คดีป้าบัวผัน หญิงเร่ร่อนที่ถูกกลุ่มวันรุ่นฆาตกรรมในพื้นที่ สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กลายเป็นปริศนาอีกครั้ง หลังลุงเปี๊ยกสามี ที่ตอนแรกรับสารภาพว่าฆ่าป้าบัวผัน ออกมาให้ข้อมูลว่า ตำรวจที่สอบสวนมีการใช้ถุงดำครอบหัว ให้ถอดเสื้ออยู่ในห้องที่เร่งแอร์หนาว จึงมีการตั้งข้อสังเกตหาหลักฐานมายืนยัน ให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

หลังมีคลิปเสียงเผยแพร่ในโลกโซเชียล เนื้อหามีการอ้างว่าเป็นการคุยกันระหว่างตำรวจระดับสูงในโรงพักอรัญประเทศ จ.สระแก้ว กับหน่วยงานเอกชนที่เข้าไปช่วยเหลือลุงเปี๊ยก หลังมีการปล่อยตัว เนื้อหาคลิปเสียงมีการพยายามซักถามถึงพฤติกรรมตำรวจในกระบวนการสืบสวน ว่ามีการทรมานบังคับลุงเปี๊ยก ให้รับสารภาพในคดีฆ่าป้าบัวผันหรือไม่ มีการหลุดคำพูดถึงถุงดำที่ใช้ในกระบวนการสอบสวน ที่ปลายสายให้การปฏิเสธ บอกว่าลูกน้องแค่ล้อเล่น เพียงขยำถุงแล้ววางไว้บนหัว ไม่มีการล่ามด้วยโซ่ ขณะที่ลุงเปี๊ยกให้ข้อมูลว่า มีการสั่งให้ถอดเสื้อ อยู่ในห้องแอร์ ที่มีอากาศหนาวเย็นเป็นเวลานาน ก่อนนำตัวไปทำแผนรับสารภาพ

...

ข้อเท็จจริงการเค้นสอบลุงเปี๊ยก เป็นประเด็นที่กระบวนการยุติธรรม ทั้งฝ่ายตำรวจและผู้ถูกกล่าวหาต้องหาหลักฐานมายืนยัน ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยัง อดีตนายตำรวจสายสืบสวน ที่เคยดำรงตำแหน่งเป็นอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ วิเคราะห์ว่า จากการคุยกับตำรวจในท้องที่ คดีการตายของป้าบัวผัน หลักฐานในการบังคับให้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพในกระบวนการสอบสวน สิ่งที่ต้องตั้งต้นคือ ตำรวจสืบสวนที่เป็นพ่อของเยาวชนผู้ก่อเหตุ เพราะอาจมีการให้ข้อมูลเพื่อจงใจเบี่ยงประเด็น

กรณีอ้างว่าตำรวจใช้โซ่ล่ามลุงเปี๊ยก ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะโซ่ไม่ใช่อุปกรณ์ที่ตำรวจใช้อยู่เป็นประจำ เป็นสิ่งที่หาได้ยากในพื้นที่โรงพัก แต่จากข้อกล่าวอ้างที่นำถุงดำขยุมแล้ววางไว้บนหัวลุงเปี๊ยก ให้ถอดเสื้ออยู่ในห้องแอร์ที่มีอากาศหนาวเป็นเวลานาน เข้าข่ายการซ้อมทรมานผู้ต้องหา จึงต้องไปหาหลักฐาน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบจะต้องเข้าไปดูให้ห้องสืบสวนดังกล่าว ว่ามีการเปิดแอร์ที่มีอุณหภูมิได้หนาวเย็นอย่างที่อ้างหรือไม่ และพื้นที่ในห้องสอบสวนกว้างพอที่จะใช้ถุงดำคลุมหัวไหม

ส่วนถุงดำ หากเป็นจริงต้องมีการตรวจสอบว่าเป็นถุงขนาดไหน เพราะอย่างคดีที่เคยเกิดขึ้น ถุงที่ครอบศีรษะผู้ต้องหามีขนาดเล็ก ขณะเดียวกันหลักฐานสำคัญคือ ภาพจากกล้องวิดีโอในการสอบสวนผู้ต้องหา ต้องมีการนำมาเปิดเผย เพื่อให้เห็นถึงหลักฐานที่ชัดเจน นอกจากนี้ควรมีภาพระหว่างการจับกุม ที่เป็นหลักฐานสำคัญ ในการที่บ่งบอกพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ได้

“สิ่งสำคัญที่จะไขความลับว่าลุงเปี๊ยก ถูกซ้อมทรมานจริงหรือไม่ ควรให้ลุงเปี๊ยกไปตรวจสอบร่างกาย หาร่องรอยการถูกทำร้าย เพราะร่องรอยบางอย่างจะช่วยไขข้อถกเถียงที่เกิดขึ้นได้ ถ้ามีการนำโซ่มาล่ามที่มือหรือขา จะมีรอยถูกรัดบริเวณผิวหนัง สิ่งสำคัญคดีนี้คือ ระบบการสืบสวนสอบสวน และนิติวิทยาศาสตร์ ต้องเดินไปพร้อมกัน”

ด้านการพิสูจน์คลิปเสียง เป็นอีกประเด็นที่ต้องมีการตรวจสอบ เพราะสามารถตรวจสอบได้ว่าเสียงที่อัดมามีการตัดต่อหรือไม่ เพราะถ้าตัดต่อจะมีเสียงที่เว้นวรรคผิดปกติ และเสียงแทรกที่สูงต่ำไม่เท่ากัน

การหาข้อเท็จจริงในเรื่องซ้อมทรมาน ผู้บังคับบัญชาระดับสูงต้องลงไปตรวจสอบในพื้นที่ด้วยตัวเอง ถ้าปล่อยให้โรงพักทำ ก็เสี่ยงที่ผู้บังคับบัญชาในท้องที่จะได้รับข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงได้

...

ลุงเปี๊ยก ชี้ภาพตำรวจต้องสงสัยทรมานถูก

มีรายงานว่า วันนี้ (18 ม.ค.67) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางไปที่ศูนย์ช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่ง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ปทุมธานี เพื่อสังเกตการณ์การสอบสวนลุงเปี๊ยก หลังมีการปล่อยคลิปสนทนา ยอมรับว่ามีการซ้อมทรมานเพื่อให้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพ แต่อ้างว่าพยายามคลุมถุงดำ และให้ถอดเสื้อเปิดแอร์ เป็นแค่การล้อเล่น ซึ่งการสอบสวน 2 ชั่วโมง ลุงเปี๊ยกชี้รูปชายนอกเครื่องแบบใส่ขาเทียม ที่อ้างเป็นบุคคลในคลิปเสียง เพียงคนเดียวจากรูปทั้งหมดกว่า 10 ใบ

ลุงเปี๊ยก ยืนยันว่า ติดใจกับชายนอกเครื่องแบบใส่ขาเทียมรายนี้ เจ้าหน้าที่คนอื่นใช้คำพูดสุภาพ ไม่ได้มีพฤติกรรมข่มขู่ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า จะยังต้องสอบสวนต่อไปเพื่อขยายผลว่ายังมีใครที่เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ และมีใครเป็นผู้สั่งการ ที่อยู่เบื้องหลัง จากนี้ชุดพนักงานสอบสวนของ จ.สระแก้ว ต้องมีการสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคนที่ลุงเปี๊ยกชี้รูป เพราะจนถึงขณะนี้คนที่ถูกชี้รูปถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่.

...