธนาคารโลก" (World Bank) ปรับลดแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ (ปี 2023) เหลือเพียง 1.7% จากเดิมที่เคยคาดการณ์เอาไว้ควรจะอยู่ที่ 3% และมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) ครั้งที่ 2 ภายในทศวรรษเดียวกัน เป็นครั้งแรกในรอบ 80 ปี

โดยมีปัจจัยสำคัญจากปัญหาเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น, การลงทุนที่ลดลง และการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจอันเป็นผลพวงมาจากสงครามยูเครน และสำหรับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Advanced Economies) ที่เดิมคาดว่าน่าจะอยู่ที่ 2.5% ถูกปรับลดลงไปอยู่ที่ 0.5% โดยสหรัฐอเมริกา จากเดิมคาดว่าน่าจะอยู่ที่ 1.9% โดนปรับลดลงมาอยู่ที่ 0.5% เป็นผลให้บริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ ในสหรัฐฯ จึงเริ่มขยับเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการรับ “แรงกระแทกทางเศรษฐกิจ” ที่คาดว่าน่าจะ “เผาจริง” ในปีนี้กันอย่างจริงจังมากขึ้นทันที โดยเฉพาะบรรดา TECH GIANTS ทั้งหลายที่ประกาศทยอยปรับลดจำนวนพนักงานลงอย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว (ปี 2022) เพื่อหวัง “ลดต้นทุน” เตรียมเผชิญความเสี่ยงจากรายได้ที่ลดลงและดอกเบี้ยขาขึ้น

ปัจจุบันเหล่า TECH GIANTS มีแผนที่จะปรับลดพนักงานมากน้อยแค่ไหน และอะไรคือเหตุผล และแพ็กเกจชดเชยการเลิกจ้างของแต่ละบริษัทเป็นอย่างไร วันนี้ “เรา” ไปลองพิจารณาด้วยกัน

“สัตยา นาเดลลา” (Satya Nadella) CEO ไมโครซอฟท์
“สัตยา นาเดลลา” (Satya Nadella) CEO ไมโครซอฟท์

...

1. ไมโครซอฟท์ (Microsoft) :

ปัจจุบันมีจำนวนพนักงานทั้งหมด 221,000 คน ค่าเฉลี่ยเงินเดือนพนักงานต่อปีอยู่ที่ 123,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ล่าสุดการประกาศแผนการเลิกจ้างพนักงานรวม 10,000 คน หรือคิดเป็น 4.52% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด ทั้งนี้ การทยอยปรับลดจำนวนพนักงานดังกล่าวน่าจะสิ้นสุดลงในช่วงประมาณเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ โดยแผนกที่คาดว่าน่าจะมีปรับลดพนักงานลงมากที่สุดคือ “แผนกวิศวกรรม”

สำหรับปีที่ "บริษัทไมโครซอฟท์" มีการจ้างงานสูงสุด คือ ปี 2014 โดยมีการจ้างงานมากถึง 29,000 คน หรือเพิ่มขึ้น 29.29% จากปี 2013

โดย “สัตยา นาเดลลา” (Satya Nadella) CEO ไมโครซอฟท์ ได้ระบุถึงความจำเป็นในการปรับลดจำนวนพนักงานเอาไว้ในบันทึกภายในองค์กรว่า “เราจำเป็นต้องมุ่งเน้นการดำเนินการที่ทำให้แน่ใจได้ว่า ค่าใช้จ่ายจะสอดคล้องกับการเติบโตของรายได้บริษัท”

แพ็กเกจการชดเชยพนักงาน : ไมโครซอฟท์ แจ้งว่า พนักงานที่ถูกเลิกจ้างจะได้การแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วัน เงินชดเชย, ค่ารักษาพยาบาล 6 เดือน และส่วนแบ่งหุ้น

“ซุนดาร์ พิชัย” (Sundar Pichai) CEO อัลฟาเบท
“ซุนดาร์ พิชัย” (Sundar Pichai) CEO อัลฟาเบท

2. อัลฟาเบท (Alphabet) :

ปัจจุบันมีจำนวนพนักงานทั้งหมด 156,500 คน ค่าเฉลี่ยเงินเดือนพนักงานต่อปีประมาณ 124,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ล่าสุดมีการประกาศแผนการเลิกจ้างพนักงาน 12,000 คน หรือคิดเป็น 7.67% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด

สำหรับปี “อัลฟาเบท” หรือ บริษัทแม่ของกูเกิล (Google) มีการจ้างงานมากที่สุด คือปี 2012 โดยมีจ้างงานมากถึง 21,400 คน หรือ เพิ่มขึ้นถึง 65.89% จากปี 2013

โดย “ซุนดาร์ พิชัย” (Sundar Pichai) CEO อัลฟาเบท แจ้งในบันทึกภายในบริษัทว่า พนักงานที่ถูกเลิกจ้างส่วนใหญ่จะอยู่ในแผนกดูแลผลิตภัณฑ์, แผนกบริการ และพนักงานส่วนภูมิภาคต่างๆ

แพ็กเกจเงินชดเชย : พนักงานอัลฟาเบทที่ถูกเลิกจ้าง จะได้รับเงินชดเชยตามอายุงาน และแพ็กเกจค่าชดเชยพื้นฐานอย่างน้อย 16 สัปดาห์ และบวกเพิ่มอีก 2 สัปดาห์ตามอายุงาน

...

3. แอมะซอน (Amazon) :

ปัจจุบัน “แอมะซอน” มีจำนวนพนักงานทั้งหมด 1,608,000 คน ค่าเฉลี่ยเงินเดือนพนักงานต่อปีประมาณ 101,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ล่าสุดมีการประกาศแผนการเลิกจ้างพนักงาน 18,000 คน หรือคิดเป็น 1.12% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด

สำหรับปี “แอมะซอน” มีการจ้างงานมากที่สุดคือ ปี 2011 โดยมีการจ้างงานมากถึง 22,500 คน หรือ เพิ่มขึ้นถึง 66.77% จากปี 2010

“แอมะซอน” เริ่มต้นการเลิกจ้างอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว (ปี 2022) โดยแผนกที่ถูกเลิกจ้างมากที่สุด คือ แผนกทรัพยากรบุคคล, แผนกค้าปลีก และแผนกบริการ

แพ็กเกจเงินชดเชย : แอมะซอน แจ้งว่า พนักงานที่ถูกเลิกจ้างทุกคนจะได้รับเงินชดเชยและสวัสดิการเต็มจำนวนตามอายุงานรวมถึงตามกฎหมายแรงงานของแต่ละประเทศ

“มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก” CEO ของ “เมตา”
“มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก” CEO ของ “เมตา”

...

4. เมตา (Meta) :

“เมตา” หรือ เฟซบุ๊ก (Facebook) มีจำนวนพนักงานทั้งหมด 71,970 คน โดยมีค่าเฉลี่ยเงินเดือนพนักงานต่อปีอยู่ที่ 128,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ล่าสุดมีการประกาศแผนการเลิกจ้างพนักงาน 11,000 คน หรือคิดเป็น 15.28% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด

สำหรับปีที่ “เมตา” มีการจ้างงานสูงที่สุดคือ ปี 2017 โดยมีการจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นถึง 8,057 คน หรือเพิ่มขึ้นถึง 47.26% จากปี 2016

โดย “มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก” CEO ของ “เมตา” ให้เหตุผลถึงการเลิกจ้างพนักงานครั้งใหญ่นี้ว่า “เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามทำให้องค์กรมีขนาดเล็กลงและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น”

แพ็กเกจเงินชดเชย : “มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก” ให้คำมั่นว่าพนักงานของเมตาที่ถูกเลิกจ้างทุกคน จะได้รับเงินชดเชยอย่างน้อย 16 สัปดาห์ พร้อมบวกเพิ่มอีก 2 สัปดาห์ตามอายุงาน รวมถึง ส่วนแบ่งหุ้นและประกันสุขภาพตามระยะเวลาที่กำหนด

“อีลอน มัสก์” (Elon Musk) เจ้าของ ทวิตเตอร์
“อีลอน มัสก์” (Elon Musk) เจ้าของ ทวิตเตอร์

...

5. ทวิตเตอร์ (Twitter) :

ปัจจุบัน “ทวิตเตอร์” มีจำนวนพนักงานทั้งหมด 7,500 คน โดยมีค่าเฉลี่ยเงินเดือนพนักงานต่อปีประมาณ 117,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ล่าสุดมีประกาศแผนการเลิกจ้างพนักงาน 3,700 คน หรือคิดเป็น 50% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด

สำหรับปีที่ “ทวิตเตอร์” มีการจ้างงานมากที่สุดคือ ปี 2013 โดยมีการจ้างงานมากถึง 2,362 คน หรือ เพิ่มขึ้น 574% จากปี 2012

ความโกลาหลภายใน “ทวิตเตอร์” เริ่มขึ้นทันทีหลังการเข้าเทคโอเวอร์ของ “อีลอน มัสก์” (Elon Musk) เสร็จสิ้นในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว (ปี 2022) โดยพนักงานจำนวนมากลาออกจากบริษัททันทีหลัง “เจ้าของคนใหม่ของทวิตเตอร์” ประกาศว่า พนักงานทุกคนจะต้องยอมรับสภาพแวดล้อมในการทำงานแบบใหม่ที่จะมีความ “Hardcore” มากขึ้น รวมถึงจะมีการลดจำนวนพนักงานลงมากกว่า 50%

แพ็กเกจเงินชดเชย : “อีลอน มัสก์” ประกาศว่าพนักงานที่ถูกเลิกจ้างจะได้รับเงินชดเชยอย่างน้อย 3 เดือน

อ่านมาถึงบรรทัดนี้บางที “คุณ” อาจคิดว่า “เรา” หลงลืมอีกหนึ่งบริษัท TECH GIANTS อย่าง “แอปเปิล” (Apple) ไปหรือเปล่า? ไม่ได้ลืม...เพียงแต่จนถึงปัจจุบัน Apple ยังไม่ได้มีการประกาศลดจำนวนพนักงานเหมือนกับบริษัทคู่แข่งอื่นๆ โดยสถานภาพการจ้างงานในปัจจุบันของ Apple เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นมีดังต่อไปนี้

ปัจจุบัน Apple มีจำนวนพนักงานทั้งหมด 164,000 คน ค่าเฉลี่ยเงินเดือนพนักงานต่อปี : 131,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยปีที่มีการจ้างงานมากที่สุดคือ ปี 2010 โดยมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 12,600 คน หรือ เพิ่มขึ้น 34.24% จากปี 2009

** หมายเหตุ อ้างอิงข้อมูลรายงานผลประกอบการ ปี 2010-2022 และการประกาศแผนการเลิกจ้างงานสิ้นสุดวันที่ 23 ม.ค. 2023 รวมถึง รายงาน Global Economic Prospects ของธนาคารโลก **

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
กราฟิก Anon Chantanant

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง