ตำรวจตัดตำรวจ อ่านเกมชิงอำนาจใน สตช. เบื้องลึก ดีลลับ "บิ๊กต่อ" เกมชิงเก้าอี้ ผบ.ตร. บิ๊กโจ๊ก - บิ๊กต่าย รวมถึงการจัดโผนายพล กับ 5 วันที่ดุเดือด 

หลังจากนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน เซ็นย้าย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เข้ากรุ ไป 3 เดือน วันนี้ เขากลับมาแล้ว แต่...ช่วงนี้ยังดูเงียบๆ แม้แต่วันนี้ (24 มิ.ย.) ก็ยังไม่เข้าประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2567 โดยมอบหมายให้ บิ๊กต่าย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เข้าประชุมแทน... ขณะที่ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ในวันนี้ ก็เดินเกมทันที ด้วยการเดินหน้าฟ้องนายกฯ และ 3 ตำรวจ ต. คือ บิ๊กต่อ บิ๊กต่าย (ปมออกคำสั่ง ออกจากราชการไว้ก่อน) และ บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (กรณีหมิ่นประมาท) 

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ “บิ๊กต่อ” จะได้คืนรัง สตช. ก็มีข่าวลือมากมายถึง “ดีลลับ” ว่าจะมีการคืนตำแหน่งให้ แต่... และเจ้าตัวจะลาออกก่อนเกษียณ ซึ่งเรื่องนี้จริงหรือมั่ว ชัวร์หรือไม่ คงต้องรอกาลเวลาพิสูจน์ 

ผู้การวิสุทธิ์ วานิชบุตร อดีตรองผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี กล่าวถึงกระแสข่าวลือ “ดีลลับ” การส่งบิ๊กต่อกลับมานั้น อาจจะเป็นเรื่องที่คุยกับผู้มีอำนาจตัวจริงของรัฐบาล ว่าขอให้ย้ายจากตำแหน่งก่อน เพราะตอนนั้น สถานการณ์รุนแรง จากนั้น เมื่อครบดีล 3 เดือน ก็จำเป็นต้องส่งกลับมา... 

“นี่แหละ...เหตุผลอะไรให้กลับมา ในเมื่อตัวเองยังมีสภาพมอมแมมอยู่”

...

ในขณะที่ การกลับมาของ “บิ๊กต่อ” นั้น แตกต่างจาก “บิ๊กโจ๊ก” เพราะตอนนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกส่งกลับมาก่อน แต่กลับมาขึ้นเขียง โดนตั้งกรรมการสอบ และ ให้ออกจากราชการไว้ก่อน 

เมื่อถามว่า การกลับมาของ “บิ๊กต่อ” จะส่งผลอย่างไรได้บ้าง ผู้การวิสุทธิ์ ตั้งข้อสังเกตว่า ตอนนี้ “บิ๊กต่อ” มีคดีที่ถูกร้องไปที่ ป.ป.ช. รวมถึงการแจ้งความที่ สน.เตาปูน 

คำถามคือ หากคุณเป็น ผู้กำกับ หรือ พนักงานสอบสวน สน.เตาปูน คุณจะกล้าสอบสวนกับ “บิ๊กต่อ” หรือไม่... 

“สมมติว่า กูเป็น ผบ.ตร. มึงกล้าสอบกูไหม..” ผู้การวิสุทธิ์ ตั้งคำถามอย่างดุดัน!

ผู้การวิสุทธิ์ เชื่อว่า การย้ายกลับมา นั้น มันจะส่งผลเรื่องความสามัคคี ลูกน้องโจ๊ก ทีมงานโจ๊ก ไม่ขวัญหนีดีฝ่อ หรือ แบบนี้จะตั้งใจทำงานหรือไม่ 3 เดือนที่เหลือนี้ต้องระวัง ไม่งั้นโดนฟัน..? ระส่ำระสายไหม....

พูดกันตามตรง ทั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ถือว่าข้าราชการที่ “สุ่มเสี่ยง” ในเรื่องของ “มลทินมัวหมอง” ทั้งคู่ (ตำรวจตัดตำรวจ ให้ออกจากราชการ ทาง 2 แพร่ง “บิ๊กโจ๊ก” กับปมมลทินมัวหมอง)

แต่การเอากลับมาจะเกิดผลดีอะไร กลับมาให้ทะเลาะกันหรือ แก้แค้นกันหรือไม่...

เรื่องนี้จะมีทางลงอย่างไร....เรื่องนี้ในข่าวลือ คือ การดีลว่า “บิ๊กต่อ“ อาจจะลาออกก่อน และให้ “บิ๊กต่าย” รักษาราชการต่อไป 

ผู้การวิสุทธิ์ บอกว่า ทางลงนี้ ดูเหมือนจะสวย แต่ ทางบิ๊กโจ๊ก ก็เหมือนจะดิ้นอีกเฮือก เมื่อกฤษฎีกา มีมติเอกฉันท์ ว่า การกระทำของ “บิ๊กต่าย” คือ ให้ “บิ๊กโจ๊ก” ออกจากราชการไว้ก่อน เป็นการทำผิดขั้นตอน.. 

สมมติคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมเอาความเห็นของกฤษฎีกา มาพิจารณา ประกอบกับสิ่งที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ร้องไว้ และตอบมาว่า “ไม่ผิด”

หากคำตอบเป็นแบบนี้ “บิ๊กโจ๊ก” จะกลับมาเป็น รอง ผบ.ตร. อาวุโสสูงสุด... ตราบใดคดีความที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษา ก็ยังถือว่าผู้นั้นเป็นผู้บริสุทธิ์  

แต่หาก “บิ๊กต่อ” เป็น ผบ.ตร.อยู่ การแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จะเป็นคนเสนอรายชื่อ ไปยัง ก.ต.ช. (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ) คำถามคือ พล.ต.ต่อศักดิ์ จะเสนอชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือไม่? 

...

ผู้การวิสุทธิ์ ตั้งคำถาม... 

และหาก “บิ๊กโจ๊ก” รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ฟ้องร้องกันอีก อาจฟ้องศาลปกครอง ร้องคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม ว่าเหตุใด อาวุโสสูงสุด ไม่ได้รับการเสนอชื่อเป็น ผบ.ตร. ...

“เรื่องนี้วุ่นวายไหม...หากต่อ ลาออก เดือนสิงหาจริง โจ๊ก ยังไม่ได้กลับ ต่าย รักษาการ การเสนอชื่อ ผบ.ตร. ก็จะเป็นต่าย แต่หาก โจ๊ก ได้กลับ และมีแนวโน้มว่าจะได้กลับ ตามกฤษฎีกา ชี้ หากโจ๊กกลับ โจ๊ก จะอาวุโส กว่าต่าย (ตาม พ.ร.บ.ตำรวจ) เรื่องนี้จะกลายเป็น ความขัดแย้งระหว่าง ต่าย กับ โจ๊ก อีก”

ผลประโยชน์ อำนาจ เป็นสิ่งหอมหวาน ใครๆ ก็ต่างต้องการ โดยที่ “บิ๊กต่อ” ลาออกแบบสวยๆ ขณะที่ ทาง “บิ๊กโจ๊ก” ก็เป็นตำรวจไม่ธรรมดา กว่าจะเกษียณก็ปี 74  

ผู้การวิสุทธิ์ ทิ้งท้ายว่า ความจริงเรื่องนี้จะไม่มีปัญหาเลย หากมีการแต่งตั้ง พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้น และ หากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ซื่อสัตย์ สุจริต ไม่มีเรื่องด่างพร้อย ก็จะไม่มีปัญหา 

...

ตุลา เดือด 5 วัน ชี้ชะตา โผนายพล  

อีกด้านหนึ่ง แหล่งข่าวระดับสูง อดีตตำรวจที่เชี่ยวชาญกฎหมาย มองเรื่องนี้ว่า ทุกคนต่างยึดมั่นถือมั่น “บิ๊กต่าย” ให้ “บิ๊กโจ๊ก” ออก เพราะฝ่ายกฎหมายทาง ตร. แนะนำมาอย่างนั้น เป็นสิทธิให้ออกได้ 

สิ่งที่เป็นข้อสังเกตเรื่องความผิดปกติ คือ การเอากลับมาใน ตร. และ มีการสั่งตั้งกรรมการ และ ให้ออกจากราชการ เรื่องนี้ มันดูเป็นพิรุธ เพราะแม้แต่กรรมการ ยังไม่รู้เรื่องเลย 

เพราะตามขั้นตอน ต้องมีการแจ้งคำสั่งก่อนว่า นาย 1, นาย 2, นาย 3 ต้องเป็นกรรมการ จากนั้นจะมีการประชุม กำหนดประเด็น รองโจ๊ก ต้องรู้ก่อน 

และการให้เซ็นออก ตามมาตรา 131 หากผิดวินัยร้ายแรง สามารถทำได้ เพราะเคยทำแบบนี้มา 70-80 นาย แล้ว นี่คือกฎหมายเก่า ไม่ใช่กฎหมายใหม่ 

กฎหมายใหม่ ใช้ได้ หากความผิดชัดเจน เช่น ฆ่าคนตาย ข่มขืนกระทำชำเราเด็ก ความผิดชัดเจน ซึ่ง ประเด็นเรื่อง “บิ๊กโจ๊ก” โดนข้อหา “สมคบกันฟอกเงิน” อำนาจสอบสวนอยู่ที่ ตำรวจ แต่ฝ่าย “บิ๊กโจ๊ก” บอกว่า อำนาจอยู่ที่ ป.ป.ช. เพราะวงเงินเกิน 400 ล้าน กำลังสู้ในประเด็นอำนาจ แต่ที่ รองโจ๊ก โดนหมายจับ เพราะไม่รับหมายศาล ศาลจึงออกหมายจับ ซึ่งความจริง ความผิดของ “บิ๊กโจ๊ก” ยังไม่ได้ปรากฏ

เรื่องนี้ มองว่า อาจมีความต้องการตัด “บิ๊กโจ๊ก” ออกจากเกม... 

...

ล่าสุด เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ “บิ๊กต่าย” เหมือนจะไม่มีทางออก ก็ต้องสู้กันต่อ ก.ตร. กับ อนุฯ ก.ตร. ไม่มีอำนาจในการวิเคราะห์ คำสั่งว่า การให้ “บิ๊กโจ๊ก” ออกจากราชการไว้ก่อน ผิดกฎหมายหรือไม่ 

ความจริง เรื่องนี้ต้องเข้าไปที่ อนุฯ ฝ่ายกฎหมาย ที่ท่าน พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ เป็นประธาน เพื่อให้วิเคราะห์ว่า การกระทำแบบนี้ผิด หรือถูก แต่นี่ ไปเข้า อนุฯ วินัย โดย พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ซึ่งก็จะบอกว่า การให้ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น โดยชอบแล้ว ซึ่งคำชี้แจงดังกล่าวมาจากฝ่ายกฎหมายของตำรวจ ซึ่งเป็นที่มาของ ข้อเสนอ “บิ๊กต่าย” 

หากเป็น ก.ตร. ก็อาจจะไม่ลงความเห็น เพราะอาจจะรอให้ คณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมพิจารณา ชี้ก่อน เพราะหากเป็น ก.ตร. มาชี้ถูกผิด ก็จะโดนทั้งสองฝั่ง 

หากชี้ว่า คำสั่งของ “บิ๊กต่าย” ผิด ด้าน “บิ๊กโจ๊ก” จะเดินลุยเรื่องถอนคำสั่งเลย ซึ่งเรื่องนี้ความเป็นจริง เป็นอำนาจนายกฯ กับ ผบ.ตร. “ต่อศักดิ์” ที่จะถอนคำสั่ง “บิ๊กต่าย” เพียงแต่ นายกฯ ไม่กล้า โยนให้ ก.ตร. จากนั้น ก.ตร. ก็ไม่กล้าตัดสินใจ โยนให้กับ อนุฯ ก.ตร. 

“บิ๊กต่อ” กลับมา ก็ยังไม่กล้าตัดสินใจ บอกให้รอ ก.ตร. เรียกว่า โยนกันไปมา หากทางพิทักษ์คุณธรรม มองว่า คำสั่งชอบแล้ว “บิ๊กโจ๊ก” อาจเดินหน้าฟ้องศาลปกครอง 

...เรื่องนี้ใช้เวลา อาจจะตัด “บิ๊กโจ๊ก” ออกจากวงจร แต่ด้าน “บิ๊กโจ๊ก” ก็สามารถร้องขอให้คุ้มครองชั่วคราวได้...

แต่ มันก็อาจจะเกินเวลา การเลือก ผบ.ตร. ใหม่... เพราะกรอบเวลาของคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม 120 วัน ซึ่งเวลานี้เพิ่งจะผ่านมาแค่ 40 วัน

เรื่องแบบนี้ก็ต้องถาม คณะกรรมการคุณธรรมว่า เรื่องแค่นี้ ทำไมใช้เวลาในการพิจารณานาน...

การกลับมาของ “บิ๊กต่อ” ตอนนี้ก็มีอำนาจเต็ม แต่หมดสิทธิในการแต่งตั้งนายพล เพราะ โผนายพล จะครบหลักการในวันที่ 5 ตุลาคม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จะเกษียณแล้ว และสุดท้ายจะชิงดำกัน 5 วัน 1-5 ตุลาคม หากบิ๊กโจ๊ก กลับมาได้บิ๊กโจ๊ก จะรักษาราชการแทน ผบ.ตร. เป็นคนเสนอบัญชีแต่งตั้งนายพล หากกลับมาไม่ได้ “บิ๊กต่าย” ก็จะเป็นคนทำ แต่...นายกฯ จะตั้งวันที่ 1 ก็ทำไม่ได้ เพราะต้องใช้เวลา 5 วัน นี่แหละ เป็นที่มาของการต่อสู้กัน... 

อ่านบทความที่น่าสนใจ