การกระทำสิ้นคิด จ้างเด็ก 13 กระดกเหล้าในงานบวช ช็อก เข้าไอซียู ล่าสุดฟื้นแล้ว ด้านหมอแท้จริงเตือน อันตราย พิษแอลกอฮอล์ ทำให้ร่างกายหยุดหายใจ ถึงตาย อย่างอุทาหรณ์คดี “ลัลลาเบล” 

เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น สำหรับเหตุ การจ้างเด็กหญิง-ชายวัย 13 ปี กินเหล้าคนละครึ่งขวด แบบเพียวๆ ด้วยเงิน 1 พันบาท ในงานบวชแห่งหนึ่ง จ.นครราชสีมา โดยมีการถ่ายคลิปการดื่มอย่างสนุกสนาน แต่แล้ว จู่ๆ เด็กหญิงวัย 13 ที่กระดกเหล้าไปนั้น เกิดอาการช็อก หมดสติ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา และมีรายงานว่า ตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู 

ขณะที่ ญาติ คือ นางอุ้ย วัย 72 ปี ถึงกับร่ำไห้ เมื่อได้รู้ข่าว และได้มีการร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.หนองบุญมาก เพื่อเอาผิดผู้ว่าจ้าง พร้อมนำคลิปเหตุการณ์มามอบเป็นหลักฐาน 

เบื้องต้น ทางตำรวจ ระบุ เข้าข่ายการบังคับขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด, ใช้จ้างวานให้เด็กทำงาน หรือกระทำการอันอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย รวมถึงจำหน่าย แลกเปลี่ยน หรือให้สุรา หรือบุหรี่แก่เด็ก มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หากเด็กอาการสาหัส อาจมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พัน แต่หากเด็กเสียชีวิต จะมีโทษหนักถึงจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 2 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

...

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ มองว่า แค่ยุยงส่งเสริมให้เด็กทำอะไรแบบนี้ก็ถือว่าผิดแล้ว แต่นี่ถึงขั้น “ว่าจ้าง” เด็ก 

เรื่องนี้ไม่ได้ผิดตาม พ.ร.บ.แอลกอฮอล์ เพราะเป็นเรื่องของการค้า แต่กรณีแบบนี้ไม่ใช่ แต่อาจจะผิดเข้าข่ายใน พ.ร.บ.เด็กและเยาวชน มาตรา 26 คือ 

(3) เข้าข่ายบังคับขู่เข็ญฯ ให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด   

(6) ใช้ จ้างวานเด็ก ให้ทำงาน หรือกระทำอันอาจเป็นอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโต หรือขัดขวางต่อพัฒนาการเด็ก 

(10) จำหน่าย แลกเปลี่ยน หรือให้สุราหรือบุหรี่แก่เด็ก เว้นแต่การปฏิบัติทางการแพทย์

“เรื่องเหล่านี้มีโทษทั้งปรับ และจำคุก ผู้ปกครองของเด็ก ควรจะไปแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับผู้กระทำ”

กระดกเหล้าปริมาณมาก ความเสี่ยงถึงตาย!

ในมุมทางการแพทย์การกินเหล้า หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปริมาณมากในครั้งเดียวนั้น นพ.แท้จริง อธิบายว่า ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ การกินเหล้าแบบกระดกทีเดียวมากๆ มีความเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต 

หากเรายังจำเรื่อง “ลัลลาเบล” ได้ ที่มีการจ้างพริตตี้มากินแล้ว และถูกบังคับให้กินจำนวนมาก จนเสียชีวิต 

หมอแท้จริง อธิบาย ถึงสาเหตุการเสียชีวิตนั้น มาจากการร่างกายของคนเราไม่สามารถขับแอลกอฮอล์ออกได้ทัน เมื่อร่างกายสะสมแอลกอฮอล์จำนวนมาก ฤทธิ์ของเครื่องดื่มมึนเมาจะไปกดการหายใจ ทำให้ร่างกายไม่หายใจ และเป็นที่มาของอาการช็อก หมดสติ 

จากนั้น เมื่อร่างกายหมดสติ จะปิดการทำงานของหายใจ ไม่มีอากาศไปเลี้ยงสมองเพียงพอ ร้ายแรงที่สุด คือ การเสียชีวิต หากไม่เสียชีวิต ก็มีความเสี่ยงถึงพิการ เพราะสมองได้รับความเสียหาย ส่วนจะหนักขนาดไหน ขึ้นอยู่กับขาดนานแค่ไหน และการช่วยเหลือในการปฐมพยาบาลได้ทันท่วงทีหรือไม่ 

“ฉะนั้น ยิ่งเป็นเด็ก ถือว่า ต้องระวังมากกว่าผู้ใหญ่ โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยกินเลย เพราะขนาดคนที่เป็นผู้ใหญ่ หรือคนที่เคยกินประจำ ก็ยังมีความเสี่ยงถึงตาย ซึ่งคดี “ลัลลาเบล” นั้นก็เป็นการจ้าง นำแบงก์พันมาวาง ทีละแก้ว เรื่องแบบนี้ถือว่าแย่”

...

หมอแท้จริง ย้ำว่า การกินครั้งเดียวมากๆ นั้น อันตรายกว่ากินทีละเล็ก ทีละน้อย ทั้งนี้ ร่างกายแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน ความต้านทานแตกต่างกัน บางคนมีโรคประจำตัว หรือตอนที่กินเหล้านั้น ท้องว่างหรือไม่ ทุกอย่างล้วนมีผลทั้งสิ้น 

“เรื่องนี้มันมาจากเหล้า เมื่อเหล้าเข้าปาก มันทำให้ขาดความยั้งคิด ซึ่งมันอาจทำให้เกิดโศกนาฏกรรมตามมา ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเลย...” 

คดีนี้ ทางผู้ว่าจ้างได้เดินทางมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ พร้อมอ้างว่า ไม่ได้บังคับกินครึ่งขวด แต่อย่างใด ส่วนอาการล่าสุดของเด็กหญิง มีรายงานว่า เริ่มรู้สึกตัวแล้ว แต่แพทย์ยังคงดูแลใกล้ชิด 

อ่านบทความที่น่าสนใจ