หมูเถื่อน พบขบวนการนายทุน ข้าราชการนอกรีต อยู่เบื้องหลัง ตอนนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เร่งหาข้อมูลรวบรวมหลักฐาน โดย “พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ” รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พร้อมรับไม้ต่อ ยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้อง พบมี 3 กลุ่ม โยงตามตัวย่อ คือ “ด” “ม” “บ” มีเงินหมุนเวียนหลายพันล้านบาท ตลอด 3 ปี พร้อมเช็กบิล “ชิปปิ้งผี” นอมินีปลอมแปลงเอกสารนำเข้าสินค้าเถื่อน คาดยึดทรัพย์ทั้งเครือข่ายได้ก่อนสิ้นปี

หมูเถื่อน คือ เนื้อหมูที่มีการลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่แอบนำเข้ามาทางเรือ ไม่มีการตรวจโรคในเนื้อหมู ไม่บ่งชี้ต้นตอแหล่งที่มาชัดเจน เสี่ยงอันตรายต่อผู้บริโภค ล่าสุดมีการแถลงข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงความคืบหน้าการปราบปราม หลังพบข้อมูลว่า มีหมูเถื่อนแอบซ้อนไว้ตามห้องเย็นของผู้มีอิทธิพล

...

พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า กรมศุลกากร ส่งของกลางหมูเถื่อน 161 ตู้ ให้เป็นคดีพิเศษ พบมีพยานหลักฐาน เชื่อว่ามีกลุ่มนายทุน ข้าราชการประจำ ข้าราชการฝ่ายการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง มีการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรหมู และเนื้อเถื่อนตั้งแต่ปี 2564-2566 จำนวน 2,385 ตู้คอนเทนเนอร์

ขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน มีขบวนการหลบหลีกการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า การทำคดีหมูเถื่อนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ คืบหน้าไปมาก มีการทำงานร่วมกันในการยึดทรัพย์กลุ่มเกี่ยวข้อง โดยภายในเดือน ธ.ค.นี้ จะมีการยึดทรัพย์เครือข่ายเพิ่มเติม

จากการสืบสวนเส้นทางเงินขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน มีด้วยกัน 3 กลุ่ม ตามตัวย่อดังนี้ 1. “ด” 2. “ม” 3. “บ” พบเส้นทางการเงินจากการลักลอบจำหน่ายหมูเถื่อน มีรายได้สูงไล่เลี่ยกันทั้ง 3 กลุ่ม บางส่วนถูกดำเนินคดีแล้ว ขณะนี้บางกลุ่มเจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินคดี เพื่อยึดทรัพย์ต่อไป

“3 กลุ่มดังกล่าว พบเส้นทางการโอนเงินไปจ่ายค่าหมูเถื่อน จากนั้นให้ชิปปิ้งมาออกของ โดยลำเลียงหมูเถื่อนจากท่าเรือไปกระจายไว้ในห้องเย็นต้องสงสัย เมื่อนำเนื้อหมูเถื่อนไปจำหน่ายแล้ว พบเส้นทางเงินย้อนกลับมาสู่ขบวนการหลายเส้นทาง ขณะเดียวกัน พบว่า มีกลุ่มชิปปิ้ง เป็นนอมินีออกเอกสารปลอม เตรียมตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้องในระบบราชการต่อไป”

3 แก๊งลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน มีการกระทำผิดต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564-2566 พบข้อมูลว่ามีตู้คอนเทนเนอร์ที่ลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนเข้ามา 2,385 ตู้ มีเงินหมุนเวียนทั้งระบบหลายพันล้านบาท
ต่อจากนี้ต้นเดือน ธ.ค. 2566 กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะส่งเรื่องทั้งหมดมาให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบและยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องใน 3 ขบวนการดังกล่าวก่อน จากนั้นขยายผลเส้นทางเงินเพิ่มเติม เพื่อยึดทรัพย์ให้เสร็จสิ้นในเดือน ม.ค. 2567

“การดำเนินคดีขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน เริ่มเช็กบิล กลุ่มที่นำเข้า 161 ตู้ ที่มีการจับได้เบื้องต้นก่อน หลังจากนั้นมีการขยายผล เครือข่ายเกี่ยวข้องกับการนำเข้าหมูเถื่อนอีกสองพันกว่าตู้ ให้เสร็จสิ้นภายในต้นปีหน้า ตอนนี้กลุ่มผู้ต้องสงสัย มั่นใจว่าจะสู่คดีได้ เพราะหมูเถื่อนส่วนใหญ่ มีการระบายออก จนเกือบหมด การทำคดีต่อจากนี้ หลักฐานสำคัญอยู่ที่เอกสาร ที่ใช้เป็นหลักฐานในการสู้คดี”

กรมปศุสัตว์ ลุยปรามห้องเย็นเถื่อน

...

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวในการแถลงข่าวว่า จากการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบห้องเย็นตั้งแต่ 10 ต.ค. 2566 ได้ตรวจสอบไปทั้งสิ้น 2,210 แห่ง ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมปศุสัตว์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่ามี 1,100 ห้องเย็นขนาดเล็กที่ไม่มีการขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานใด จึงบังคับใช้กฎหมายตาม มีผลการบังคับใช้พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ 2558 และพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อจำหน่ายเนื้อสัตว์ 2559 ซากสัตว์ที่ถูกอายัติดำเนินคดี โค กระบือ สุกร สัตว์ปีก รวมซากสัตว์ทั้งหมดจากการประกาศสงครามกับการค้าสัตว์ผิดกฎหมาย 2,568,322 กิโลกรัม อยู่ใน 35 จังหวัด นับเป็น 92 คดี.