ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน ถึงขีดสุดแล้ว เพราะขณะนี้ “วลาดิเมียร์ ปูติน” ประธานาธิบดีของรัสเซีย ประกาศปฏิบัติการทางทหารในภูมิภาคดอนบัส ทางภาคตะวันออกของยูเครน อ้างว่าไม่มีทางเลือก ต้องป้องกันภัยคุกคามที่เกิดขึ้นจากยูเครน และหากกองกำลังภายนอกเข้าแทรกแซงจะตอบโต้ทันที และมีรายงานว่ามีเสียงระเบิดดังขึ้นใกล้สนามบินนานาชาติบอรีสปีล ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน และในอีกหลายเมือง

ความเสียหายในยูเครน จากปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย
ความเสียหายในยูเครน จากปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย

...

ภายหลังเมื่อวันที่ 21 ก.พ. ปูติน รับรองสถานะเมืองโดเนตสก์ และลูฮานสก์ ในภูมิภาคดอนบัส ซึ่งกลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซียได้เข้ายึดครอง ให้เป็นรัฐอิสระ พร้อมกับส่งทหารรัสเซียเข้าไปรักษาสันติภาพ และเปิดทางในการส่งกำลังทหารบุกยูเครน ทำให้ชาติตะวันตกประกาศคว่ำบาตรรัสเซียในทันที ท่ามกลางการวิตกของทั่วโลก จะจุดไฟสงครามโลกหรือไม่ และส่งผลให้ยูเครนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและกฎอัยการศึก ทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ

แม้ว่า เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส พยายามเป็นตัวกลางใช้การทูตหาหนทางคลี่คลายสถานการณ์เพื่อรักษาผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย ไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเสียหน้า และไม่ต้องการให้เกิดสงคราม เพราะจะสร้างความเสียหายแก่ทุกฝ่ายในทุกด้าน เช่นเดียวกับเยอรมนีที่ออกมาสนับสนุน แต่อาจไม่เป็นผล หากสถานการณ์รุนแรงบานปลาย และล่าสุดคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) กำลังประชุมหาทางออกวิกฤติที่เกิดขึ้น และหาหนทางเจรจาให้รัสเซียถอนกำลังออกไป

กองกำลังทหารยูเครนบริเวณแนวชายแดน เตรียมพร้อมรับมือ
กองกำลังทหารยูเครนบริเวณแนวชายแดน เตรียมพร้อมรับมือ

ปฏิบัติการณ์ทางทหารของรัสเซีย จนเสียงระเบิดดังกึกก้องในหลายเมืองของยูเครน จากการยิงจรวดมิสไซล์พุ่งเป้าไปยังโครงสร้างพื้นฐาน และกองกำลังยูเครน บริเวณแนวชายแดน ชาวโลกหวังว่าจะจบเร็วไม่บานปลาย แต่ถ้าจบช้า มีความสุ่มเสี่ยงจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 อย่างแน่นอน ตามการวิเคราะห์ของ "น.อ.สัมฤทธิ์ ทองอินทร์" ผู้เขียนหนังสือ “สงครามโลกครั้งที่ 3” และมองว่าสถานการณ์ขณะนี้มีแนวโน้มจบยาก เพราะการเตรียมการของรัสเซียมีมากเกินกว่าจะรบแค่ชั่วระยะเวลาอันสั้น มีการระดมประเทศพันธมิตรร่วมด้วย ในขณะที่จีนมีท่าทีสนับสนุน แม้ก่อนหน้านี้จะขอให้คุยกันดีๆ ก็ตาม

ควันดำทะมึน บริเวณสนามบินกองทัพของยูเครน ใกล้กรุงเคียฟ หลังรัสเซียประกาศปฏิบัติการทางทหาร
ควันดำทะมึน บริเวณสนามบินกองทัพของยูเครน ใกล้กรุงเคียฟ หลังรัสเซียประกาศปฏิบัติการทางทหาร

...

ส่วนท่าทีกลุ่มนาโตและพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐฯ ทั่วโลก ออกมาประกาศพร้อมเตรียมเคลื่อนทัพช่วยยูเครน ด้วยความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เช่นเดียวกับสงครามกลางเมืองที่ซีเรียและตะวันออกกลางเวลานี้ และมีท่าทีหนักหน่วงกว่า เพราะได้รับผลกระทบโดยตรง

ประชาชนรีบอพยพออกจากกรุงเคียฟ เพราะเกรงว่าไม่ปลอดภัย
ประชาชนรีบอพยพออกจากกรุงเคียฟ เพราะเกรงว่าไม่ปลอดภัย
รถจำนวนมากขับออกจากกรุงเคียฟ หนีภัยจากการเปิดฉากบุกยูเครนของรัสเซีย
รถจำนวนมากขับออกจากกรุงเคียฟ หนีภัยจากการเปิดฉากบุกยูเครนของรัสเซีย

...

แม้วางใจอย่างเป็นกลางในการแสดงความเห็นต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เมื่อพิจารณาถึงบุคลิก แนวคิดการตัดสินใจ และการกระทำที่ผ่านมาในอดีตทั้งหมดของผู้นำโลกทั้งรัสเซียและสหรัฐฯ โดยประเมินว่าแนวโน้มสงครามครั้งนี้จะยืดเยื้อบานปลาย มีโอกาสประมาณ 50% ในการจุดชนวนสงครามที่จุดอื่นๆ ไปทั่วโลก จนกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3.