ผู้ประกอบการไทยอ่วมหนัก จีนกินรวบ "ตัดราคา-ขนส่งศูนย์เหรียญ" แฉเล่ห์รถน้ำหนักเกิน ไม่ติดจีพีเอส จ้างนอมินีไทยถือหุ้นลอย "สหพันธ์ขนส่ง" ชี้รัฐเอื้อประโยชน์ทุนจีน ลอยแพผู้ประกอบการไทย แบกต้นทุน คาดกระทบแรงงานในระบบ 4-5 ล้านคน หากไม่เร่งแก้ไข

กรณีสินค้าจีนทะลักเข้าไทย ส่งผลกระทบต่อระบบการขนส่งสินค้าที่มีการออกมาแฉนอมินีจีนทำ "ขนส่งศูนย์เหรียญ" ซึ่งกระทบต่อผู้ประกอบการและแรงงานไทย "อภิชาติ ไพรรุ่งเรือง" ประธานสหพันธ์ขนส่งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทขนส่งจีนมีการบุกเข้ามาทำธุรกิจในไทยมากขึ้น โดยวางเครือข่ายร่วมกับนอมินีจากไทยและลาว โดยภาครัฐไทยที่ผ่านมามีการเซ็นสัญญาร่วมมือในการเดินรถในระบบโลจิสติกส์ ซึ่งมีเงื่อนไขให้รถที่ขนส่งสินค้าจากจีนเข้ามาวันละ 500 คัน

ด้วยเงื่อนไขนี้ทำให้รถขนส่งสินค้าจีนวิ่งเข้ามาไทยได้วันละ 500 คัน แต่รถที่วิ่งเข้ามามีขนาดใหญ่กว่ามาตราฐานที่ไทยกำหนด และรถไม่มีการติดจีพีเอส ประกอบกับรถบรรทุกมีน้ำหนักเกินมีผลต่อถนนที่รถวิ่งผ่าน เสี่ยงชำรุดเสียหาย กรณีนี้เราพยายามบอกให้กระทรวงคมนาคมเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น

...

"รถขนส่งจีนที่เข้ามาใช้รถเทรลเลอร์ พ่วงตู้คอนเทนเนอร์ วิ่งออกมาจากจีนเข้าลาวและวิ่งเข้ามาไทย โดยมีศูนย์พักสินค้า เนื่องจากปัจจุบันจีนมีการผลิตสินค้าจำนวนมาก มีแพลตฟอร์มออนไลน์ที่คนไทยนิยมสั่งซื้อสินค้าจากจีนเพราะมีราคาถูก ทำให้รถขนส่งพวกนี้เข้ามาในไทยมากขึ้น มีต้นทุนการขนส่งถูกกว่าผู้ประกอบการไทย เลยทำให้เวลาเราสั่งสินค้าจากจีน จะถูกส่งมาไทยไม่เกิน 1 อาทิตย์"

ขบวนการขนส่งจีน ระยะแรกจะใช้นอมินีคนไทย โดยสร้างความร่วมมือให้คนไทยให้ถือหุ้น 51% คนจีนถือหุ้น 49% แล้วทำงานร่วมกันไปสักพัก หากธุรกิจไปได้ดี คนจีนจะไปจ้างคนไทยอีกรายให้เป็นนอมินีเพียงชื่อ แล้วค่อยๆ ทิ้งบริษัทคนไทยรายแรกที่มีความร่วมมือ เลยเป็นแผนการทำธุรกิจ ที่คนจีนกะจะครอบครองธุรกิจในไทยแบบเบ็ดเสร็จ

น่าสนใจว่าบริษัทขนส่งจีนสามารถวิ่งรถเข้าถึงในประเทศไทย แต่บริษัทขนส่งไทยที่ขนส่งทุเรียนไปจีน ไปได้แค่ท่านาแล้ง ประเทศลาว ที่เป็นรอยต่อกับจีน สิ่งนี้ทำให้บริษัทขนส่งไทยเสียเปรียบขนส่งจีนมาก โดยเฉพาะตอนนี้รถขนส่งจากจีนที่ขาเข้ามาไทยมีการนำสินค้าจากจีนเข้ามา พอกลับก็ขนส่งทุเรียนจากไทยไปจีน ทำให้บริษัทจีนมีต้นทุนที่ถูกกว่า เมื่อเทียบกับผู้ประกอบการไทย ที่ขากลับตีรถเปล่ากลับมา

“ต้องยอมรับว่าบริษัทขนส่งจีนมีต้นทุนที่ดีกว่า มีโนฮาวทันสมัย บริษัทขนส่งไทยแทบสู้ไม่ได้ จึงอยากให้ต่อไปไม่ว่ารัฐบาลไปเซ็นอนุสัญญาต่างๆ กับจีน ถ้าเป็นสัญญาเกี่ยวกับธุรกิจของคนไทย อยากให้รัฐบาลเรียกผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องมาหารือก่อน เพื่อวางแผน ประเมินความได้เปรียบเสียเปรียบที่จะเกิดขึ้น”

อีกประเด็นสำคัญคือ บริษัทขนส่งจีนมีการตัดราคาที่ถูกกว่า เช่น เดิมขนส่งไทยรับงานไปถึงลาว ราคา 20,000 บาท แต่บริษัทขนส่งจีนตัดราคาเหลือ 15,000 บาท

ตอนนี้ผู้ประกอบการไทยปล่อยให้ยึดรถไปแล้วหลายพันคัน เนื่องจากต้นทุนน้ำมันที่สูง ส่วนบริษัทขนส่งจีนก็รุกเข้ามาทำตลาดในไทยด้วยการตัดราคา ทำให้มีผลกระทบเป็นลูกโซ่ ซึ่งคาดว่ามีแรงงานในระบบขนส่งไทยประมาณ 4-5 ล้านคน จะได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างในอนาคต

หากประเมินผลกระทบต่อแรงงานไทย เฉพาะคนขับรถต่อรถ 1 คัน มีแรงงานเฉลี่ย 3 คน ตอนนี้มีรถที่อยู่ในระบบขนส่งไทยกว่า 1.5 ล้านคัน ซึ่งแนวทางแก้ไขอยากให้ภาครัฐเข้ามาดูแลควบคุมบริษัทขนส่งที่เป็นจีนเทาให้มากขึ้น ขณะที่ประชาชนทั่วไปก็อยากให้มีการซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ เพราะหลายคนหวังซื้อแต่ของถูกจากจีน ซึ่งมีการส่งผ่านขนส่งศูนย์เหรียญ

...

แม้ตอนนี้อาจเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนส่งไทยล่าช้า แต่อยากให้ช่วยบรรเทาเรื่องต้นทุน เพื่อประคองแรงงานไทยที่อยู่ในระบบให้มีงานทำต่อไป.