เราเห็นอะไรบ้าง? หลังบอสพอลและเครือข่าย "ดิไอคอน" ถูกจับชุดแรก "นักอาชญาวิทยา" พบ 5 พฤติกรรมโยงคดี มีการวางแผนก่อนถูกจับกุม ตั้งข้อสังเกตหาหลักฐานมัดคดีแชร์ลูกโซ่ คาดออกหมายจับเพิ่มสาวให้ถึงคนเบื้องหลังเครือข่าย

วันนี้ (18 ต.ค.67) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก สั่งการให้พนักงานสอบสวน บก.ปคบ. เบิกตัวนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้บริหาร "ดิไอคอน กรุ๊ป" ออกจากห้องคุมขังอาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ไปส่งฝากขังที่ศาลอาญา

คดีดิไอคอน กลายเป็นประเด็นที่มีผู้เฝ้าติดตาม พฤติกรรมของบรรดาบอสและผู้เกี่ยวข้อง ที่โยงกับคดี "ผศ.ดร.ฐนันดร์ศักดิ์ บวรนันทกุล" อดีตประธานหลักสูตรอาชญาวิทยา การบริหารงานยุติธรรม ม.มหิดล กล่าวว่า คดี "ดิไอคอน" หลังบรรดาบอสและแม่ข่ายทั้ง 18 คน ถูกจับ และดำเนินการฝากขัง จะเห็นปรากฏการณ์ทางคดีดังนี้

...

1.คาดว่าบรรดาบอส ที่ถูกออกหมายจับมีการวางแผนล่วงหน้า ออกแบบการกระทำความผิดให้มีโทษเบาลง ซึ่งในเชิงอาชญาวิทยา เป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ที่ผู้กระทำความผิดมีความเชี่ยวชาญเรื่องแชร์ลูกโซ่ และชักชวนให้ลงทุน ดังนั้นฐานความผิดในการฉ้อโกงประชาชน มีผู้เสียหายจำนวนมาก ความเสียหายมูลค่าสูง

2.คดีนี้ตำรวจจับค่อนข้างเร็ว มาจากปัจจัยเชิงคดีคือ 1.เข้าข่ายกระทำความผิดอาญา เกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน เพื่อทำการยึดทรัพย์ได้ทันที 2.ถ้าตำรวจสอบสวนพบมีความผิดเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ด้วย อาจมีการแจ้งข้อหาเพิ่ม

“คดีนี้มีการจับกุมรวดเร็ว ตำรวจพยายามนำหมายเกี่ยวกับความผิดด้านอาญาในการจับกุมก่อน เพราะถ้ารอการสืบสวนหาหลักฐานเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ ยิ่งทำให้การจับกุมยากมากขึ้น”

3. การตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับคดีนี้เกี่ยวโยงกับแชร์ลูกโซ่ ต้องใช้เวลาสืบสวน เพราะการทำธุรกิจของดิไอคอน มีการทำงานเป็นเครือข่าย ถ้ามีการขายสินค้าจริง จะไม่ผิดกฎหมาย แต่อีกด้านหนึ่ง ถ้ามีพฤติกรรมเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ ในการเชิญชวนให้มาเป็นเครือข่าย แต่ไม่มีสินค้าขาย จะเข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่ ดังนั้นตำรวจสามารถแจ้งข้อหาเพิ่มได้

4. คาดมีการออกหมายจับเพิ่ม เพราะหลังจากการสอบสวนในชุดแรก ต้องไปดูว่ามีแม่ข่ายอีกหลายคนที่เป็นตัวการร่วม หรือเป็นผู้สนับสนุน ที่ถูกเรียกมาสอบสวนในชุดถัดไป โดยพฤติกรรมผู้ที่จะถูกออกหมายจับในชุดต่อไป ต้องมีพฤติกรรมชักชวนเหยื่อให้มาร่วมลงทุน โดยไม่มีสินค้าในการซื้อขาย มีโอกาสที่จะถูกออกหมายจับค่อนข้างสูง แต่ในคนที่เชิญชวนแล้วมีสินค้าให้ขายจริง อาจไม่ถูกหมายจับ

“สำหรับบอสพอล ยังไงก็ต้องถูกดำเนินคดีฐานฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จของ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ แล้วถ้ามีการสอบสวนพบเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ ก็จะมีข้อหาเพิ่มขึ้นไปอีก ดังนั้นบรรดาบอสต่างๆ น่าจะรอดยาก”

...

5.การเยียวยาผู้เสียหาย จะไปคาดหวังว่าได้คืนทั้งหมดค่อนข้างลำบาก เพราะก่อนที่จะลงเงินไป เหยื่อมีความเชื่อในเรื่องของดารา และมีความอยากได้ผลตอบแทนที่สูง ซึ่งค่อนข้างมีความเสี่ยง เพราะในกลไกการตลาด มีโอกาสที่จะเอาคนเด่นดัง มาเป็นตัวแทนในการดึงดูดเชิญชวนให้ลงทุนก็ยังมีอยู่ ประชาชนทั่วไปไม่ควรหลงเชื่อง่าย ควรมีสติทุกครั้งก่อนจะลงทุน