ไทยกลายเป็นแหล่งซ่องสุมอาชญากรข้ามชาติ มีขบวนการ "ฟอกเงิน" และ "ฟอกคน" อาศัยช่องโหว่กฎหมายที่ล่าช้า โดยมักมีเบื้องหลังช่วยหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน ด้าน "ตรวจคนเข้าเมือง" เตรียมปรับระบบให้ทันสมัย ป้องกันคนร้ายก่อนเดินทางผ่านแดน แต่ต้องรองบจัดสรรจากรัฐบาล

ไทยแดนสวรรค์อาชญากรข้ามชาติแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุ ทั้งที่ก่อเหตุกับคนไทย และชาวต่างชาติประเทศเดียวกัน น่าสนใจว่าคนร้ายต่างชาติมีองค์กรเครือข่ายคอยช่วยเหลือหลบหนี และมีขบวนการฟอกเงินข้ามชาติหรือไม่

เห็นได้จาก 2 คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพชายชาวญี่ปุ่น เมื่อ 27 มี.ค. 67 ในพื้นที่บางบัวทอง จ.นนทบุรี และคดีล่าสุด 11 พ.ค. ที่ผ่านมา ฆ่ายัดถังชายชาวเกาหลีใต้ โบกปูนทิ้งน้ำในพื้นที่ จ.ชลบุรี

ต้นตอของอาชญากรข้ามชาติ ที่ฝังตัวเข้ามาก่อเหตุในไทย "ผศ.ดร.ฐนันดร์ศักดิ์ บวรนันทกุล" ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญาวิทยา กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศที่เปิดรับคนต่างชาติ โดยมีการยกเว้นวีซ่าให้กับหลายประเทศ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ทำให้อาชญากรข้ามชาติใช้ความแตกต่างในด้านกฎหมาย เข้ามาแฝงตัวในไทย

...

ด้วยไทยเป็นระบบกฎหมายที่ให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหา ทำให้การจับกุมผู้ต้องหา ต้องมีหลักฐานชัดเจน ทำให้อาชญากรจากทั่วโลก มาตั้งเครือข่ายในไทย เพื่อให้คนที่กระทำผิดในประเทศต้นทาง มาหลบซ่อนในไทย เช่น แก๊งยากูซ่า ญี่ปุ่น มีการลักลอบเข้ามาไทย เพื่อให้คนในแก๊งมาหลบหนีคดี

อีกประเด็นสำคัญเกิดจากระบบความยุติธรรมที่ด้อยประสิทธิภาพ เช่น การจับกุมคนร้ายยังมีจุดอ่อน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ร้ายที่หนีข้ามแดน ส่วนใหญ่มาก่อเหตุในไทยแล้วหลบหนีข้ามพรมแดนไปยังกัมพูชา เนื่องจากตำรวจของประเทศเพื่อนบ้านมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ ในการตามจับคนร้าย

แม้ไทยมีการทำสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่ส่วนใหญ่จะติดตามเฉพาะคดีอาญา ซึ่งไทยไม่ได้ทำข้อตกลงกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกันทุกประเทศ โดยเฉพาะกับกัมพูชา ไม่มีข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดน เลยจะเห็นผู้ที่กระทำผิดหนีคดีออกไปทางช่องทางนี้มาก

“กรณีที่ตามจับคนร้ายที่หนีไปกัมพูชามาได้ จะเป็นคดีที่มีความร่วมมือ โดยหน่วยงานไทยต้องมีความแนบแน่น ช่วยเหลือกันจริงจัง ถึงมีการติดตาม จับกุมกลับมาลงโทษได้ ด้วยช่องว่างทางกฎหมายเหล่านี้ ทำให้อาชญากรข้ามชาติใช้ไทยเป็นแหล่งกบดาน”

อาชญากรข้ามชาติ ตั้งฐานสร้างเครือข่ายหลบหนี

"ผศ.ดร.ฐนันดร์ศักดิ์ มองว่า กลุ่มชาวต่างชาติที่ก่อเหตุในไทยมี 2 แบบ คือ 1. ชาวต่างชาติเข้ามาก่อเหตุกับคนไทย เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ล้วงกระเป๋าชาวเวียดนาม แก๊งขอทาน 2. ต่างชาติเข้ามาก่อเหตุกับคนชาติเดียวกัน เช่น ลักพาตัวเรียกค่าไถ่คนจีน

แต่กระบวนการยุติธรรมไทย กว่าจะจับคนร้ายได้ก็หนีข้ามประเทศไปแล้ว เพราะคนร้ายมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ว่าจะลงมือทำร้ายเหยื่อตอนไหน มีการจองตั๋วเครื่องบินไว้ล่วงหน้า เมื่อลงมือแล้วก็บินกลับประเทศทันที

...

ตัวอย่างเช่น ข้อมูลในสำนวนที่คนร้ายชาวไต้หวันมาก่อเหตุในไทย ให้ข้อมูลว่า การสันนิษฐานว่าถูกฆาตกรรมมีน้ำหนักน้อย ซึ่งคนร้ายมีการวางแผนออกอุบายทำทีว่าเหยื่อได้รางวัลเป็นตั๋วเครื่องบินมาเที่ยวไทยฟรี แต่ไม่เฉลยว่าใครเป็นคนซื้อให้ และห้ามบอกใครว่าได้รางวัล ต้องรอให้กลับไทยแล้วถึงบอกคนรอบข้างได้ เมื่อมาถึงไทยแล้วจึงลงมือฆ่าทันที หรือบางครั้งก็เป็นกลุ่มแก๊งเดียวกัน ให้เดินทางมาไทย เพื่อจัดการไม่ให้เปิดเผยความลับบางอย่าง

ลักษณะการแฝงตัวเข้ามาของอาชญากรต่างชาติมีหลายแบบ เช่น รัสเซีย เข้ามาทำธุรกิจในพัทยา เช่น บาร์เบียร์ และสถานบันเทิงยามค่ำคืน มีการใช้ชื่อนอมินีคนไทยเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือแต่งงานกับคนไทย วิธีการนี้กลุ่มคนจีนก็ใช้กลวิธีเดียวกัน

กระบวนการของเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ มีขบวนการ "ฟอกเงิน" และ "ฟอกคน" ในช่วงที่มาพักพิงในไทย ซึ่งเครือข่ายข้ามชาติที่ต้องจับตา เช่น จีน ไต้หวัน อินเดีย เกาหลีใต้ แคนาดา กลุ่มนี้จะอยู่ตามเมืองท่องเที่ยว เข้ามาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว เมื่อครบเดือนก็ไปต่อ บางรายเดินทางไปริมชายแดนกัมพูชา จ.สระแก้ว ปั๊มหนังสือเดินทางใหม่ แล้วกลับเข้ามาไทย

...

การแก้ปัญหา ตอนนี้เจ้าหน้าที่รัฐต้องทำงานร่วมมือกับตำรวจต่างประเทศ และทำงานในเชิงรุก ที่น่าห่วงคือการคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่ไทย ที่มีการรับผลประโยชน์หลายรูปแบบ เมื่อชาวต่างชาติเห็นว่าเจ้าหน้าที่ไทยซื้อได้ด้วยเงิน จะพากันเข้ามามากขึ้น จนก่อปัญหาอย่างที่เป็นอยู่

“นโยบายฟรีวีซ่า ส่วนตัวมองว่าเป็นอันตรายมาก ซึ่งตัวอย่างการแก้ปัญหา เช่น ญี่ปุ่น มีการฟรีวีซ่าเพียงบางช่วง ไม่ได้ให้ตลอด ขณะเดียวกันหลายประเทศ เมื่อจะเปิดฟรีวีซ่า ต้องมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องดาต้าเบส ข้อมูลอาชญากร หรือบุคคลต้องห้ามของประเทศนั้น และเชื่อมต่อข้อมูลผ่านระบบเซนเซอร์ใบหน้า มีการตรวจเช็กละเอียดทุกขั้นตอน ไม่ได้เหมือนไทยที่เปิดฟรีวีซ่า โดยไม่มีการเตรียมความพร้อมเรื่องนี้”

ตรวจคนเข้าเมือง เตรียมวางระบบตรวจจับใหม่

พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช. สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มมีคดีที่ชาวต่างชาติที่เข้ามาในไทยแล้วก่อเหตุอาชญากรรมมากขึ้น เพราะไทยเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจ ท่องเที่ยว ซึ่งการไหลเข้ามาของชาวต่างชาติ ทำให้มีปัญหาตามมาเพิ่มขึ้น

...

“ทางหน่วยงานมีการทำข้อมูลชาวต่างชาติที่มีคดีติดตัวเข้ามาในไทยไว้พอสมควร ตอนนี้มีคนจีนเข้ามาในไทยมากขึ้น จึงทำให้มีเหตุอาชญากรรมในไทยเพิ่ม ที่ผ่านมาทางหน่วยงานประสานกับทางสถานทูตจีนตลอด โดยทางสถานทูตยอมรับว่า ไทยไม่ใช่ประเทศที่น่ากลัว และมีเปอร์เซ็นต์เกิดอาชญากรรมน้อยกว่าหลายประเทศในเอเชีย”

กระบวนการคัดกรองชาวต่างชาติ ที่ผ่านเข้ามาในส่วนของตรวจคนเข้าเมือง ใช้ระบบไบโอเมทริกซ์ (Biometrics) แต่ตามนโยบายรัฐบาล เตรียมปรับระบบใหม่ มีการสแกนใบหน้าอัตโนมัติ ซึ่งอยู่ในระหว่างดำเนินการ แต่จะแล้วเสร็จเมื่อไร ขึ้นอยู่กับการตั้งงบประมาณของรัฐบาล

กรณีที่มีคำถามว่า เมื่อชาวต่างชาติที่ก่อเหตุในไทยแล้ว ส่วนใหญ่หลบหนีข้ามแดนไปยังกัมพูชา "พล.ต.ต.พันธนะ" มองว่า ไม่ใช่เสมอไป เพราะคนร้ายหลายคนหนีไปยังเพื่อนบ้านประเทศอื่น ทางหน่วยงานก็มีการตามจับมาได้ แต่ด่านชายแดนกัมพูชาใกล้กว่าพื้นที่อื่น แถมมีช่องทางธรรมชาติหลบหนีอยู่หลายจุด ที่ผ่านมามีการประสานกับเจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชา ในการติดตามคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุในไทยอยู่ตลอด

ประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า แก๊งอาชญากรข้ามชาติเข้ามาฝังตัวในไทย พล.ต.ต.พันธนะ มองว่า ยังไม่ใช่ประเด็นที่น่าเป็นห่วง เพราะปัจจุบันโลกมีการเชื่อมโยงและเดินทางถึงกันง่ายขึ้น บางครั้งก็อาจมีกลุ่มขบวนการเหล่านี้หลุดเข้ามาไทยบ้าง แต่ถ้ามีการก่อเหตุในไทย จะถูกขึ้นประวัติอาชญากรรมผ่านระบบคอมพิวเตอร์ไว้ทั้งหมด

อยากฝากประชาชนทั่วไป หากมีชาวต่างชาติเข้ามาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ เป็นระยะเวลานาน ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ไปยังสายด่วน โทร. 1178 เพราะมี พ.ร.บ.คนเข้าเมือง หากมีการกระทำผิดต้องทำการยกเลิกใบ ตม.6 เอกสารที่ใช้กรอกเวลาเข้า-ออกไทย และเป็นการช่วยเพิ่มข้อมูลให้กับหน่วยงานรัฐ ที่จะใช้ป้องกันไม่ให้บุคคลที่กระทำผิดเข้ามาในไทยอีก.