เตือนพายุดีเปรสชัน หอบฝนถล่มอีสาน 19 – 21 ก.ย. นี้ "หนองคาย-สกลนคร-อุดรธานี" เฝ้าระวังน้ำท่วมสูง เปิดสาเหตุแนวพายุเคลื่อนตัวมาทิศทางเดิม จับตาพายุหนักเข้าอีกลูกต้นเดือน ต.ค. นี้ แผ่อิทธิพลสะเทือนกรุงเทพฯ และปริมณฑล
กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนพายุซูลิก กำลังเคลื่อนตัวจากเวียดนามเข้าไทย โดยข้อมูลวันที่ 18 ก.ย. 67 ระบุว่า พายุมีแนวโน้มเป็นพายุโซนร้อน คาดวันที่ 20 – 21 ก.ย. 67 เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง จากนั้นอ่อนกำลังลง ประกอบกับร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล ทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้น ตั้งแต่วันที่ 19 – 23 ก.ย. 67 จึงให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเตรียมพร้อม และติดตามสถานการณ์ต่อไป
การเคลื่อนตัวของพายุซูลิกจากตอนกลางเวียดนามมุ่งสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำโขง ก่อนหน้านี้ประสบปัญหาน้ำท่วมริมตลิ่งและพื้นที่ต่ำ ทำให้มีความกังวลว่ารอบนี้พายุจะเคลื่อนตัวเข้ามาเติมน้ำในแม่น้ำโขง
"รศ.ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์" คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานแผนงานการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ วิเคราะห์ว่า การเคลื่อนตัวของพายุซูลิกที่ตอนนี้ (18 ก.ย. 67) เคลื่อนตัวเข้าเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม จะเคลื่อนมาเมืองท่าแขก สปป.ลาว จากนั้นจะเข้าไทยวันที่ 19 – 21 ก.ย. 67 ทำให้มีฝนตกหนักใน จ.สกลนคร หนองคาย และอุดรธานี
“พายุซูลิกตอนนี้เริ่มอ่อนกำลังเป็นดีเปรสชัน แต่จะเติมน้ำในแม่น้ำโขงให้เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะ จ.หนองคาย ที่มีน้ำท่วมมาก่อนหน้านี้ ต้องเฝ้าระวัง แต่ทางการคาดว่าระดับน้ำจะไม่สูงกว่าตลิ่ง แต่อาจมีน้ำท่วมในพื้นที่ต่ำริมแม่น้ำโขง และน้ำจะเข้ามาจากริมแม่น้ำไม่เกิน 1 กิโลเมตร”
จับตาพายุลูกที่ 3 มีความรุนแรงทำฝนตกหนักซ้ำ
ถ้าไล่ลำดับพายุที่มีอิทธิพลต่อไทย มาตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย. 67 ที่พายุยางิ แผ่อิทธิพลทำให้มีฝนตกหนักในประเทศจีนและเมียนมา ทำให้มีน้ำในแม่น้ำโขงท่วมสูง ส่วนพายุซูลิกที่จะเข้าไทยวันที่ 19 – 21 ก.ย. 67 แม้มีกำลังอ่อนลง แต่อาจทำให้พื้นที่ริมแม่น้ำโขงเกิดการท่วมซ้ำ ทั้งนี้ ปลายเดือน ก.ย. นี้ ต้องจับตาพายุอีกลูกที่จะมีอิทธิพลต่อไทย โดย "รศ.ดร.สุจริต" วิเคราะห์ว่า ช่วงประมาณวันที่ 23 ก.ย. นี้ ต้องประเมินกันอีกครั้งว่า พายุลูกที่ 3 จะเข้ามาไทยหรือไม่ เพราะพายุลูกนี้มีอิทธิพลรุนแรง และทำให้มีฝนตกหนัก แม้จะไม่หนักเท่ากับพายุยางิ แต่ก็ทำให้หลายพื้นที่มีน้ำท่วมขัง
ถ้าพายุลูกที่ 3 เข้ามาช่วงต้นเดือน ต.ค. 67 จะเคลื่อนตัวต่ำลง ทำให้มีฝนตกใน จ.พิษณุโลก หนองคาย ซึ่งเหตุผลหลักที่พายุช่วงนี้เคลื่อนตัวเข้ามาทางเวียดนามและเข้าไทยทางภาคอีสาน เนื่องจากมีร่องความกดอากาศต่ำจากทางเหนือและใต้ชนกันในพื้นที่นี้ ทำให้มีพายุเคลื่อนตัวผ่านเส้นทางนี้ ทำให้ฝนตกซ้ำในพื้นที่เดิม เช่น จ.หนองคาย คาดว่าพายุที่เข้ามาต่อจากนี้ จะเคลื่อนตัวเข้ามาในพื้นที่ต่ำลงจากพายุลูกก่อน
“พายุที่เคลื่อนตัวมายังเส้นทางเดิม ทำให้มีฝนตกซ้ำเกิดจากปรากฏการณ์ลานีญา การที่พายุช่วงนี้มักมีการเคลื่อนตัวมาจากเวียดนาม ที่มวลของพายุจะสะสมความชื้นจากทะเลมาจำนวนมาก เมื่อขึ้นฝั่งทำให้มีฝนตกหนักกว่าปกติ ต่างจากพายุที่มีการเคลื่อนที่มาจากประเทศลาว ที่จะปะทะกับภูเขา ทำให้พายุมีกำลังอ่อนตัวลง”
ความกังวลต่อปริมาณน้ำฝนในแม่น้ำโขง ทำให้มีระดับน้ำเพิ่มสูง แต่การเข้ามาของพายุซูลิกไม่น่าทำให้มีน้ำท่วมสูง เพราะแนวพายุที่เข้ามาจะเคลื่อนตัวต่ำลงกว่าเดิม ทำให้ไทยสามารถบริหารจัดการน้ำได้ดีกว่าตอนพายุยางิ ที่ฝนส่วนใหญ่ตกที่จีนและเมียนมา
“สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล แม้พายุที่เข้ามาในเดือน ก.ย. นี้ จะไม่กระทบ แต่คาดว่าช่วงต้นเดือน ต.ค. นี้ จะมีพายุอีกลูกเคลื่อนเข้ามาในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อกรุงเทพฯ จึงอยากเตือนประชาชนให้เฝ้าระวัง และรับข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง เพื่อได้เตรียมตัวป้องกันอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นได้”