เด็กหลอดแก้ว บริการด้านการแพทย์ที่ชาวจีน เดินทางมาใช้บริการในไทยจำนวนมาก ล่าสุดมีการแชร์ข้อมูลบนโซเชียลจีน ระบุถึงบริการพิเศษ 7 เรื่อง โดยหนึ่งในนั้นมีการให้บริการเด็กหลอดแก้ว สำหรับคู่รักชาวจีน กรณีนี้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้กำชับคลินิกและโรงพยาบาลทั้ง 104 แห่ง ที่ได้ใบอนุญาต เพื่อไม่ให้เกิดการอุ้มบุญ หรือนำเด็กหลอดแก้ว ไปซื้อขายอวัยวะ ของขบวนการ “อะไหล่มนุษย์”
“ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ” รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ให้ข้อมูลกับ “ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์” ถึงการเข้ามาทำเด็กหลอดแก้วในไทยของชาวจีนว่า มีสามีภรรยาชาวจีนมาทำเด็กหลอดแก้วที่ไทยจำนวนมาก โดยจะต้องมีการผสมกันระหว่างน้ำเชื้อฝ่ายชายและไข่ของฝ่ายหญิง แล้วแพทย์ทำการฝังตัวอ่อนไปในโพรงมดลูก ที่ช่วยทำให้เกิดการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ โดยแพทย์ที่ทำต้องมีการตรวจสอบว่าชาวจีนที่มา เป็นสามีภรรยากันจริงหรือไม่
“ตามกฎหมายไทยยังไม่มีข้อห้ามในการที่ชาวจีนเดินทางมาใช้บริการ แต่มีข้อห้ามบางอย่างที่ระบุไว้ตามกฎหมาย โดยผู้อื่นไม่สามารถตั้งครรภ์แทนได้ และผู้ที่ทำไม่สามารถระบุเพศของเด็กที่เกิดจากเทคโนโลยีนี้ได้ หากแพทย์มีการกระทำผิดมีโทษทางจรรยาบรรณ ส่วนราคาการให้บริการ ในสถานพยาบาลเอกชนอยู่ที่ 3 - 5 แสนบาท ถ้าเป็นโรงพยาบาลรัฐ อยู่ที่คอร์สละ 1 แสนบาท”
ประเด็นที่มีการระบุในโลกโซเชียลถึงการทำเด็กหลอดแก้ว แบบกลุ่มวีไอพี ทางหน่วยงานมีการจับตากรณีที่มีการตั้งครรภ์แทนเป็นพิเศษ โดยจะมีคณะกรรมการคุ้มครองเด็ก ที่เกิดโดยเทคโนโลยีเด็กหลอดแก้ว ดังนั้นการพิจารณาในการตั้งครรภ์แทนในแต่ละราย มีขั้นตอนการพิจารณาค่อนข้างละเอียด เชื่อมั่นได้ว่ากลุ่มชาวจีน ที่อ้างว่าเป็นกลุ่มวีไอพี ที่จะมาทำเด็กหลอดแก้ว โดยให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่สามีภรรยา มาตั้งครรภ์แทน จะเป็นเรื่องที่ยาก
...
กรณีเด็กที่มีความผิดปกติด้านร่างกาย จากการทำเด็กหลอดแก้ว มีข้อกฎหมายกำหนดให้สามีภรรยาต้องรับผิดชอบในตัวเด็ก ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบ จนทำให้เป็นภาระกับสังคมไทยได้
ขณะนี้มีคลินิกและโรงพยาบาล ที่ผ่านการรับรองให้ดำเนินการทำเด็กหลอดแก้วได้ทั่วประเทศ 104 แห่ง โดยมีกฎข้อบังคับให้มีการรายงานทุก 6 เดือน หากมีการไปทำในสถานบริการที่ไม่ได้รับอนุญาต มีโทษความผิดทางกฎหมาย
ที่ผ่านมาเคยมีบางกรณีที่ชาวต่างชาติ มาใช้ไทยเป็นฐานผลิตเด็กหลอดแก้ว เพื่อนำอวัยวะไปขายหรือสำรองไว้ใช้ทดแทนเป็นการส่วนตัว โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ที่เรียกว่า “อะไหล่มนุษย์” เพราะเด็กที่เกิดมามีเซลล์ใกล้เคียง หากเลือดขาดหรือไตเสีย สามารถนำอวัยวะของเด็กทดแทนได้ บางรายมีการว่าจ้างหญิงไทยตั้งครรภ์แทน แล้วจ้างให้เลี้ยงต่อไปจนอายุครบ 8 ขวบ ถึงจะนำเด็กกลับไปยังเป็นประเทศของตน
“ในตลาดมืดไต 1 ข้างมีมูลค่า 3 - 5 ล้านบาท จึงมีขบวนการต่างชาติ ที่ค้าอวัยวะ และใช้ไทยเป็นฐานการผลิตคนที่เป็นอะไหล่มนุษย์ ซึ่งการลงโทษผู้ที่กระทำผิดในขบวนการนี้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท โดยความผิดจะรวมถึงผู้ที่มีส่วนรู้เห็นด้วย ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องพยายามกวดขัน ไม่ให้เกิดขบวนการเหล่านี้ขึ้นในไทย แต่ถ้าประชาชนพบเบาะแส สามารถโทรฯ แจ้งมาที่สายด่วน 1426”
“พล.อ.ต นพ.อิทธพร คณะเจริญ” เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า การให้บริการทางการแพทย์ เด็กหลอดแก้วที่ผ่านมาแพทย์ที่ทำต้องมีความรู้ และใช้เครื่องมือระดับสูง แต่สิ่งที่เป็นห่วงกรณีชาวจีนเข้ามาทำจำนวนมากคือ อาจมีสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน และทำกับบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต ขณะเดียวกันแพทย์ต้องมีการตรวจสอบเอกสารชาวจีนอย่างละเอียด ให้สอดคล้องกับข้อกฎหมาย
หากมีบุคลากรทางการแพทย์เข้าข่ายการกระทำผิด จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน พิจารณาการลงโทษเป็นรายกรณี โดยต้องทำงานร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จึงอยากเตือนให้แพทย์ใช้ความระมัดระวัง เพราะบางกรณีอาจมีการทำเป็นขบวนการ โดยนำเอกสารปลอมมายืนยันกับแพทย์ได้.