การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานจนเหยียบย่างเข้าสู่เดือนที่ 8 ได้ดำเนินมาถึง “จุดเปลี่ยน” อีกครั้ง หลังกระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้ประกาศแต่งตั้ง พลเอกอาวุโส เซอร์เก ซูโรวิกิน (Sergey Surovikin) วัย 55 ปี เป็น ผู้บัญชาการกองกำลังผสมในพื้นที่ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร (ยูเครน) โดยถือเป็นการแต่งตั้งนายทหารระดับสูงในสงครามยูเครน ครั้งที่ 3 ในรอบ 1 สัปดาห์ หลังกองทัพรัสเซียต้องถอยร่นและสูญเสียพื้นที่ที่ยึดครองเอาไว้หลายพันตารางกิโลเมตรคืนกลับไปให้กับกองทัพยูเครนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน จะประกาศผนวก 4 แคว้นของยูเครน อันประกอบด้วย ซาปอริชเซีย , เคอร์ซอน , โดเนตสก์ , ลูฮานสก์ เข้ามารวมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียแล้วก็ตาม

พลเอกอาวุโส เซอร์เก ซูโรวิกิน (Sergey Surovikin) ผู้บัญชาการกองกำลังผสมในพื้นที่ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร (ยูเครน)
พลเอกอาวุโส เซอร์เก ซูโรวิกิน (Sergey Surovikin) ผู้บัญชาการกองกำลังผสมในพื้นที่ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร (ยูเครน)

...

พล.อ.เซอร์เก ซูโรวิกิน คือใคร :

ตามรายงานอย่างเป็นทางการ พล.อ.เซอร์เก ซูโรวิกิน ผ่านสมรภูมิความขัดแย้งในทาจิกิสถานและเชชเนีย ซึ่งในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตเดิมเมื่อปี 1990 สงครามในซีเรีย เมื่อปี 2017 ปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่บังคับบัญชาการกองทหารรัสเซียทางตอนใต้ของยูเครน มาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

โดยในครั้งนั้นมีรายงานว่า พล.อ.เซอร์เก ซูโรวิกิน เป็นผู้อยู่เบื้องหลังแผนการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงในซีเรีย จนกระทั่งสามารถยึดคืนพื้นที่กลับคืนมาจากฝ่ายตรงกันข้ามได้มากถึง 50% นอกจากนี้ในสงครามซีเรีย พล.อ.เซอร์เก ซูโรวิกิน ยังทำหน้าที่ในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ เพื่อหลักเลี่ยงการปะทะระหว่างทั้งสองฝ่ายในช่วงนั้นอีกด้วย

ขณะเดียวกัน รายงานจากหน่วยข่าวกรองของตะวันตก ระบุว่า พล.อ.เซอร์เก ซูโรวิกิน ได้ชื่อว่าเป็น นายทหารสายเหยี่ยวที่พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งโดยปราศจากคำถามใดๆ และมีประสบการณ์ในการรบมาอย่างยาวนานโดยเฉพาะในสมรภูมิที่มีความซับซ้อน นอกจากนี้ นายทหารระดับสูงของกองทัพรัสเซียผู้นี้ ยังมีความช่ำชองเรื่องการวางยุทธศาสตร์การโจมตีทางอากาศเป็นพิเศษ

ทำไมรัสเซียต้องปรับยุทธศาสตร์การรบในยูเครน :

นักวิเคราะห์ทางการทหารของตะวันตกเชื่อว่า สาเหตุสำคัญที่ “เคลมลิน” แต่งตั้ง พล.อ.เซอร์เก ซูโรวิกิน เข้ามารับหน้าที่แก้ไขความเพลี่ยงพล้ำในสงครามยูเครนในครั้งนี้ เป็นเพราะต้องการวางยุทธศาสตร์สายการบังคับบัญชาในสงครามครั้งนี้ให้มีความเป็น “เอกภาพ” รวมถึง “ลดขนาดพื้นที่การปฏิบัติการ” เพื่อมุ่งหวังเจาะจงพื้นที่เป้าหมายสำคัญๆเป็นหลัก โดยเฉพาะพื้นที่ทางตอนใต้ใกล้กับแคว้นลูฮานสก์และโดเนตสก์ ซึ่งล่าสุดถูกกองทัพยูเครนรุกคืบเข้ามาเรื่อยๆ

นั่นเป็นเพราะนับตั้งแต่เริ่มต้นสงครามและกองทัพรัสเซียประสบความล้มเหลวในการบรรลุวัตถุประสงค์การรุกคืบเข้ายึดกรุงเคียฟเมืองแบบสายฟ้าแลป จนกระทั่งต้องพบกับสงครามที่ยืดเยื้อ และต้องมีการแบ่งกองกำลังออกเป็น 5 กลุ่มเพื่อปฏิบัติการในพื้นที่อันกว้างใหญ่มากเกินไป

ซึ่งประเด็นนี้ นอกจากทำให้กองทัพรัสเซียประสบปัญหาเรื่องระยะทางในการปฏิบัติการที่ห่างไกลกันมากแล้ว กองทัพรัสเซียยังขาดแคลนเรื่องเทคโนโลยีในการรวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกและขีดความสามารถในการสั่งการและควบคุมทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกันด้วย จนกระทั่งทำให้ในการรบบางครั้ง กองทหารรัสเซียต้องประสบปัญหาขาดแคลนการสนับสนุนด้วยการโจมตีทางอากาศ หรือ การยิงสนับสนุนจากปืนใหญ่ รวมถึงการส่งกำลังบำรุงต่างๆ อีกด้วย

...

สงครามยูเครน กับ การสับเปลี่ยนนายทหารระดับสูง :

พล.อ.อเล็กซานเดอร์ ดโวนิคอฟ (Alexander Dvornikov) นายพลผู้เชี่ยวชาญยุทธวิธี Scorched-Earth หรือ กลยุทธทางทหารที่มุ่งทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจเป็นประโยชน์แก่ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งผ่านสมรภูมิในซีเรียและเชเชน และเพิ่งถูกแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ในสงครามยูเครนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ถูกปลดจากการทำหน้าที่หลังทำงานได้เพียง 7 สัปดาห์ ในช่วงเวลาเดียวกัน พล.อ.อาวุโส อังเดร เซอร์ยูคอฟ (Andrey Serdyukov) ผู้บัญชาการหน่วยพลร่มอันมีชื่อเสียงมาร่วม 4 ทศวรรษถูกปลดออกจากตำแหน่งหลังกองทัพรัสเซียประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ และล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.อาวุโส อเล็กซานเดอร์ ซูราเลฟ (Alexander Zhuravlev) ผู้บัญชาการที่รับผิดชอบสมรภูมิในแคว้นคาร์คิฟ ของ ยูเครน ถูกปลดออกจากตำแหน่งหลังกองทัพรัสเซียสูญเสียพื้นที่ยึดครองจำนวนมาก

ทั้งนี้ หากนับตั้งแต่เริ่มเปิดฉากสงครามยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา มีรายงานว่า มีนายทหารระดับนายพลของกองทัพรัสเซีย ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ลาออกจากตำแหน่ง หรือ ถูกสับเปลี่ยนตำแหน่ง รวมกันแล้วอย่างน้อย 8 นาย

...

นอกจากนี้ รายงานจากฝ่ายตะวันตกยังอ้างด้วยว่า มีนายพลของรัสเซีย อย่างน้อย 10 นาย ถูกลอบสังหารในสมรภูมิที่ยูเครนด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเครื่องยืนยันได้ชัดเจนว่า กองทัพรัสเซียกำลังผิดพลาดในเชิงกลยุทธครั้งใหญ่ ขณะเดียวกันมันยังนำมาซึ่งเสียงวิพากวิจารณ์ที่เริ่มดังขึ้นๆทุกที ภายในประเทศเองอีกด้วยว่า “รัสเซียกำลังต้องจ่ายแพงมากเกินไป”

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

...