เข้าสู่วันที่ 4 ของการช่วยชีวิต 3 คนงาน อุโมงค์รถไฟความเร็วสูงถล่ม บริเวณ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ล่าสุดทีมค้นหาพบสัญญาณชีพคนงานทั้งหมด แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ วิเคราะห์ ปัจจัยรอดชีวิต แม้ติดอยู่ภายในเกิน 72 ชั่วโมง มาจาก 3 ประเด็นใหญ่ ทำให้มีโอกาสรอดชีวิตสูง

การค้นหาผู้สูญหายทั้ง 3 ชีวิต กรณีเกิดเหตุอุโมงค์รถไฟฟ้าความเร็วสูงถล่ม เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 24 ส.ค. 67 โดยอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงคลองขนานจิต ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ถล่มทำให้คนงานสูญหาย ล่าสุดทีมค้นหาเข้าใกล้ผู้สูญหายรายแรก มีการเคาะส่งสัญญาณโต้ตอบกับทีมค้นหา ขณะเดียวกันพบว่าผู้สูญหายทั้ง 3 ราย มีสัญญาณชีพ จากการเคลื่อนไหวของหน้าอก แต่ต้องใช้เวลาในการขุดค้น เพื่อให้เข้าไปถึงตัวผู้สูญหายแต่ละราย

หากวิเคราะห์ด้านการแพทย์ รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) มองการรอดชีวิตของผู้สูญหายว่า ประเด็นการรอดชีวิตของคนงานทั้ง 3 ราย หากถูกดินในอุโมงค์ถล่มทับ หรือต้องตกไปอยู่ในสภาวะคล้ายกันคือ อากาศ น้ำ และอาหาร

...

อากาศ หากประเมินสิ่งสำคัญสุด ตอนนี้เป็นเรื่องของอากาศ เนื่องจากภายในมีอากาศอยู่จำกัด เพราะการหายใจของคนจะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ออกมา ทำให้ปริมาณออกซิเจน ในพื้นที่มีน้อยลงเรื่อยๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำให้ผู้ที่ติดอยู่ด้านในเสียชีวิตได้ โดยตอนนี้ทีมช่วยเหลือ มีการสอดท่ออากาศเข้าไปด้านใน ทำให้ผู้ประสบภัยยังมีอากาศหายใจอยู่

น้ำ ปกติคนสามารถอดได้ 3 – 7 วัน กรณีของผู้ที่ติดอยู่ภายใน แล้วพบว่ายังมีสัญญาณชีพอยู่ อาจมาจากการที่เขามีน้ำติดไว้ในรถ หรือชั้นดินภายในมีน้ำที่หยดลงมา เลยทำให้ผู้ประสบภัยใช้น้ำส่วนนี้ในการดื่ม เพื่อประทังชีวิต ความเป็นไปได้ ตอนนี้หากพบจุดที่คนติดอยู่ภายใน ต้องพยายามสอดท่อ เพื่อให้น้ำประทังชีวิต และรอเวลาให้ทีมค้นหาเข้าไปช่วยเหลือได้ทัน

อาหาร โดยปกติคนสามารถอดได้ประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ ดังนั้นในระยะเวลา 4 วัน นี้ ยังมีโอกาสรอด แม้ไม่ได้ทานอาหาร หากพื้นที่นั้นมีอากาศและน้ำอยู่

“หากผู้ประสบภัยติดอยู่ในรถ พื้นที่แคบๆ แม้ขยับตัวได้ยาก แต่ขอให้มีอากาศและน้ำ ระยะเวลา 4 วัน ยังเป็นเรื่องปกติที่มีสัญญาณชีพ ตัวอย่างเช่นกรณี 13 หมูป่าที่ติดถ้ำ ระยะแรกมีปัญหาเรื่องอากาศก่อน แต่พอมีการเจาะท่อเข้าไปเพื่อให้อากาศถ่ายเท ประกอบกับพื้นที่มีน้ำ เลยทำให้สามารถรอดชีวิตมาได้”

สำหรับประชาชนทั่วไป อาจประสบเหตุลักษณะเดียวกันได้ ในการไปเที่ยวหรือทำงาน ดังนั้น สิ่งที่จำเป็นคือ การตั้งสติ แล้วพยายามหาพื้นที่อากาศถ่ายเทและน้ำ เพื่อประทังชีวิต ซึ่งจะช่วยทำให้มีโอกาสรอดชีวิตได้สูงกว่าคนที่ไม่มีความรู้ การเอาชีวิตรอด.