เปิดหลักฐานสำคัญ ทวงคืน "พระพุทธสิงห์" อายุกว่า 100 ปี ถูกขโมยขายต่างประเทศเมื่อ 50 ปีก่อน จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์เอกชน ประเทศเบลเยียม เผยรูปถ่ายวัดราชบุรณะ จ.ชุมพร ชี้ชัดของแท้ ตอนนี้สถานกงสุลไทยในเบลเยียม อยู่ในขั้นตอนเจรจาว่า "ขอคืน" หรือ "ซื้อคืน" ห่วงถ้าช้าเจ้าของเปลี่ยนมือติดตามยาก

คนไทยพบพระพุทธรูปโบราณ "พระพุทธสิงห์" ที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 3 มอบให้แก่วัดราชบุรณะ หรือวัดนอก จ.ชุมพร โดยพระพุทธรูปดังกล่าว ถูกคนร้ายขโมยไปจากวัดนานกว่า 50 ปี ปัจจุบันพบปรากฏอยู่ในพิพิธภัณฑ์เอกชน "แอนต์เวิร์ป Antwerpen" ประเทศเบลเยียม ที่ผ่านมาทางเจ้าอาวาส และประชาชนในพื้นที่พยายามเรียกร้องให้ดำเนินการเจรจาเพื่อขอคืน แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจน จึงเป็นห่วงว่าพระพุทธรูปโบราณ อายุกว่า 100 ปี จะไม่ได้กลับคืนมายังประเทศไทย

ทีมข่าวฯ ได้ทำการตรวจสอบความคืบหน้า และได้รับข้อมูลจาก "คณะทวงคืนโบราณวัตถุ จากต่างประเทศ" ให้ข้อมูลว่า เมื่อ 50 ปีก่อน มีเหตุโจรกรรมพระพุทธสิงห์ พระโบราณล้ำค่าของ วัดราชบุรณะ จ.ชุมพร ขณะที่พระในวัดไปรับกิจนิมนต์ภายนอก โดยพระพุทธสิงห์ เป็นพระโบราณมีอายุกว่า 100 ปี ทางวัดได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 3

...

เมื่อ 50 ปีก่อน เป็นยุคที่การค้าโบราณวัตถุในไทยเฟื่องฟู ถ้ายึดตามหลักฐานของ "โฮมแลนด์ซิเคียวริตี้ฯ" หน่วยงานที่ติดตามการค้าวัตถุโบราณ ยืนยันได้ว่าการลักลอบนำวัตถุโบราณออกจากไทยยุคนั้นมีหลายวิธี แต่วิธีที่นิยมที่สุดคือ การให้เงินสินบนกับเจ้าหน้าที่รัฐ หรือลักลอบโดยการนำสิ่งของสมัยใหม่ พอกไว้กับโบราณวัตถุที่ซ่อนอยู่ภายใน เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ และแอบอ้างสำแดงว่าเป็นของที่ทำขึ้นใหม่ เมื่อไปถึงประเทศปลายทาง ก็ทำการกะเทาะเนื้อด้านนอกออก

กรณีของ พระพุทธสิงห์ โบราณวัตถุที่ถูกขโมยไป แล้วมีคนไทยไปเห็นในพิพิธภัณฑ์เอกชน "แอนต์เวิร์ป Antwerpen" ประเทศเบลเยียม เมื่อตรวจสอบเอกสารของกรมศุลกากร ไม่พบหลักฐานการนำออก คาดว่าคนร้ายใช้การปลอมแปลงเอกสาร เพื่อลักลอบนำออกจากไทย

พระพุทธสิงห์ เป็นพระพุทธรูปโบราณที่หาได้ยาก ศิลปะมีความโดดเด่น เนื่องจาก พระพุทธรูปปางมารวิชัย จะมีพุทธลักษณะที่ปลายนิ้วชี้ลงไปยังพื้นหรือธรณี เพื่อแสดงเป็นสัญลักษณ์ถึงการชนะมาร ซึ่งมีความนิยมในการทำจำนวนมากในยุคนั้น แต่พระพุทธสิงห์ มีพุทธลักษณะเด่น ด้วยการนั่งขัดสมาธิ โดยนิ้วไม่ได้ชี้ลงพื้น ซึ่งเป็นศิลปะที่มีให้เห็นน้อย เหลือไม่กี่ชิ้นในไทย จึงเป็นพระพุทธรูปสำคัญ ที่เป็นอีกประวัติศาสตร์ศิลปะของไทย ที่ควรเอาใจใส่ในการติดตามทวงคืน


แนวทางเจรจาทวงคืน พระพุทธสิงห์ สมบัติล้ำค่าของไทย

กรณีที่มีคำถามถึงการพิสูจน์ว่า พระพุทธสิงห์ ที่ปรากฏในพิพิธภัณฑ์เอกชน "แอนต์เวิร์ป Antwerpen" ประเทศเบลเยียม เป็นของจริงหรือไม่ "ทีมทวงคืนโบราณวัตถุ จากต่างประเทศ" ยืนยันว่าเป็นของจริง มีการพิจารณาในที่ประชุมแล้ว ว่าเป็นพระพุทธรูปสมัย ร.3 ที่ถูกขโมยไป

หลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่า เป็นพระพุทธสิงห์ คือ รูปถ่ายเดิมที่ทางวัดถ่ายไว้ ขั้นตอนต่อไปต้องมีการดำเนินเรื่องเพื่อตรวจสอบ และขอดูอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่สำคัญทางกงสุลไทยในเบลเยียม ได้เข้าไปดู และเริ่มเจรจากับผู้ครอบครอง เห็นได้ชัดว่าเป็นพระพุทธสิงห์ ที่ถูกขโมยไปจากไทยเมื่อ 50 ปีก่อน

...

ขั้นตอนการทวงคืน พระพุทธสิงห์ ยังอยู่ในขั้นตอนเจรจา เพื่อระงับการประมูล เพราะถ้าโบราณวัตถุถูกประมูลไป แล้วเปลี่ยนมือไปอยู่กับเอกชน จะติดตามยาก เนื่องจากโดยมารยาทของบริษัทประมูล จะไม่เปิดเผยชื่อเอกชนที่ประมูลได้ ซึ่งเหมือนกับ พระพุทธรูปจากวัดทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย พอเปลี่ยนมือไปอยู่กับเอกชน เลยทำให้ติดตามยาก

โชคดีที่ตอนนี้ กงสุลไทยในเบลเยียม ได้เจรจากับผู้ครอบครอง จึงได้ระงับการประมูลโบราณวัตถุชิ้นนี้ ซึ่งต้องรอดูท่าทีว่าจะเจรจาเพื่อขอนำกลับมาอย่างไรต่อ

เพราะการทวงคืนตอนนี้มีหลายแนวทาง เช่น อาจแจ้งกับตำรวจสากลไว้ก่อน เพื่อสืบหาหลักฐานมายืนยันว่าเป็นพระพุทธรูปที่หายไปจากประเทศไทย หรืออีกแนวทางคือ การนำเงินไปซื้อคืน ซึ่งเป็นแนวทางที่รักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ.