ตายแล้วฟื้น ชายวัย 72 เพื่อนบ้านได้กลิ่นเหม็นคลุ้ง หาชีพจรไม่เจอ แจ้งกู้ภัยมารับศพคาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ผวาอ้าปากบอกยังไม่ตาย หมอชี้โรคร้ายต้นเหตุ ชีพจรเต้นเบา หายใจแผ่วเหมือนคนตาย

กลายเป็นปริศนา ตายแล้วฟื้น เมื่อชาวบ้าน บ้านคำบอน ต.นาคำ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี แจ้งกู้ภัยให้รับศพชายวัย 72 ปี ที่คาดว่าเสียชีวิตในบ้านพักมาแล้ว 3 วัน เพราะได้กลิ่นเหม็นคลุ้ง บนพื้นที่มีเลือด และอุจจาระ เปลือยกายอยู่ในบ้าน เพื่อนบ้านเล่าว่า ไม่เห็นผู้ตายมา 3 วัน พยายามจับชีพจร กลับพบว่าไม่เต้นแล้ว เลยแจ้งกู้ภัยให้มาเก็บศพ แต่เมื่อมาถึง ได้เตรียมผ้าขาวห่อร่าง ชายคนดังกล่าวกลับอ้าปาก และบอกว่ายังไม่ตาย กลายเป็นเรื่องราวชวนสยองถึงการตายแล้วฟื้น

รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) วิเคราะห์ว่า กรณีชายวัย 72 ปมสำคัญของเรื่องนี้เกิดขึ้นจาก เพื่อนบ้านได้กลิ่นเหม็นเน่ามาจากในบ้านคุณลุง พบว่าแกนอนเปลือยกาย อุจจาระราด จึงตีความว่าตายแล้ว เลยตามผู้ที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งคนที่มาตรวจ ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ มีการลงความเห็นว่าตาย

...

หากอธิบายทางการแพทย์ เป็นภาวะมาจากการช็อกหมดสติ ความดันโลหิตต่ำ บางคนมาจากน้ำตาลต่ำ เช่น ผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ทำให้ผู้ป่วยช็อก นอนหมดสติ มีความดันโลหิตต่ำ แต่หัวใจเต้น และชีพจรยังเต้น เพียงแต่ว่ากลิ่นที่เป็นต้นเหตุ น่าจะมาจากกลิ่นของอุจจาระ ไม่ใช่กลิ่นศพเน่า

ที่ผ่านมาเหตุคนตายแล้วฟื้นส่วนใหญ่ เกิดจากคนที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ มาประเมินผู้ป่วยหน้างาน แต่กรณีที่บุคลากรทางการแพทย์ประเมินผิดพลาดก็มี เพราะจากประสบการณ์ที่เคยถูกเรียกให้ไปชันสูตรศพในที่เกิดเหตุ แล้วจู่ๆ ก็ลืมตา จนทำให้คนที่ไปด้วยหลายคนตกใจ เมื่อนำผู้ป่วยไปตรวจที่โรงพยาบาล พบว่าเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งคนป่วยกินยาเบาหวาน แต่ไม่ยอมกินอาหาร ทำให้น้ำตาลตก ความดันต่ำ จนคนไข้เกิดอาการหมดสติ

อาการความดันตก ทำให้หัวใจเต้นช้าลง ชีพจรเต้นเบา เมื่อทำการตรวจชีพจร พบว่าไม่มีสัญญาณการเต้น ประกอบกับลักษณะการหายใจก็แผ่วเบาจนหน้าอกไม่มีการเคลื่อนไหว ทำให้เข้าใจได้ว่าผู้ป่วยไม่ได้หายใจ หัวใจหยุดเต้น เสียชีวิต ซึ่งลักษณะนี้ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ประเมินผิดพลาด

แต่กรณีที่หัวใจหยุดเต้น แล้วกลับมาเต้นอีก สามารถเกิดขึ้นได้ แต่มีน้อย ซึ่งในรายที่พบได้อย่างเช่น การปั๊มหัวใจที่สามารถฟื้นกลับมาเต้นได้อีกครั้ง แต่โดยทั่วไปเมื่อหัวใจหยุดเต้น ระบบการสูบฉีดเลือดในร่างกายจะหยุดลงไปด้วย ถ้าอาการนี้เกิดขึ้นเกิน 4 นาที สมองจะตาย ทำให้เสียชีวิต

ในรายที่เป็นเบาหวาน ควรกินยาตามแพทย์สั่ง กินอาหารให้เป็นปกติตามแพทย์แนะนำ ไม่ควรอดอาหาร แต่ถ้าพบผู้ป่วยช็อก ควรรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล หากพบว่ามีอาการหน้ามืด เวียนศีรษะ ต้องให้เริ่มต้นด้วยการกินน้ำหวาน แต่ถ้าคนไข้หมดสติแล้ว ไม่ควรให้น้ำหวาน เพราะจะสำลักน้ำจนเสียชีวิต ซึ่งควรนำคนไข้ส่งไปรักษายังโรงพยาบาลโดยด่วน.