จับคนไทยลักลอบขายน้ำเชื้ออสุจิ ไปประเทศเพื่อนบ้าน ส่งขายขบวนการอุ้มบุญจีน ไขความลับทำไม "อสุจิชายไทย" เป็นที่ต้องการ เผยขบวนการเถื่อน มีแคตตาล็อกให้เลือกสีผิว-ดวงตา ส่วนอีกกลุ่มนำไปเป็น "อะไหล่มนุษย์" รวยแล้วอยากเป็นอมตะ เปลี่ยนถ่ายอวัยวะส่วนตัว

เดือนที่ผ่านมาตำรวจจับกุมชายกระทำผิด ลักลอบขายน้ำเชื้ออสุจิ ส่งไปขายใน ลาว กัมพูชา โดยปลายทางเป็นคลินิก ซึ่งเป็นขบวนการอุ้มบุญ ที่นำน้ำเชื้อไปผสมกับไข่ของหญิงในประเทศ และนำเด็กที่ได้ส่งต่อให้กับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะขบวนการอุ้มบุญชาวจีน ซึ่งได้รับค่าจ้างครั้งละ 10,000–50,000 บาท ทำมาแล้วกว่า 10 ปี

ที่ผ่านมาไทยมีการกวาดล้างขบวนการอุ้มบุญของนายทุนจีน ทำให้กลุ่มคนร้ายย้ายฐานการทำไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังมีการลักลอบน้ำเชื้ออสุจิของคนไทยไปใช้ ซึ่งหนึ่งในข้อสงสัย อาจมีนายทุนนำเด็กไปทำเป็นอะไหล่มนุษย์ ในการค้าขายอวัยวะ

ทำไมมีความต้องการอสุจิ ของชายไทย?

ทีมข่าวเจาะประเด็น สอบถามไปยัง “ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ” รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดเผยว่า ขบวนการลักลอบขายน้ำเชื้ออสุจิข้ามประเทศ มีการประกาศขายผ่านเว็บไซต์ โดยมีการสืบทราบว่าต้นทางการโฆษณามาจากนอกประเทศ บริเวณริมชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ที่ผ่านมามีการพยายามปราบปราม ด้วยการนำ พ.ร.บ.สถานพยาบาลในการจับกุม กรณีที่มีการลักลอบทำภายในประเทศ แต่ตอนนี้มีการลักลอบ โดยนำอสุจิของคนไทยตามสเปกที่ต้องการส่งไปขายประเทศเพื่อนบ้าน หรือนำหญิงไปทำการผสมเทียมในสถานพยาบาลนอกประเทศ เพื่อตั้งท้องแทน

...

“ตอนนี้กลุ่มขบวนการค้าอสุจิหรืออุ้มบุญ ไปตั้งฐานในต่างประเทศ มีแคตตาล็อก ให้ลูกค้าเลือกสีผิว สีดวงตา สีผมของเด็กที่ทำการผสมเทียม ที่ผ่านมามีการปราบปรามในประเทศ แต่มีช่องว่างที่มีการลักลอบไปทำในประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยความต้องการนี้ ทำให้ขบวนการลักลอบนำไปใช้โฆษณา”

จากการตรวจสอบ กลุ่มที่มีการลักลอบทำในไทย สเปิร์มที่ได้รับความนิยม เป็นของชาวยุโรป กระบวนการทำนำเชื้ออสุจิมาผสมกับไข่เป็นตัวอ่อน ลักษณะเด็กหลอดแก้ว หรืออีกวิธีเป็นการผสมเทียม ด้วยการฉีดน้ำเชื้อเข้าไปในโพรงมดลูก

“กระบวนการทำในแบบเด็กหลอดแก้ว คนทำสามารถล็อกสเปกได้ว่าเด็กที่เกิดมาเป็นชายหรือหญิง แต่เป็นกระบวนการทำที่ผิดกฎหมายของไทย”

ขบวนการค้าสเปิร์ม ในไทยมีกฎหมายห้ามชัดเจน กลุ่มคนทำเป็นขบวนการผิดกฎหมาย ทำแบบลักลอบนำอสุจิออกไปขาย และแอบนำเข้ามาทำหรือนำหญิงไปผสมเทียมยังประเทศเพื่อนบ้าน ในลักษณะอุ้มบุญ ขบวนการนี้ถ้ามีการลักลอบทำในไทย สามารถจัดการได้ แต่ส่วนใหญ่มักทำในต่างประเทศ

ต้นตอขบวนการค้าอะไหล่มนุษย์ โคลนนิ่งเพื่ออมตะ

“ทันตแพทย์อาคม" เล่าต่อว่า ตอนนี้ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ทันสมัย สามารถโคลนนิ่งมนุษย์ได้ แต่กฎหมายยังไม่อนุญาต เพราะจะสร้างปัญหาให้กับสังคมได้ ถ้ามีการนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี เช่น โคลนนิ่งมนุษย์ เป็นกองทัพในการก่อการร้าย ด้วยการนำเซลล์ของเขาไปผสมกับตัวอ่อนเป็นพันตัว เพราะปกติอสุจิของผู้ชายออกมาทีจะมีตัวอ่อนหลายล้านตัว ซึ่งถ้าคนที่ไม่ดีก็จะเป็นช่องทางนำไปสู่การค้ามนุษย์

สำหรับคนที่ไปลักลอบทำอย่างผิดกฎหมาย ให้เข้ามาปรึกษาแพทย์ ปัจจุบันกฎหมายไทยเอื้อให้กับคนที่มีบุตรยากได้เข้าถึงการแพทย์ ซึ่งการทำอย่างถูกกฎหมายจะมีแพทย์เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา แต่ถ้าไปทำแบบเถื่อน ฝ่ายหญิงอาจเกิดผลกระทบด้านสุขภาพ และอาจกลายเป็นเครื่องมือของขบวนการค้ามนุษย์

ตอนนี้มีขบวนการที่หลอกให้ไปอุ้มบุญแทน เพื่อจะได้เด็กไปทำเป็นอะไหล่มนุษย์ เช่น นำไตไปขาย ในตลาดมืดมีราคา 3-5 ล้านบาท หรือนำไปเป็นธนาคารเลือด คนเหล่านี้จะให้มีการอุ้มบุญแทน แล้วให้หญิงที่อุ้มท้องเลี้ยงเด็กถึงอายุ 7–8 ขวบ ก่อนนำเด็กกลับไปประเทศตนเอง และหาผลประโยชน์จากร่างกายและอวัยวะของเด็ก ผิดหลักมนุษยธรรม

คนที่มีทุนทรัพย์บางประเทศ มีความนิยมในการนำมนุษย์มาทำเป็นอะไหล่ของตัวเอง ดังนั้นพยายามนำเชื้อของตัวเองไปทำเด็กหลอดแก้ว หรือฝากหญิงไทยตั้งท้อง เมื่อเด็กอยู่ในช่วงที่เติบโต ก็จะนำอวัยวะไปใช้ เพราะเด็กคนนั้นมีสายเลือดเดียวกับตัวเอง

กระบวนการป้องกัน ตอนนี้หน่วยงานของไทย ต้องพยายามปรับตัวเองให้ทันกับโลกที่ทันสมัยมากขึ้น ที่ผ่านมาเมื่อมีหลักฐานก็ทำการปิดเว็บไซต์ แต่มีเว็บไซต์ใหม่ผุดขึ้นมาอีก และใช้เทคโนโลยีในการตรวจสอบที่ยากมากขึ้น ซึ่งผู้ที่ทำความผิดจะมีโทษจำคุก 10 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท.

...