นักไวรัสวิทยาชื่อดังของจีนเตือน พบเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ มีความเสี่ยงสูงถึง 20 ตัว อาจกลับมาระบาดใหญ่อีกครั้ง ขณะที่ไทยเปิดฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีน จึงมีความกังวลว่า จะมีการแพร่ระบาดจากคนสู่คนอีกหรือไม่ แต่ในมุมแพทย์ชาวไทย ยังไม่ปักใจเชื่อข้อมูลที่ออกมา อาจเป็นไปได้แค่ข่าวลือ เพื่อขอทุนสนับสนุนวิจัยจากต่างประเทศ แต่เตือนไม่ให้ประมาท

เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศรายงานว่า ดร.ฉี เจิ้งลี่ ผู้อํานวยการศูนย์โรคติดเชื้ออุบัติใหม่ สถาบันไวรัสวิทยาเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ออกรายงานเตือนประชาชนและนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกให้เตรียมพร้อม เนื่องจากพบเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ถึง 20 สายพันธุ์ อาจแพร่ระบาดสู่คนอีกในอนาคต ทำให้คนไทยที่ทราบข่าวมีความวิตก เนื่องจากรัฐบาลมีการประกาศฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน อาจเสี่ยงต่อการติดโควิดสายพันธุ์ใหม่ตามข่าวหรือไม่

เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยัง ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาฯ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นว่า ตั้งแต่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ยุติการให้ทุนวิจัยแก่จีน ในการไปหาไวรัสโควิดในค้างคาว เพื่อดูว่ามีโอกาสเกิดโรคอุบัติใหม่หรือไม่

...

กรณีเผยแพร่ข่าวนี้ออกมา ทำให้คนทั่วไปวิตกกังวล แต่มีการตั้งข้อสังเกต มีความเป็นไปได้ว่า ทีมวิจัยจากจีนต้องการได้ทุนสนับสนุนในการทำงานวิจัยต่อ ขณะเดียวกันก็อาจต้องการทุนสนับสนุนต่อ โดยผ่านแหล่งให้ทุนใหม่ หรืออีกกรณีหนึ่งอาจเป็นไปได้ว่า เชื้อดังกล่าวหลุดรอดมาจากห้องปฏิบัติการของทีมวิจัยจริง จึงได้ออกมาเตือนให้เฝ้าระวัง

หากมีการหลุดรอดของไวรัสมาจากห้องวิจัย อาจไปติดในมนุษย์ แล้วคนก็แพร่ไปยังสัตว์ จากนั้นสัตว์ก็แพร่เชื้อกันเอง ก่อนจะกลายพันธุ์ และแพร่ระบาดกลับมายังมนุษย์

จากการตั้งข้อสังเกตข้างต้น ยังไม่มีใครรู้ว่าเป็นจริง หรือมีโอกาสระบาดมาจากสาเหตุดังกล่าวหรือไม่ แต่เบื้องต้นสถาบันวิจัยในไทย ได้ยกเลิกความร่วมมือกับสถาบันไวรัสวิทยาเมืองอู่ฮั่น และได้ทำลายค้างคาวที่เป็นตัวอย่างแล้วทั้งหมด โดยในรายงานของสถาบันวิจัยจีน แสดงให้เห็นว่ามีการตัดต่อพันธุกรรมของเชื้อจริง รวมถึงมีรายงานของวารสารหลายแห่ง ระบุถึงการตัดต่อพันธุกรรม จนมีการติดเชื้อในมนุษย์ได้ โดยผ่านในสัตว์ทดลองที่ดัดแปลงให้มีลักษณะคล้ายมนุษย์

มีเหตุการณ์แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องในระบบการรักษาความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ และมีการประกาศอย่างเข้มงวดจากรัฐบาลจีน ในข้อปฏิบัติที่ต้องทำอย่างเคร่งครัดตามมาตรฐาน แต่ยังทำตามเงื่อนไขให้เกิดความสมบูรณ์และปลอดภัยอย่างเคร่งครัดไม่ได้นัก เช่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของระบบชีวนิรภัย ที่สถาบันที่เกี่ยวข้องกับการทดลองไวรัสตระกูลโควิด และเป็นระบบเกี่ยวข้องกับการควบคุมอากาศในห้องปฏิบัติการชีวนิรภัยระดับสี่...ในวันที่ 24 เม.ย. 62 วันที่ 14 ส.ค. วันที่ 16 ก.ย. วันที่ 19 พ.ย. วันที่ 11 ธ.ค. ทั้งหมดในปี 2562 และวันที่ 13 พ.ย. ปี 63

สำหรับคนไทยในการเตรียมพร้อม หากมีการกลับมาแพร่ระบาดของโควิดอีกครั้ง ขณะนี้มีหน่วยงานรัฐคอยสำรวจ หากมีการแพร่ระบาด แต่ไม่ได้ไปสำรวจหาในกลุ่มของค้างคาวอย่างในช่วงการระบาดรอบที่แล้ว ซึ่งเน้นการหาเชื้อในมนุษย์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้าง

นอกจากนี้ มาตรการป้องกันเชื้อโควิด โดยการล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่เข้าไปในพื้นที่ชุมชน ยังคงต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าเชื้อกลายพันธุ์ที่ระบุในงานวิจัยของจีน จะมีการแพร่ระบาดในมนุษย์หรือไม่.