จับสัญญาณ โผ ครม. “แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯ คนที่ 31 เดินหน้าฉีดยาแรงกระตุ้นเศรษฐกิจไทย เขย่าโควตารัฐมนตรีภายในพรรคเพื่อไทย หวังเพิ่มฐานเสียงท้องถิ่น นักวิเคราะห์การเมืองมอง “สุทิน” ยังมีแต้มต่อคุม “กลาโหม” จับตาถอดสลักระเบิด “วงษ์สุวรรณ” ไม่ช้าก็เร็ว
หลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำตัดสิน มีผลทำให้ “เศรษฐา ทวีสิน” ต้องหลุดจากตำแหน่งนายกฯ คนที่ 30 ทำให้สภาฯ ต้องมีการประชุมเพื่อโหวตหานายกฯ คนใหม่ ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างยกมือโหวตให้ “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ การเมืองไทย
ช่วงเช้าวันนี้ (18 ส.ค. 67) มีพิธีอัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ภายหลังพิธี “แพทองธาร” กล่าวขอบคุณการสนับสนุนของประชาชน และพร้อมประสานความร่วมมือกับคนทุกเจเนอเรชัน ในการสร้างประเทศไทยให้เดินหน้าต่อไป ซึ่งจะมีการนำเสนอนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่เดือน ก.ย.นี้ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะล้มเลิกโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต ที่เป็นนโยบายของอดีตนายกฯ “เศรษฐา”
...
แม้นักข่าวสอบถามแกนนำพรรคเพื่อไทย ถึงโผคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร แต่ได้ปฏิเสธถึงการให้ข้อมูล และยืนยันไม่ทราบกระแสข่าวที่ว่า จะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งคณะรัฐมนตรี ในโควตาพรรคพลังประชารัฐ ที่เดิม “พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” นั่งรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เช่นเดียวกับสัญญาณของโผคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ด้านเศรษฐกิจ มีกระแสว่า นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อาจขยับขึ้นมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อย่างเต็มรูปแบบ
โผคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ “แพทองธาร 1” เขย่าฐานเสียงเพื่อไทย
หากวิเคราะห์โผคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของ นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ที่เหลือเวลาทำงานอีก 3 ปี “รศ.ยุทธพร อิสรชัย” นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มองว่า คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จะมีการปรับเปลี่ยนเป็น 2 ส่วนดังนี้
1.โควตาคณะรัฐมนตรีในพรรคเพื่อไทย จะมีการเขย่าอย่างหนัก ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ใหม่ของพรรคเพื่อไทย และเพื่อให้ตอบสนองกับความรับผิดชอบของ สส.ระดับเขตของพรรคให้มากขึ้น แม้หลายคนมองว่า เวลานี้เป็นวิกฤติของพรรคเพื่อไทย แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นโอกาส ในการที่เพื่อไทย จะเร่งเรียกคะแนนนิยมกลับมา
ต้องยอมรับว่า ในช่วงที่คุณเศรษฐา เป็นนายกฯ สส.ของพรรคเพื่อไทย หลายคนรู้สึกว่าพรรคไม่ให้ความสำคัญกับการทำงานในระดับพื้นที่ของ สส. ดังนั้น โผคณะรัฐมนตรีรอบนี้ เพื่อไทยจะต้องรักษาฐานที่มั่นที่เป็นคะแนนเสียงเดิมให้มากขึ้น โดยเฉพาะการมี สส.เขต มานั่งเป็นคณะรัฐมนตรี จะทำให้เกิดการเชื่อมต่อในทางนโยบายไปในระดับพื้นที่มากขึ้น ขณะเดียวกัน ประชาชนในพื้นที่ก็สามารถสะท้อนความต้องการ ไปยัง สส.ในพื้นที่ เพื่อให้ผลักดันเป็นนโยบายระดับชาติได้
2.โควตาคณะรัฐมนตรี จากพรรคร่วมรัฐบาล คาดว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมมากนัก แต่อาจมีการดึงพรรคการเมืองบางกลุ่มเข้ามาร่วมรัฐบาล เช่น สมาชิกไทยสร้างไทย ที่เป็นฝ่ายค้าน แต่ยกมือโหวตให้กับแพทองธาร เป็นนายกฯ ในรอบนี้ ขณะเดียวกันก็มีแนวโน้มว่า สส.บางส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ จะเข้ามาร่วมมือกับรัฐบาลโดยแกนนำของพรรคเพื่อไทย
อีกส่วนที่น่าสนใจคือ โควตา ของพรรคพลังประชารัฐ มีแนวโน้มว่าจะมีสมาชิกบางส่วนถูกตัดออกไปจากโควตานี้ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลเดิม อาจมีการปรับเปลี่ยนกระทรวงกันดูแลตามความเหมาะสม และการพูดคุยกัน ซึ่งยังไม่น่าเป็นห่วงเท่าไร
...
จับกระแส “สุทิน” และตระกูล “วงษ์สุวรรณ” ถูกปรับออกจาก ครม.
ตอนนี้มีกระแสข่าวเรื่องการปรับออก “สุทิน คลังแสง” ที่รัฐบาลชุดเดิมนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประเด็นนี้ “รศ.ยุทธพร” มองว่า ที่ผ่านมาก็มีกระแสข่าวเรื่องเปลี่ยนตัวคนที่จะดูและกลาโหมมาตลอด แต่คุณสุทิน ก็ผ่านมาได้ตลอด ดังนั้นรอบนี้ก็ยังต้องลุ้นว่า จะมีโอกาสได้ทำงานต่อหรือไม่ แต่ที่ผ่านมาคุณสุทิน ก็สามารถทำงานกับฝ่ายความมั่นคงได้
ในส่วนของ ตระกูล “วงษ์สุวรรณ” ที่เดิม “พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” นั่งรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีโอกาสสูงถูกปรับออก เพราะขณะนี้ภายในพรรคพลังประชารัฐ มีกระแส 1 พรรค 2 ระบบอยู่ภายใน จึงมีโอกาสที่กลุ่มของคุณธรรมนัส พรหมเผ่า จะได้รับตอบสนองจากขั้วรัฐบาลมากกว่า
...
ขณะนี้รัฐบาลเพื่อไทย มีคะแนนเสียงจาก สส.อยู่ที่ 314 เสียง ถ้ารวมกับ “งูเห่า” และพรรคเล็กที่โหวตนายกฯ ให้คุณแพทองธาร จะมีทั้งหมด 319 เสียง จึงไม่น่ามีปัญหา ถ้าตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐบางส่วน ไม่สนับสนุนการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งมีโอกาสสูงที่ “วงษ์สุวรรณ” จะถูกเช็กบิลทางการเมือง
ต้องจับตารัฐมนตรีชุดใหม่ที่จะเข้ามาดูเรื่องเศรษฐกิจ ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องจับตา แต่ถ้าเปรียบเทียบกันระหว่างรัฐบาลคุณแพทองธาร มีความน่าสนใจ แตกต่างจากคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของคุณเศรษฐา เพราะเป็นการนำของคนรุ่นใหม่ ซึ่งแนวโน้มทางการเมืองทั่วโลกจะเป็นไปตามกระแสนี้ และเป็นภาพลักษณ์ที่ดีในระดับโลก ในการสนับสนุนคนรุ่นใหม่
ส่วนความกังวลเรื่องประสบการณ์ทำงานการเมืองของคุณแพทองธาร เป็นเรื่องที่ไม่น่ากังวล เพราะการเมืองในระบบสภา จะเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน การทำงานเป็นทีมจึงเป็นประเด็นสำคัญ ซึ่งรวมไปถึงคณะทำงานที่ปรึกษา และคณะรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะการทำงานของรัฐบาลที่เหลือเวลาอีก 3 ปี ที่เป็นเวลาที่สั้นมาก ดังนั้น คุณแพทองธาร และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จะต้องเร่งทำงานเพื่อพิสูจน์ตัวเอง เพราะไม่เช่นนั้น มีโอกาสสูงที่การเลือกตั้งครั้งหน้า จะพ่ายแพ้ต่อพรรคฝ่ายค้านปัจจุบัน.