Apple กำลังเดินหน้าสู่ความท้าทายเรื่องการลดการพึ่งพา “ประเทศจีน” ในฐานะฐานการผลิตสำคัญของบริษัทอย่างจริงจัง หลังประกาศอย่างชัดเจนว่า iPhone 14 สมาร์ทโฟนเรือธงของบริษัทที่เพิ่งเปิดตัวออกสู่ตลาด มีส่วนหนึ่งจะถูกผลิตในประเทศอินเดีย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการผลิต iPhone รุ่นใหม่นอกประเทศจีนในปีเดียวกับที่มีการวางจำหน่าย เนื่องจากนับตั้งแต่ปี 2017 ที่ Apple เริ่มให้ อินเดีย ผลิต iPhone เป็นต้นมานั้นจะเป็นการผลิต iPhone รุ่นเก่า มาโดยตลอด

อะไรคือเหตุผลของ Apple ต้องลดการพึ่งพาการผลิตจากจีน :

ความเสี่ยงจากการปะทะกัน โดยเฉพาะการขับเคี่ยวกันทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน คือเหตุผลสำคัญที่สุดในเรื่องนี้ ที่ผ่านมา Apple ในฐานะคนกลางพยายามหาทางผ่อนหนักให้เป็นเบามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการร้องขอให้บรรดาซัพพลายเออร์ในไต้หวัน ยอมติดป้ายผลิตภัณฑ์ของตัวเองว่า “Chinese Taipei” หรือแม้กระทั่งการไล่ลบแอปพลิเคชันที่เป็นกระบอกเสียงของโลกตะวันตกในการวิพากษ์วิจารณ์ปักกิ่งในเรื่องต่างๆ เพื่อลดแรงกดดันจากรัฐบาลจีน

...

ขณะเดียวกัน Apple ได้มีการลงทุนก้อนใหญ่เพื่อสร้างโรงงานผลิตในสหรัฐอเมริกา เพื่อผลิตสินค้าบางชนิด เพื่อแปะคำว่า Made in USA ลงในผลิตภัณฑ์เพื่อเอาใจวอชิงตันด้วยเช่นกัน แม้ว่าในท้ายที่สุดอีกเพียงไม่กี่ปีถัดมา “ผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้น” จะถูกนำมาผลิตในประเทศจีนที่มีต้นทุนต่ำกว่ากันมากเป็นหลักก็ตาม

Apple เอาจริงแค่ไหนกับการย้ายฐานการผลิตไปอินเดีย :

นักวิเคราะห์จาก JP Morgan คาดการณ์ว่า มีแนวโน้มสูงที่ Apple จะย้ายการผลิต iPhone 14 ประมาณ 5% ของจำนวนการผลิตทั้งหมดไปยังอินเดีย ภายในปลายปี 2022 นี้ และอาจจะเพิ่มเป็น 25% ภายในปี 2025

ขณะเดียวกัน JP Morgan ยังคาดการณ์ด้วยว่า ผลิตภัณฑ์ของ Apple ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น iPad, AirPods, MacBook หรือ Apple Watch จากเดิมที่ผลิตนอกประเทศจีนในสัดส่วนเพียง 5% กำลังจะถูกโยกไปผลิตนอกประเทศจีนคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 25% ภายในปี 2025 ด้วย

อะไรคือปัจจัยที่ยืนยันความจริงในเรื่องนี้ :

Foxconn, Wistron, Pegatron 3 บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่ และเป็นบริษัทหลักที่รับหน้าที่ประกอบ iPhone แสดงท่าทีชัดเจนว่ามีความสนใจเข้าร่วมโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการผลิต (Production-Linked Incentive Scheme) หรือ PLI ซึ่งมีเงื่อนไขที่เอื้อต่อการลงทุนสร้างโรงงานผลิตสินค้าไฮเทคขนาดใหญ่ในประเทศอินเดียด้วย

จีน VS อินเดีย :

จีน กับ ตลาดสมาร์ทโฟน :

การทำตลาดในประเทศจีนสร้างรายได้ก้อนงามให้กับ Apple เสมอมา โดยรายงานผลประกอบการเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา ตลาดในประเทศจีนสามารถสร้างรายได้สูงถึง 68,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนถึงเกือบ 20% ของรายรับ Apple ในปีนั้น

จีน กับ ความช่ำชองในการผลิต iPhone :

มากกว่า 2 ทศวรรษที่ Apple พึ่งพาการผลิตในประเทศจีนอย่างจริงจัง ปัจจุบันซัพพลายเออร์ในประเทศจีนผลิตสินค้าให้กับ Apple คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 90% ส่วนการผลิต iPhone คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 98%

...

อินเดีย กับ ตลาดสมาร์ทโฟน :

ปัจจุบัน อินเดีย คือประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในลำดับที่ 5 ของโลก ส่วนตลาดสมาร์ทโฟนใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก โดยตามรายงานของบริษัทวิจัยด้านการตลาดชั้นนำของโลกอย่าง Counterpoint ระบุว่า ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ อินเดียมียอดผู้ใช้สมาร์ทโฟนมากกว่า 600 ล้านเครื่อง โดยในจำนวนนี้เป็นสัดส่วนการใช้สมาร์ทโฟน 5G ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องด้วย โดยปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึง 29% ของจำนวนสมาร์ทโฟนทั้งหมด

โดยผู้ที่ครองสัดส่วนมากที่สุดในตลาด คือ เสียวหมี่ (Xiaomi) และ ซัมซุง (Samsung) 19% รองลงมาคือ วีโว่ (VIVO) 17%, เรียลมี (realme) 16%, ออปโป้ (OPPO) 11%, (Other 18%)

อย่างไรก็ดีแม้ iPhone จะแชร์ส่วนแบ่งการตลาดในอินเดียได้เพียงประมาณ 3-4% แต่ในส่วนของตลาดสมาร์ทโฟนพรีเมียมที่มีราคามากกว่า 45,000 รูปี หรือมากกว่า 552 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป iPhone 13 ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่มียอดขายสูงที่สุดในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ แถมยังเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 63% เมื่อเปรียบเทียบแบบปีต่อปีด้วย

...

อินเดีย กับ ความช่ำชองในการผลิต iPhone :

อินเดีย เริ่มเป็นฐานการผลิต iPhone ให้กับ Apple ตั้งแต่ปี 2017 แต่ที่ผ่านมาเป็นการผลิต iPhone รุ่นเก่า ซึ่งผ่านการแก้ไขในวงจรกระบวนการผลิตมาแล้ว รวมถึง iPhone รุ่นราคาประหยัด เพื่อป้อนตลาดในอินเดียเป็นส่วนใหญ่

อย่างไรก็ดี แม้อินเดียจะมีทั้งวิศวกรที่พูดภาษาอังกฤษและแรงงานราคาถูกจำนวนมหาศาลเช่นเดียวกับจีน รวมถึงรัฐบาลอินเดียยังมีความพร้อมในเรื่องแผนการรองรับการลงทุนด้านอุตสาหกรรมไฮเทคเป็นอย่างดี หากแต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังเชื่อว่า กระบวนการย้ายฐานการผลิตครั้งนี้ Apple จะยังคงดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากยังคงต้องรักษาความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลปักกิ่ง อีกทั้งยังมีความท้าทายในเรื่องที่ว่า “อินเดียจะสามารถจำลองการควบคุมการผลิตที่สุดแสนจะเข้มงวดในแบบมือต่อมือ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงความต้องการแบบฉับพลันทันใด และแสนดุดันในแบบ Apple Style ได้มากน้อยแค่ไหนด้วย”.

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

...