การเมืองไทยต้องติดตามแบบวันต่อวัน ทุกอย่างพลิกได้ตลอด ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย มีโอกาสที่จะเขี่ยพรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน เพราะพรรคการเมืองทั้งหลายในฝั่งขั้วอำนาจเดิม ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ”มีก้าวไกล ไม่มีเรา” ประกาศเงื่อนไขให้พรรคเพื่อไทยต้องเลือก เป็นการฉีกเอ็มโอยู 8 พรรคร่วมรัฐบาลเสียงข้างมาก ไปตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ฉบับ ”มีลุง มีเรา”

ก่อนที่จะมีข่าวลือสะพัดว่า ”ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า บินไปฮ่องกงเมื่อวันที่ 24 ก.ค. พบกับทักษิณ ชินวัตร เพื่อคุยเงื่อนไขจัดตั้งรัฐบาล ก่อนบินกลับในวันที่ 25 ก.ค. ซึ่งการหารือดีลลับฮ่องกง มีรายงานข่าวว่าทางพรรคก้าวไกล ยอมถอยไปเป็นฝ่ายค้าน แต่การจัดตั้งรัฐบาลจะต้องไม่มีพรรครวมไทยสร้างชาติ และพลังประชารัฐ กลายเป็นอีกสูตรจัดตั้งรัฐบาล ”ไม่มีก้าวไกล ไม่มีลุง” สุดท้ายจะลงตัวหรือไม่ต้องติดตาม

ดีลลับฮ่องกงช้าไปแล้ว ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านแน่นอน

หรือข่าวลือจะมาก่อนกาลและในที่สุดก็เป็นจริง “รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย” อาจารย์รัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มองว่า มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่วันนี้พรรคก้าวไกลต้องคุยกับทักษิณ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วโอกาสจัดตั้งรัฐบาล ก็จะริบหรี่ ในการมีส่วนร่วมในรัฐบาลหรือไม่ และคาดว่าการพูดคุยระหว่างธนาธรกับทักษิณ ยังมีประเด็นอย่างอื่น หรือเป็นเรื่องนโยบายของพรรคก้าวไกลว่าจะอยู่ในลักษณะใด หากจะร่วมรัฐบาลกับพรรคอื่น จะมีประเด็นอะไรต้องปรับ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับทักษิณกลับบ้าน เพราะเป็นปัจจัยหลักในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ และจากผลการเลือกตั้งต้องฟังเจตจำนงของประชาชน

...

อย่างที่เคยบอกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วางมือทางการเมือง เพราะมีนายกรัฐมนตรีในดวงใจแล้ว แสดงว่าก่อนหน้านี้มีการพุดคุยกัน มีเรื่องทักษิณกลับบ้าน และการเมืองแบบมวลชน ก็มีส่วนจะเกิดแรงต้านหรือไม่ แต่ท้ายสุดพรรคก้าวไกล ก็ไม่ได้เปรียบ เพราะช้าไปแล้ว ไม่มีประโยชน์ในการไปคุยกับทักษิณ อีกทั้งพรรคขั้วอำนาจเดิมก็ไม่ขอร่วมกับพรรคก้าวไกล

“ภูมิใจไทย มีแนวทางไม่เอาก้าวไกล ไม่ใช่แค่มาตรา 112 แต่เพราะเข้ากันไม่ได้ แนวทางการทำงานคนละแบบ และเชื่อว่าธนาธรไปคุยกับทักษิณจริง อาจไม่ทำให้ก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลก็ได้ จากมติ 19 ก.ค. ห้ามโหวตนายกฯ ซ้ำ ก็จบแล้ว มองว่า 90% ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านแน่นอน และการที่ธนาธรไปพบทักษิณ อาจมีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่านี้ คงพยายามไปคุยแต่ไม่ได้ทำให้ก้าวไกลได้เปรียบ และการบอกว่าไปอวยพรวันเกิดทักษิณ แต่ทำไมปีที่ผ่านมาไม่ไปอวยพร”

ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญอาจจะเคาะอีกว่ารับหรือไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ปมมติรัฐสภาห้ามเสนอชื่อโหวตนายกฯ ซ้ำได้หรือไม่ แต่อาจไม่รับคำร้องเพราะผู้ร้องไม่ใช่ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง หรืออาจมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ขณะที่หลักการได้รับคืนมาอาจกลับสู่สภาพเดิม คาดว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมาตอนที่ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ อีกทั้งจะมีการพิจารณายุบพรรคก้าวไกลและการตีความอำนาจหน้าที่สว. กรณีรักษาการจะสามารถโหวตนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่

กลางส.ค.การเมืองได้ข้อยุติ หลังทักษิณกลับบ้าน

เกมการเมืองต่อไปนี้ต้องจับตาในช่วงวันหยุดยาว 5 วันจะเกิดอะไรขึ้นอีกมากมาย หรือมีประเด็นเพิ่มเติมอย่างไรไม่ให้มีม็อบหรือแรงเสียดทาน และคงยังไม่เรียบร้อยจะต้องรอทักษิณกลับบ้าน ซึ่งหลังวันที่ 10 ส.ค. หรือกลางเดือนส.ค.เป็นต้นไปน่าจะชัดเจน ทั้งการได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ และการจัดตั้งรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะมีข้อยุติเพราะไม่เช่นนั้นทักษิณคงไม่กลับบ้าน

“อย่างไรแล้ววันที่ 10 ส.ค.นี้ ทักษิณจะกลับบ้านหรือไม่ยัง 50:50 เพราะสถานการณ์พลิกได้ตลอดเวลา และการที่ทักษิณกลับบ้าน ได้ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือน ซึ่งฝ่ายอนุรักษนิยมกับทักษิณจะต้องพึ่งพากัน ต้องหาวิธีทำอย่างไรให้ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ไม่ให้เกิดแรงเสียดทาน”

สูตรรัฐบาล ”ไม่มีก้าวไกล ไม่มีลุง” ทางออกประเทศ

จากกระแสข่าวว่าธนาธรได้ยื่นข้อเสนอสูตรจัดตั้งรัฐบาล” ไม่มีก้าวไกล ไม่มีลุง” ให้กับทักษิณ โดยพรรคก้าวไกล ยอมเสียสละไปเป็นฝ่ายค้าน มีพรรค 2 ลุง และพรรคเล็กอื่นๆ รวม 239 เสียง ขณะที่รัฐบาลมี 261 เสียง มองว่าเป็นทางออกที่น่าสนใจ เพราะไม่มีพรรครวมไทยสร้างชาติและพลังประชารัฐ ร่วมรัฐบาล เป็นหนึ่งในสูตรที่เคยวิเคราะห์ แตกต่างตรงที่ไม่มีพรรคชาติพัฒนากล้า แต่มีพรรคไทยสร้างไทย เข้าร่วมรัฐบาล รวมแล้วได้ 265 เสียง หากเป็นสูตรรัฐบาล 261 เสียง ก็ดี เพราะไม่มีเงื่อนไข ”2 ลุง” แต่จะเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ต้องอาศัยเสียง สว. และ สส. โหวตนายกรัฐมนตรี อีกประมาณ 100 กว่าเสียง หรือถ้าพรรคก้าวไกล โหวตให้ ก็ปิดสวิตช์ สว. ได้เลย

...

สูตรรัฐบาล ”ไม่มีก้าวไกล ไม่มีลุง” 261 เสียง เป็นเสียงค่อนข้างปริ่มน้ำ ถ้าบริหารจัดการได้ก็ไม่มีปัญหา แต่รู้สึกงงว่าทำไมธนาธรไปคุยกับทักษิณ เพื่อขอเป็นฝ่ายค้านหรือ คาดว่าต้องมีอะไรลึกๆ มากกว่านี้ ไม่ใช่แค่คุยเรื่องเป็นฝ่ายค้าน อาจคุยกันไม่ลงตัว จึงออกมาปล่อยสูตรจัดตั้งรัฐบาลสูตรนี้ในการขอเป็นฝ่ายค้าน และพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีลุง เพราะพรรคก้าวไกลอาจไม่ได้ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ทั้งที่ความเป็นจริงอย่าลืมว่าพรรคก้าวไกล ก็มีเป้าหมายเป็นรัฐบาลเช่นกัน

“พรรค 2 ลุง อาจเป็นฝ่ายค้านแบบไม่สมัครใจ อีกทั้งเพื่อไทย เคยประกาศไม่เอาประชาธิปัตย์ จะอยู่ร่วมรัฐบาลได้อย่างไร แต่ก็เป็นทางออกที่ดีในการจัดตั้งรัฐบาล คงต้องคุยกับประชาธิปัตย์ เพราะสูตรนี้เป็นสูตรที่ดีที่สุดแล้ว ในการหาทางออกให้กับประเทศ คงต้องติดตามหน้าตารัฐบาลชุดใหม่จะเป็นอย่างไรต่อไป”.