คดีฆ่าหนุ่มไต้หวันถูกยิงหมกศพ ไว้ในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ล่าสุดตำรวจตามจับหญิงชาวไทยที่ร่วมขบวนการได้ที่กัมพูชา หลังหลบหนีพร้อมแก๊งอุ้มฆ่า ถือเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการไขความลับ ซึ่งอาจเกี่ยวโยงกับธุรกิจสีเทา เพราะเมื่อตรวจสอบพบว่า ผู้ตายมีหุ้นอยู่ในร้านขายกัญชาแห่งหนึ่ง เตรียมทลายเครือข่ายธุรกิจนอกกฎหมาย
วันนี้ 27 ก.พ. 67 ตำรวจสามารถจับกุมหญิงสาวชาวไทย ที่ร่วมในขบวนการอุ้มฆ่า Mr.Shih Mou Chiang อายุ 44 ปี ชาวไต้หวัน ได้ที่ประเทศกัมพูชา และนำส่งตัวคนร้ายกลับมาไทย เพื่อสืบหาเบาะแสผู้ร่วมขบวนการ โดยกลุ่มคนร้ายเป็นชายชาวไต้หวัน 4 คน และหญิงไทย 1 คน ก่อเหตุฆาตกรรมชาวไต้หวัน ทิ้งไว้ในร้านค้าร้างย่านสุวรรณภูมิ ก่อนหลบหนีออกนอกประเทศ
ล่าสุด ทางการกัมพูชา จับกุม หญิงชาวไทย เจ้าของรถเก๋งสีแดง ที่นำร่างผู้เสียชีวิตไปทิ้งในจุดเกิดเหตุ ได้ที่ประเทศกัมพูชา โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล เพราะเชื่อว่าเป็นกุญแจสำคัญ ในการคลี่คลายคดี ไม่ว่าจะเป็นมูลเหตุจูงใจ หรือบุคคลที่ร่วมช่วยเหลือ
โดยประเด็นความขัดแย้งที่นำสู่การยิงทิ้งชายชาวไต้หวัน มีพิรุธเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องธุรกิจสีเทา เมื่อตรวจสอบประวัติผู้ตายพบว่า เคยมีประวัติก่อเหตุในไต้หวัน ก่อนหลบหนีเข้ามาในไทย แม้ในช่วงระยะแรก ตำรวจพยายามหาเบาะแสของผู้ตายผ่านรอยสักบนลำตัว จนมีร้านสักแห่งหนึ่งในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี ยืนยันว่า ชายคนดังกล่าวเป็นลูกค้าของที่ร้าน นำสู่การเจอหลักฐานชายชาวไต้หวัน
...
ต่อมาตำรวจสะกดรอยตามแก๊งคนร้ายจากกล้องวงจรปิด พบเบาะแสจากบ้านเช่าที่ผู้ตายอยู่กับเพื่อนในย่าน ลาดปลาเค้า กรุงเทพฯ โดยก่อนวันเสียชีวิต เพื่อนบ้านยังพบผู้ตายขับรถเข้ามาภายในบ้าน ก่อนกลางดึกมีเสียงผิดปกติดังขึ้น โดยตำรวจเข้าตรวจสอบในบ้านดังกล่าวพบคราบเลือด ยืนยันว่าคนร้ายก่อเหตุฆ่าผู้ตายในบ้านดังกล่าว ก่อนนำร่างไร้วิญญาณมาทิ้งในพื้นที่สุวรรณภูมิ ด้วยรถเก๋งสีแดง
การจับกุมตัวหญิงชาวไทยได้ที่กัมพูชา เป็นจิ๊กซอว์สำคัญ ที่จะนำสู่การลากไส้ทลายธุรกิจสีเทา ที่ฆ่าหมกศพหนุ่มไต้หวัน ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า จากการสอบสวนพบผู้ร่วมขบวนการเป็นชายชาวไต้หวัน 4 คน ส่วนผู้หญิง 1 คน เป็นชาวไทย ที่ตอนนี้จับได้แล้วหลังหลบหนีไปกัมพูชาพร้อมผู้ร่วมขบวนการ
หญิงชาวไทยที่จับได้ เป็นเจ้าของรถเก๋งสีแดงที่นำศพผู้ตายมาทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ คาดว่าหญิงไทยรายนี้ก็รู้จักกับผู้ตาย ส่วนประเด็นที่สงสัยว่าผู้ตายเกี่ยวโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในไทย ยังเป็นเพียงข้อมูลที่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน
การตายของชายชาวไต้หวัน น่าจะมีส่วนเกี่ยวของกับเครือข่ายธุรกิจสีเทาในไทย เบื้องต้นมีการตรวจสอบพบว่า กลุ่มของผู้ตายมีหุ้นอยู่ในธุรกิจร้านขายกัญชา ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ มีการจดทะเบียนถือหุ้นกันหลายคน ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมเข้าตรวจสอบว่ามีปมขัดแย้งกันหรือไม่ และจะนำสู่การขยายผลทลายเครือข่ายทุนสีเทา ซึ่งยังฝังตัวหลบอยู่ในไทย.