ขอย้ำอีกครั้งธุรกิจลงทุนน้อยให้ผลตอบแทนสูงในเวลาอันรวดเร็ว แบบรวยทางลัดราวกับธุรกิจมหัศจรรย์ไม่มีอยู่จริง หากมีใครมาเชิญชวนกระตุ้นความอยาก สะกิดต่อมความโลภให้ร่วมขบวนความร่ำรวย ผ่านหลายช่องทาง

โดยเฉพาะการสร้างกระแสในโลกโซเชียลมีการเล่าเรื่องราวถึงความยากจนข้นแค้นแทบไม่มีข้าวกิน กัดฟันสู้ชีวิตในอดีต จนประสบความสำเร็จเป็นเศรษฐีอายุน้อย 100 ล้าน มีการถ่ายรูปคู่กับเงินปึกใหญ่ๆ โชว์ให้เห็นการใช้ชีวิตหรูหราดั่งกับในนิยาย มีรถสปอร์ตสุดหรูขับ และถ่ายรูปคู่กับคนดังอย่างสนิทสนม ขอให้พึงตระหนัก อย่าเอาเงินก้อนโตมาแลกกับความเสี่ยง

อย่างเรื่องของหญิงสาวรายหนึ่งกำลังเป็นกระแส ถูกตั้งข้อสงสัยถึงความร่ำรวยผิดปกติ และมีการเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ หลังออกมาเชิญชวนลงทุน อ้างว่าเพียงแค่ 3 เดือนได้เงินหลักสิบล้าน จนตกเป็นผู้ต้องหาฐานความผิดโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

...

การหลอกลวงคนให้มาลงทุน ในลักษณะการสร้างสตอรี่เรื่องราวเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ มีให้เห็นอย่างต่อเนื่องไม่จบสิ้นในสังคมไทย ทำให้ “รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล” ผู้ช่วยอธิการบดีและประธานกรรมการ คณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต ต้องออกมาเตือนสติคนไทยด้วยความเป็นห่วง และเท่าที่สังเกตพบว่า มีการหลอกลวงโดยอาศัยความน่าเชื่อถือ แสดงให้เห็นสถานภาพทางสังคมด้วยการสร้างเรื่องราว เพราะคนส่วนใหญ่ต้องการทำงานน้อย แต่ได้เงินเยอะๆ ให้เหมือนกับคนที่ออกมาชักชวนให้ลงทุน จากคนที่เคยสิ้นเนื้อประดาตัว แต่สามารถฟื้นขึ้นมาได้

“อยากให้คนไทยมีสติและให้ใช้ปัญญา ซึ่งก็เข้าใจว่าอยากรวย ตามรูปแบบวิธีการที่ออกมาเชื้อเชิญให้ลงทุน ด้วยเพราะปัจจุบันผู้คนในสังคมมีคุณธรรมน้อยลง จนทำให้บางคนต้องไปกู้เงินมาลงทุน จะต้องมีสติให้มากขึ้น คอยติดตามข้อมูลที่เผยแพร่ออกมา เพราะคนดีจะไม่ทำอย่างนี้ในการหลอกลวงคน”

ตามทฤษฎีอาชญาวิทยาเรียกคนพวกนี้ว่า “คอปกขาว” เช่น หลอกลวงลงทุนแชร์ลูกโซ่ เทรดค่าเงิน หรือลงทุนสกุลเงินดิจิทัล โดยคนมีความรู้ มีสถานภาพน่าเชื่อถือในสังคม มาหลอกลวงคนไทยด้วยกันเองเป็นหลักร้อยหลายพัน ซึ่งแตกต่างกับโจรข้างถนน หรือ Street Thief มีการวิ่งราวชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ และบางคนเมื่อมีความรู้มากขึ้น จะมีการเรียนรู้นำวิธีการมาก่อเหตุ เป็นพฤติกรรมเลียนแบบ และพฤติกรรมการหลอกลวงคนให้มาลงทุน จะไม่หายไปจากสังคม ตราบใดที่มนุษย์ยังมีความโลภ และไม่มีคุณธรรม

เป็นสิ่งที่น่าห่วงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หากสังคมไม่เน้นในเรื่องความดีงาม เน้นแต่ความร่ำรวย ซึ่งบางคนทำได้จริง แต่หลายคนไม่สามารถไปได้ และยอมรับความร่ำรวย ความหรูหรา จนทำให้เกิดความหลงใหลอยากจะร่ำรวยตาม และกรณีล่าสุดเป็นการหลอกคนทั่วไปให้ลงทุน เพราะไม่สามารถชี้แจงและตอบได้ในการลงทุนให้ได้ 15 ล้านบาท ภายในเวลาเพียง 3 เดือน

“ในเรื่องกำไรผลประกอบการในช่วง 5 ปี ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท หากสามารถทำได้จริง 15 ล้านบาทใน 3 เดือน ก็ควรทำเองจะดีกว่า ไม่ต้องชักชวนใครมาลงทุน และอาศัยการสร้างเรื่องราวเคยสิ้นเนื้อประดาตัวมาก่อน และสร้างสตอรี่ถ่ายรูปกับรถหรู อยากให้คนไทยใช้ปัญญาใช้สติให้มากๆ ในการพิจารณา อีกทั้งในช่วง 2-3 ปี ต้องยอมรับโควิด ทำให้คนมีปัญหาเศรษฐกิจ เป็นสิ่งที่น่ากังวลมากๆ และยังไปหลอกลวงคนให้ลงทุน จนหมดเนื้อหมดตัว ถูกซ้ำเติมผีซ้ำด้ำพลอย”