ผัดกะเพรา ผงาดคว้าเมนูผัดที่ดีที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของเว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดัง ด้วยการทำที่ง่าย สามารถดัดแปลงใส่วัตถุดิบหลากหลาย เลยทำให้ชาวต่างชาติติดใจในรสชาติ และกลิ่นที่หอมเป็นเอกลักษณ์ของใบกะเพรา จนถูกนำไปเป็นอาหารฟิวชั่นในระดับภัตตาคารชื่อดังมาแล้วทั่วโลก

เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2566 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ TasteAtlas ด้านการท่องเที่ยวระดับโลก ได้จัดอันดับให้ ผัดกะเพรา เมนูยอดฮิตของคนไทย เป็นอาหารประเภทผัดที่ดีที่สุดในโลก โดยชนะคู่แข่งด้วยคะแนน 4.8 ดาว ส่วนอันดับ 2 คือ เมนู ทัค คาลบี้ ของเกาหลีใต้

ในบทความมีการนำเสนอถึง ผัดกะเพราของไทย จะมีวัตถุดิบหลักเป็นเนื้อสัตว์สับ และใบกะเพรา และมีส่วนผสมของหอมแดง กระเทียม พริก และปรุงรสด้วยซีอิ๊ว น้ำตาล น้ำปลา และส่วนใหญ่เสิร์ฟพร้อมไข่ดาว ถือเป็นเมนูยอดนิยมของชาวต่างชาติที่มาประเทศไทยจะต้องสั่งเมนูนี้

เชฟอั๋น หรือ นายไก่ ดีจันทึก อดีตเอ็กเซกคิวทีฟเชฟโรงแรมระดับ 4 ดาวที่มีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ เล่าให้ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ฟังว่า คนไทยมักมองว่า ผัดกะเพรา เป็นเมนูสิ้นคิด แต่ชาวต่างประเทศยกย่อง เพราะเป็นเมนูที่ทำง่าย ถูกปากคนทั่วโลก ตัวอย่างเช่นตอนผมไปเป็นเชฟที่มาเลเซีย ผัดกะเพรา เป็นอาหารที่มีคนมาสั่งมากที่สุด ส่วนรองลงมาเป็นเมนูข้าวผัดแบบไทย

...

ในต่างประเทศผัดกะเพราไก่และเนื้อได้รับความนิยมมากสุด วัตถุดิบที่ทำต้องเป็นไก่สับ โดยเนื้อไก่จะดูดซับน้ำ ทำให้มีรสชาติซึมเข้าไปในเนื้อเวลาตักเข้าปาก มีกลิ่นหอมจากใบกะเพรา ขณะเดียวกันก็มีการผสมผสานได้กับหลายวัตถุดิบ แม้ว่า ผัดกะเพรา จะไม่ใช่อาหารไทยแท้ แต่ถือเป็นเมนูที่ได้รับความนิยม

การทำผัดกะเพราแม้จะทำง่าย แต่ทำให้อร่อยนั้นยาก เพราะส่วนผสมในผัดกะเพราที่ใส่กระเทียม บางคนใส่แบบสับ หรือโขลกให้ละเอียด แต่แม่ครัวไทยเชื่อว่าการโขลกตำกระเทียมเป็นวิธีที่ดีที่สุด เคล็ดลับของแม่ครัวไทยสมัยโบราณจะผสมดอกกะเพราลงไปโขลกด้วย หรือแม่ครัวบางคนก็หั่นใบมะกรูดลงไปในผัดกะเพรา ทำให้เมนูนี้แตกแขนงตามสูตรเฉพาะตัว

เมนูผัดกะเพรา หลายคนยังถกเถียงกันว่าถ้าใส่แค่เนื้อและพริก ถือเป็นผัดกะเพราแท้แบบดั้งเดิม แต่บางคนก็บอกว่าอยากกินผัดกะเพรา ใส่เห็ดฟางและถั่วฝักยาว ดังนั้น เมนูผัดกะเพรา จึงไม่มีสูตรตายตัว เพราะอาหารไม่มีการยึดติด ความอร่อยขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของคนกิน”

ส่วนของพริกที่ผสมในผัดกะเพรา สมัยก่อนจะใช้พริกแห้ง หรือพริกสด แต่ไม่ใส่ซีอิ๊ว หรือพริกเผา เหมือนกับตอนนี้ สิ่งสำคัญของเมนูนี้คือ การผัดด้วยน้ำมัน และเติมน้ำลงไปขลุกขลิกก่อนผัดเสร็จ ถึงจะเรียกว่า เป็นการผสมผสานระหว่างการทอดและการต้มในกระทะเดียว

สีสันของผัดกะเพราขึ้นอยู่กับพริกที่ใส่ สมัยก่อนจะใส่พริกสีแดงก็แดงทั้งหมด หรือถ้าพริกสีเขียวก็เขียวทั้งหมด ส่วนความเข้มของเนื้อหมูขึ้นอยู่กับการผัดว่าใช้เวลานานแค่ไหน แต่เด็ดสุดคือน้ำมันที่ออกมาจากเนื้อสัตว์ เมื่อผัดแล้วจะให้ความเผ็ดร้อนไปพร้อมกับกลิ่นของใบกะเพรา

ผัดกะเพรา ไม่ใช่เมนูสิ้นคิด แต่เป็นเมนูที่หากินแล้วอร่อยยาก ยิ่งตอนนี้มีซอสที่ให้ใส่มาก เลยทำให้รสชาติและกลิ่นของเมนูนี้ผิดเพี้ยนไปก็มี ดังนั้นผัดกะเพราที่ดีที่สุดต้องเป็นการผัดด้วยวัตถุดิบที่สดใหม่ จึงถือเป็นเมนูที่ดีที่สุด โดยรสชาติต้องตามใจผู้ทาน อย่าไปยึดติด เพราะสูตรคือไม่มีสูตร แต่ควรทำรสชาติตามใจผู้ทานเป็นหลัก”

น่าสนใจว่า ผัดกะเพรา สามารถนำไปประยุกต์กับเมนูอื่นในต่างประเทศได้ เช่น ไข่ตุ๋น ที่แซมด้วยผัดกะเพรา หรือสปาเกตตีผัดกะเพรา ก็ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ

ดังนั้นด้วยความที่เมนูนี้สามารถดัดแปลงให้เข้ากับเมนูอื่นได้ง่าย จึงได้รับความนิยม และได้รับความชื่นชมจากชาวต่างชาติ ทั้งที่คนไทยบางคนมองว่า ผัดกะเพรา เป็นเมนูสิ้นคิด.