พิรุธสอบครูได้อันดับ 1 แต่ชื่อหาย "ครูเบญ" ร้องกระทรวงศึกษาธิการ เร่งตรวจสอบ "องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน" ชี้พิรุธ ควรให้หน่วยงานกลางตรวจสอบ ที่ผ่านมาสอบครูมีระบบอุปถัมภ์ฝังราก ขอย้ายทีต้องจ่ายเงิน 3 – 5 เดือน

กลายเป็นประเด็นร้อน สาวรายหนึ่งออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องความเป็นธรรม เมื่อวันที่ 12 ก.ย.67 มีรายชื่อสอบติดข้าราชการครูอันดับที่ 1 จ.สระแก้ว และได้ตัดสินใจลาออกจากงานที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเก็บของเตรียมย้ายกลับบ้านเกิด แต่ผ่านไปเพียง 3 วัน พบว่า รายชื่อได้หายไปจากประกาศอย่างเป็นปริศนา

ข้อความในโพสต์ของสาวรายนี้ระบุว่า "ฉันสอบติดพนักงานราชการทั่วไปอันดับที่ 1 เอกวิทยาศาสตร์ สพม.สระแก้ว ความตั้งใจของฉัน ฉันทำได้ ได้กลับมาดูแลคนแก่ที่บ้าน ลาออกจากที่ทำงาน เก็บของใช้ คืนหอพัก เตรียมตัวกลับบ้าน สัปดาห์นี้แล้ว อยู่ดีๆ รายชื่ออันดับ 1 ของฉันหายไป เกิดอะไรขึ้น โทรไปถามทางต้นสังกัดได้รับแค่คำขอโทษ ไม่ได้รับคำอธิบายใดๆ ทั้งสิ้น แล้วฉันต้องทำยังไงต่อไป… ความรู้สึกของพ่อแม่ฉันใครจะเยียวยา… เคว้งไปหมดเลยตอนนี้ เสียใจสุดๆ ขอความเป็นธรรมให้ด้วยค่ะ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว"

...

ต่อมา สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาสระแก้ว ออกแถลงชี้แจงว่า เหตุดังกล่าว เป็นความผิดพลาดบกพร่องของสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาสระแก้ว จนเกิดผลกระทบต่อหลายฝ่าย สํานักงานเขตพื้นที่ฯ ยอมรับในความผิดพลาด

หลังมีการแชร์ข้อความจำนวนมาก ทำให้สำนักงานเขตการศึกษาฯ พยายามติดต่อเธอ เพื่อเจรจา และยื่นเงื่อนไขให้เป็นครูอัตราจ้างในพื้นที่ แต่เธอยืนยันเรียกร้องถึงความเป็นธรรม และให้มีการตรวจสอบข้อสอบดังกล่าว ทำให้ ป.ป.ช. ได้เข้าไปตรวจสอบลังข้อสอบ ซึ่งจะมีการชี้แจงปมที่หลายคนสงสัยต่อไป

วันนี้ (16 ก.ย.67) ครูสาวรายดังกล่าวได้เดินทางไปยื่นหนังสือเรียกร้องความเป็นธรรมที่กระทรวงศึกษาธิการ และแสดงถึงความกังวล เพราะตามกำหนดจะให้ผู้ที่สอบได้มารายงานตัววันที่ 17 ก.ย.นี้ ซึ่ีงตอนนี้ทางหน่วยงานกลางได้ชะลอการรายงานตัว และตั้งกรรมการสอบผู้บริหารเขตการศึกษาดังกล่าวแล้ว

เบื้องต้นทีมข่าวพยายามติดต่อผู้บริหาร สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาสระแก้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้

ขบวนการโกงสอบครู คอร์รัปชั่นเรื้อรังสังคมไทย

กรณีหญิงสาวที่ตอนแรกประกาศว่าสอบได้อันดับ 1 ในการเป็นพนักงานราชการครู แต่แล้วไม่กี่วันก็มีการแก้ไขประกาศ ถือว่าเป็นประเด็นที่ีมีข้อพิรุธ ในมุมมองของ "ดร.มานะ นิมิตรมงคล" เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ระบุว่า กรณีที่เกิดขึ้นกลายเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย จนกลายเป็นเรื่องธรรมดา ในเกือบทุกครั้งที่มีการสอบบรรจุครู ของกระทรวงศึกษาธิการ

ที่ผ่านมาความผิดปกติในการสอบบรรจุครู มีทั้งที่จัดสอบโดยกระทรวงศึกษาธิการ และครูในความดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีการรู้ในวงในมานานว่า การสอบบรรจุครู มีเส้นสายที่คอยช่วยเหลือกัน ถึงขนาดล็อกว่าจะให้ใครสอบได้ ในอดีตที่ผ่านมา มีผู้เข้าสอบที่ทำคะแนนข้อเขียนดี แต่ตกตอนสัมภาษณ์จำนวนมาก ผู้คุมสอบมีการอ้างว่า มีความเหมาะสมน้อย ทั้งที่จริงมีคนในระบบอุปถัมภ์รอไว้อยู่แล้ว

กรณีของผู้ที่สอบได้อันดับ 1 แล้วชื่อหายไป การสืบสวนต่อจากนี้ หน่วยงาน ป.ป.ช. ถือเป็นองค์กรกลางที่ต้องเข้าไปสืบสวนอย่างรอบด้าน ไม่ควรปล่อยให้ตัวแทนจากกระทรวงศึกษาตรวจสอบกันเอง เพราะมีโอกาสที่จะช่วยเหลือกันได้หลังเรื่องนี้เงียบลง ซึ่งจะเป็นการสร้างความเป็นธรรมให้กับคนทั้งสองฝ่ายมากที่สุด

...

“การซื้อขายตำแหน่งครู กลายเป็นเรื่องที่หลายคนทราบกัน เช่นเดียวกับเวลาที่ครูระดับล่างขอโยกย้ายไปอยู่ใกล้บ้านเกิด มีจำนวนมากต้องเสียเงินให้กับการโยกย้าย และมีประเด็นที่พูดกันมาก กรณีของครู ที่อยู่ในการดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เมื่อใกล้หมดสัญญาจ้าง จะเรียกมาคุยเพื่อขอเงินแลกกับการต่อสัญญา โดยจำนวนเงินที่ขอมีตั้งแต่อัตราเงินเดือนของครูคนนั้น 3 – 5 เดือน จึงไม่แปลกใจที่คนอยู่ในวงการนี้ คนดีๆ จะเริ่มท้อใจ”

การแก้ไขกรณีการทุจริตสอบครู ต้องมีการเปลี่ยนแปลงระบบที่ทำให้คนที่เข้าไปสอบเชื่อมั่นได้ ทำอย่างโปร่งใส โดยสร้างระบบตรวจสอบทั้งระบบ เพื่อแก้ไขตั้งแต่ในระดับล่างไปจนถึงระดับบนสุด รวมถึงสร้างค่านิยมในองค์กรครูให้ปลอดจากการ คอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ.