เหตุสลดพ่อใช้มีดทำร้ายลูกและภรรยา ในบ้านพักย่านสมุทรปราการ เมื่อตี 1 วันที่ 28 ส.ค. ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตทันที 3 ราย เหตุจากเป็นหนี้สินค้ำประกันเงินกู้ และภรรยาถูกแอปฯ เงินกู้หลอกโอนเงิน 1.7 ล้านบาท ทำให้ผู้ก่อเหตุที่เป็นพ่อ เกิดความเครียด จนก่อเหตุฆ่าตัวตายตาม แต่อาการยังสาหัส เบื้องต้น ตำรวจได้ตั้งชุดสอบสวนติดตามแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้ว

กลางดึกวันที่ 28 ส.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.บางแก้ว สอบสวนบ้านทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น โดยชั้นล่างพบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นแม่ลูกคือ เด็กชายอายุ 11 ปี กับ แม่ อายุ 41 ปี

ส่วนห้องนอนชั้น 2 พบเด็กชาย อายุประมาณ 13 ปี ผู้เสียชีวิตทั้งหมดมีบาดแผลถูกทำร้ายด้วยมีดจากผู้เป็นบิดา และใกล้กันพบร่างผู้ก่อเหตุ อายุ 41 ปี ที่พยายามปลิดชีวิตตัวเองตาม จึงได้นำส่งโรงพยาบาลอาการยังสาหัส โดยมีรายงานว่า ก่อนเกิดเหตุภรรยาที่เสียชีวิต ได้เข้ามาแจ้งความกับตำรวจ กรณีถูกหลอกโอนเงินจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประกอบกับบ้านที่อยู่อาศัยกำลังจะถูกยึดด้วยปัญหาหนี้สิน

ทีมข่าวเจาะประเด็นสอบถามไปยัง พ.ต.ท.รังสรรค์ คำสุข รักษาราชการแทนผกก.สภ.บางแก้ว กล่าวถึงความคืบหน้าว่า ขณะนี้ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นพ่อมีการประสานเพื่อไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น เนื่องจากโรงพยาบบาลที่รักษาอยู่ตอนนี้มีเครื่องมือไม่เพียงพอ ส่วนเรื่องอื่นตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี

...

ส่วนคดีคอลเซ็นเตอร์ ที่โทรมาลวงผู้ตายที่เป็นภรรยา และเข้ามาแจ้งความไว้ก่อนหน้านั้น จะทำการแยกเป็นอีกคดี ซึ่งเบื้องต้นพบว่าแก๊งคนร้ายมีการเข้าไปเปิดเพจในเฟซบุ๊ก เมื่อเหยื่อหลงกลจะหลอกให้เหยื่อโอนเงินไปยังบัญชีปลายทาง ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายจับคนร้าย

“พฤติกรรมแก๊งนี้ เปิดเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่าจะให้กู้เงิน เมื่อเหยื่อโทรไปจะใช้อุบายเพื่อหลอกให้โอนเงินไปก่อน เป็นค่าดำเนินการ เมื่อโอนไปมากขึ้น เหยื่อก็อยากจะได้เงินคืน ซึ่งคนร้ายได้ถามเหยื่อว่ามีเงินอยู่อีกเท่าไร ให้โอนมาให้หมด ถ้าโอนมาหมดแล้ว จะโอนเงินคืนให้ แต่สุดท้ายเหยื่อไม่ได้รับเงินคืน”

ขณะเดียวกัน ช่วงเช้าวันนี้ (28 ส.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก งานอนามัย โรงเรียนบางแก้วประชาสรรค์ ได้โพสต์ภาพแสดงความเสียใจกับนักเรียนโรงเรียนบางแก้วประชาสรรค์ เด็กชายผู้เสียชีวิตจากการก่อเหตุสลดของบิดา ระบุว่า เนื่องด้วยครอบครัวผู้ตายไม่มีเงินในการประกอบพิธีฌาปนกิจศพ จึงเรียนขอรับบริจาค ทั้งนี้ ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยังครูที่โรงเรียน ได้รับการยืนยันว่าเป็นความจริง เนื่องจากทางญาติที่ จ.กำแพงเพชร ไม่สามารถขึ้นมาประกอบพิธีในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เพราะมีงานศพญาติอีกรายในพื้นที่ ตอนแรกคาดว่า จะนำทั้ง 3 ศพมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดหนามแดง จ.สมุทรปราการ

ทีมข่าวจึงได้สอบถามไปยัง พระครูวิทูรกิจจาทร (พระครูจาบ) รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหนามแดง ยืนยันว่า ขณะนี้กำลังเดินทางไปรับทั้ง 3 ศพ ที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ และได้รับการยืนยันกับญาติว่า จะนำร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดกลับไปฌาปนกิจที่ จ.กำแพงเพชร

เมื่อเป็นข่าวออกไปว่า ทั้ง 3 ศพ ไม่มีเงินฌาปนกิจ จนต้องขอรับบริจาค ทางวัดหนามแดง ที่เบื้องต้นครูมีการประสานว่าจะนำมาที่วัด ได้นำโลงศพ 3 โลง ที่มีผู้บริจาคให้ นำไปใส่ร่างของทั้ง 3 คน แบบไม่มีค่าใช้จ่าย และนำรถตู้ขนย้ายร่างไปยังกำแพงเพชร โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

“ทั้ง 3 ร่าง จะขนย้ายด้วยรถตู้ไปพร้อมกันในคันเดียว อาตมาจะเป็นผู้นำร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดไปบำเพ็ญกุศลที่วัดใน จ.กำแพงเพชร และประสานกับครูโรงเรียนบางแก้วประชาสรรค์ นำเงินที่มีผู้มีจิตศรัทธาทำบุญ มอบให้กับญาติ เพื่อนำส่งดวงวิญญาณของแม่และลูกทั้ง 3 สู่ภพภูมิที่ดี” พระครูวิทูรกิจจาทร กล่าวขณะเตรียมขนย้ายร่างไปยัง จ.กำแพงเพชร

ขณะที่รายงานล่าสุด ทางญาติของผู้เสียชีวิตอีกฝ่ายไม่ยอมให้นำร่างไปฌาปนกิจที่กำแพงเพชร แต่จะไว้ที่วัดหนามแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างตกลงกันของญาติทั้งสองฝ่าย. 

...