เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมาร หรือเจ้าชายแห่งเวลส์ พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ ได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่แห่งสหราชอาณาจักรในทันที ขณะมีพระชนมพรรษา 73 พรรษา ภายหลังพระราชมารดา เสด็จสวรรคต พระชนมพรรษา 96 พรรษา ส่วนคามิลลา ปาร์กเกอร์ โบว์ลส์ พระชายา ได้ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีของกษัตริย์พระองค์ใหม่เช่นกัน
ย้อนไปเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2524 พระองค์เข้าพิธีอภิเษกสมรสอันยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษกับเลดี้ไดอานา สเปนเซอร์ สุภาพสตรีผู้สูงศักดิ์จากตระกูลขุนนางเก่าของอังกฤษ ตามคำแนะนำของพระญาติสนิท โดยมิได้เกิดจากความรัก แต่จากความเหมาะสมในการเป็นว่าที่พระราชินี จนสร้างความกดดัน
...
เพราะจริงๆ แล้วคามิลลา ปาร์กเกอร์ โบว์ลส์ หญิงสาวสามัญชนทรงเสน่ห์ เป็นรักแรกของพระองค์ขณะเจอกันในงานแข่งขันโปโล แต่ฝ่ายราชวงศ์กลับไม่ปลื้ม และเมื่อความรักมีอุปสรรค ในที่สุดคามิลลา ตัดสินใจแต่งงานกับแอนดรูว์ ปาร์กเกอร์ โบว์ลส์ นายทหารหนุ่ม ในปี 2516 จนพระองค์ทรงเสียพระทัยเป็นอย่างมาก เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง
แม้คามิลลา ได้แต่งงานไปแล้ว แต่ทั้งสองยังคงเป็นเพื่อนสนิทที่แสนจะเข้าอกเข้าใจกันและกันในทุกสิ่ง เหมือนเป็นคู่กันแล้วไม่แคล้วกัน ตามด้วยข่าวสัมพันธ์สวาทอันอื้อฉาวในปี 2535 จนสะเทือนราชวงศ์วินด์เซอร์ ถึงขั้นที่พระองค์คิดจะสละตำแหน่งรัชทายาท
ต่อมาในปี 2538 คามิลลาได้จบชีวิตคู่กับสามี จากนั้นในปี 2539 พระองค์ทรงหย่ากับเจ้าหญิงไดอานา และกลับมารักกันอย่างเปิดเผยกับคามิลลา หลังเจ้าหญิงไดอานาสิ้นพระชนม์ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในกรุงปารีส เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2540 พร้อมกับโดดี อัล-ฟาเยด คู่รักมหาเศรษฐี
แม้มีประชาชนส่วนหนึ่งไม่ชอบคามิลลา สตรีผู้ผ่านการหย่าร้างมาก่อน มองว่าเป็นต้นเหตุทำให้ชีวิตครอบครัวของพระองค์กับเจ้าหญิงไดอานา ต้องพังทลายลงไป และสร้างความเสื่อมเสียให้กับราชวงศ์เป็นอันมาก แต่เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2548 พระองค์ทรงเสกสมรสกับคามิลลา ณ พระราชวังวินด์เซอร์ หลังฝ่าฟันอุปสรรคความรักแบบรักๆ เลิกๆ แล้วกลับมารักกันอีก
สิ่งที่คามิลลา เคยหวังได้สมปรารถนา ก้าวเข้าสู่พระราชวงศ์ในฐานะพระวรชายาพระองค์ที่ 2 ในเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์แห่งเวลส์ และทุ่มอย่างสุดตัวในการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ทั้งหมดหวังครองใจประชาชน จนในที่สุดได้สวมมงกุฎเป็นสมเด็จพระราชินี คนปัจจุบัน.