"เจ๊ม่วย" เศรษฐินีจันทบุรี วัย 77 ปี กลายเป็นศพกลางบ่อน้ำในสวน ตำรวจพบพิรุธผลชันสูตรศพ ซี่โครงหักสองข้าง มีรอยบอบช้ำทั่วร่าง คล้ายจัดฉากอำพรางคดี หมอผู้เชี่ยวชาญชี้เป็นไปได้สูง ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุวางแผนมาล่วงหน้า สภาพศพลักษณะคล้ายนำมาทิ้งในบ่อน้ำหลังฆาตกรรม
กลายเป็นคดีปริศนาฆ่าล้างหนี้ หลังตำรวจพบศพ น.ส.ปนิฐิ หรือ เจ๊ม่วย อายุ 77 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน และสวนผลไม้ เสียชีวิตในสระน้ำกลางสวนผลไม้ของตัวเองในพื้นที่ ต.มะขาม อ.มะขาม จ.จันทบุรี เมื่อ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยผลชันสูตรศพพบพิรุธหลายแห่ง เนื่องจากมีซี่โครงหักทั้งสองข้าง ไม่มีน้ำในปอด คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 – 4 วัน
เจ๊ม่วย วัย 77 ปี ถึงจะอยู่คนเดียวในบ้าน แต่ทุกมุมมีกล้องวงจรปิด โดยหลังเกิดเหตุเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดได้หายไป นำสู่การติดตามชายต้องสงสัย ที่พบว่าขับรถกระบะตู้ทึบออกจากที่เกิดเหตุหลังผู้ตายเสียชีวิต ซึ่งชายคนขับรถกระบะตู้ทึบ ระบุว่า ตนถูกว่าจ้างจากหญิงรายหนึ่งให้มาที่บ้านดังกล่าว เมื่อมาพบร่างเจ๊ม่วย นอนหมดสติ และมีชาย 2 คนอยู่ด้วย
...
หลังจากนั้นหญิงรายดังกล่าวได้ให้คนขับรถกระบะตู้ทึบไปส่งที่บ้าน โดยตำรวจได้ตามสืบจนรู้ว่า หญิงต้องสงสัยรายดังกล่าวเคยมายืมเงินเจ๊ม่วย เพื่อไปทำธุรกิจปล่อยเงินกู้กว่า 30 ล้านบาท ขณะผู้ต้องสงสัยยังให้การปฏิเสธ โดยคดีนี้เริ่มแสดงให้เห็นถึงความชัดเจนถึงพิรุธของคนร้ายที่วางแผนจัดฉากให้เป็นอุบัติเหตุ
จากการชันสูตรร่างผู้เสียชีวิต ไม่พบน้ำในปอด ทั้งที่ร่างจมน้ำ นี่อาจเป็นข้อมูลที่ชี้ชัดถึงเหตุฆาตกรรม เจ๊ม่วย ที่มีอุปนิสัยระมัดระวังตัว โดย “รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี" อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า จากผลการผ่าชันสูตรศพ "เจ๊ม่วย" พบความผิดปกติหลายอย่าง เพราะจุดที่พบศพมีลักษณะร่างจมน้ำ คาดเสียชีวิตมาเกิน 2 วัน เนื่องจากศพเริ่มขึ้นอืด
น่าสนใจว่าร่างของผู้เสียชีวิต มีกระดูกซี่โครงหักทั้งสองข้าง พบบาดแผลฟกช้ำตามร่างกายหลายจุด ยิ่งเมื่อเห็นบ่อน้ำสถานที่พบศพ โดยขอบบ่อน้ำสูงเหนือกว่าผิวน้ำประมาณ 2 เมตร ถ้าเป็นอุบัติเหตุพลัดตกน้ำ ขอบบ่อมีรอยไถลลง แต่ตอนนี้ยังไม่พบจุดดังกล่าว แถมน้ำในบ่อก็ไหลนิ่ง ซึ่งศพลอยไปถึงกลางบ่อ
อุบัติเหตุการลื่นตกน้ำ มีลักษณะลื่นไถลไปข้างหน้า โดยบริเวณก้นกับหลังเป็นจุดที่ถูกกระแทกทำให้บาดเจ็บ แต่ถ้าเป็นลักษณะการล้มแบบคว่ำลงไปข้างหน้า หน้าจะลงไปในน้ำก่อน ดังนั้นเรื่องของอุบัติเหตุค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เพราะกระดูกซี่โครงหักทั้งสองข้าง คนตายน่าจะถูกทำร้ายมาก่อนหน้า
สำหรับผลชันสูตรที่ไม่พบน้ำในปอดผู้ตาย ทั้งที่จุดพบศพในบ่อน้ำ ในด้านนิติวิทยาศาสตร์ ถ้าเป็นอุบัติเหตุจากการจมน้ำ ส่วนใหญ่เจอน้ำและโคลนในหลอดลม แต่การไม่พบน้ำในปอด ถือเป็นข้อสันนิษฐานได้ว่า ผู้ตายอาจเสียชีวิตก่อนจมลงไปในน้ำ เพราะถ้าตายมาก่อนจมน้ำ กล้ามเนื้อและหูรูดจะถูกปิดลง เช่น ปอดและหลอดอาหารปิด เมื่อศพจมลงไปในน้ำ จึงไม่มีน้ำเข้าไปในปอด แต่ถ้าศพมีอาการเน่า ผิวหนังจะคลายตัว จนน้ำซึมเข้าไปภายในได้
มีข้อมูลวิชาการระบุว่า มนุษย์ดิ้นรนเอาตัวรอดในน้ำได้ไม่เกิน 12 นาที ถ้าผู้ตายมีชีวิตอยู่ก่อนจนน้ำ ช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงสำคัญที่น้ำไหลเข้าไปสู่ปอดของคนตาย
...
การที่คนขับรถตู้กระบะทึบให้ข้อมูลว่า เห็นร่างของเจ๊ม่วยถูกอุ้มออกมาด้วยชาย 2 คน คาดว่าไม่น่ามีสติ หรือเสียชีวิตแล้วหรือไม่ การตรวจที่เกิดเหตุในบ้านโดยเฉพาะลายนิ้วมือแฝง สิ่งสำคัญคือ ต้องไปค้นหารอยเท้า ดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือแฝงในพื้นที่ขอบบ่อที่พบศพ ผู้เชี่ยวชาญจะสังเกตได้ว่าเป็นรอยเท้าเก่าหรือใหม่ หากได้ข้อมูลนี้มา สามารถไขปริศนาเพื่อเชื่อมโยงเวลาของผู้เสียชีวิตได้
จากข้อสันนิษฐาน หลังทราบผลชันสูตรศพเจ๊ม่วย อาจเสียชีวิตจากภาวะอกรวน เพราะพบซี่โครงหักหลายจุด ทำให้อกไม่คงสภาพ ทำให้ปอดไม่ขยายตัวจนหายใจลำบาก และเกิดหัวใจล้มเหลวจนเสียชีวิตได้.