วานนี้ (9 ม.ค. 66) นักท่องเที่ยวจีน กลุ่มแรกๆ ทยอยเดินทางถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึง 3,465 คน จาก 15 เที่ยวบิน! ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้ คงทยอยกันมาเรื่อยๆ ตามมุดหมายที่ชาวจีนตั้งใจไว้ เนื่องจากประเทศไทยเองก็เป็น 1 ใน 5 ประเทศ ที่นักเดินทางชาวจีนอยากมาหาประสบการณ์ท่องเที่ยว

เมื่อเขาอยากมา ถามว่า "เรา" พร้อมแค่ไหน...? เรื่องนี้ "ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์" ได้พูดคุยกับ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จีนเปิดประเทศเร็วกว่าที่คิด ทีแรกคาดว่า จีนจะเปิดประเทศในช่วงปลายเดือนมีนาคม แต่ปรากฏว่า เปิดตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 66

ความพร้อมด้านการเดินทาง บก-อากาศ 

นายยุทธศักดิ์ กล่าวถึงความพร้อมด้านอากาศยาน ว่า ตอนนี้ไฟลต์บินยังไม่มาก ปัจจุบัน มีเพียง 15 เที่ยว/สัปดาห์ เทียบกับอดีตปี 2562 ตอนนั้นมากกว่า 400 เที่ยว/สัปดาห์ ส่วนเวลาข้างหน้านี้จะมีมากน้อยแค่ไหน คงต้องตรวจสอบ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ส่วนสล็อตบินในช่วงฤดูร้อน (เริ่มเมษายน) ทางแอร์ไลน์จีนขอคืนไปทั้งหมดแล้ว ส่วนขอคืนไปขนาดไหนคงต้องถามทาง สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (มีรายงานเบื้องต้น 15 สายการบินจีนยื่นเรื่องขอมาแล้ว)

...

“เท่าที่ทราบในเวลานี้ หากสนามบินไม่พร้อม ก็จะมีการกระจายไปยังสนามบินอื่นๆ นอกจากสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งก็ถือว่าดี เรียกว่ากระจายไปยังต่างจังหวัด ไม่กระจุกตัวอยู่แต่ในกรุงเทพฯ”

ผู้ว่า ททท. กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ได้ โดยเท่าที่ทราบจากสำนักงานคุนหมิง คือ สามารถใช้รถยนต์ขับเข้าประเทศไทยได้ผ่านด่านเชียงแสน จ.เชียงราย ส่วนรถไฟความเร็วสูง ตอนนี้ยังไม่ได้รับอนุญาต

“ถามว่าพร้อมไหม...ในการรองรับนักท่องเที่ยว ถ้าการคาดการณ์จำนวนไม่เยอะ แบบที่เป็นอยู่นี้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่คงต้องรอรายงานภายใน 1-2 เดือนนี้ น่าจะรู้ว่านักท่องเที่ยวชาวจีนจะกลับมามากน้อยแค่ไหน..ถือว่ายังมีเวลาเตรียมตัว”

ผู้ว่า ททท. มั่นใจว่าไม่น่าจะมีประเด็น แม้จะมีหลายๆ โรงแรมต้องปิดตัวลงในช่วงการระบาดโควิด แต่..ช่วงโควิดคลี่คลาย โรงแรมหลายแห่งก็กลับมาเปิด และเมื่อจีนกลับมา หลายๆ โรงแรมก็พยายามกลับมาเปิดอีกครั้ง ที่ผ่านมา เราเคยรับนักท่องเที่ยวกว่า 40 ล้านคนมาแล้ว ตอนนี้คาดว่า จะกลับมาเต็มที่ก็ 10 ล้าน ยังไงก็มีความมั่นใจว่าจะรับมือไหว

เมื่อถามว่า ตัวเลขอัตราการจองเต็มหรือยัง นายยุทธศักดิ์ ยอมรับว่า เวลานี้ยังดูยาก เพราะเขาเพิ่งเปิดประเทศ แต่เท่าที่ทราบ ขณะนี้โรงแรมในสถานที่ท่องเที่ยว ก็เกือบเต็ม ประมาณ 80% แล้ว เหลืออีกสัก 20% การมาของจีนในจังหวะนี้ ถือเป็นช่วงที่ดี เพราะกำลังจะหมดฤดูไฮซีซันจากฝั่งยุโรปพอดี ก็อาจจะได้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามา

จีนเข้มกลับประเทศ สาเหตุต้องซื้อประกัน 

เมื่อถามถึงมาตรการด้านสาธารณสุข นายยุทธศักดิ์ ยืนยันว่า หลักการที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ให้ไว้ เราก็ดำเนินมาตามนั้น โดยค่อยๆ เปิดประเทศ โดยยึดหลักการป้องกัน ให้ประชาชนคนไทยมีสุขภาพดี ไม่ให้โควิดระบาดซ้ำ ซึ่งการจะพิจารณาอะไร ก็ต้องดูข้อมูล ข้อเท็จจริง “ไม่เลือกปฏิบัติ”

เราจะมาห้ามนักท่องเที่ยวจีน ทำอย่างนั้น อย่างนี้... โดยไม่เชื่อข้อมูล เราคงทำแบบนั้นไม่ได้ สิ่งที่เราต้องทำ คือ การทำงานบนข้อมูลพื้นฐานวิชาการ ที่ ก.สาธารณสุข ที่คณะหมอที่เชี่ยวชาญคอยวิเคราะห์ ซึ่งหมอแต่ละคนล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ โดยเฉพาะข้อมูลด้าน “วัคซีน” ที่มีการยืนยันแล้วว่า แม้จะไม่ได้ป้องกันในการติด แต่ลดความรุนแรงของโรคได้ และปัจจุบันสายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ในเวลานี้ก็ยังเป็นสายพันธุ์โอมิครอน ที่มีความรุนแรงไม่มาก เมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ “เดลตา”

...

“ฉะนั้น จึงต้องให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน ตามการปฏิบัติแบบสากล แบบเดียวกับประเทศอื่นๆ ที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย แต่...สิ่งที่ต้องดู คือ “เงื่อนไข” ของประเทศที่จะมาเที่ยว เพราะบางประเทศ กำหนดว่า “ต้องตรวจ” ก่อนกลับ เพราะแบบนี้เอง จึงต้องมีมาตรการรองรับ เพื่อไม่เป็น “ภาระ” ด้านงบประมาณของไทย”

ผู้ว่า ททท. ยกตัวอย่างประเทศจีน ระบุว่า รัฐบาลจีนบอกว่าต้องตรวจก่อนกลับ 48 ชั่วโมง ถ้าพบว่า ติดโควิด จะติดในไทย หรือก่อนมา ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการรักษาตัว

ขั้นตอนนี้ ภาคเอกชน รู้สึกเป็นห่วง นายยุทธศักดิ์ อธิบายว่า ถือเป็นความรับผิดชอบของนักท่องเที่ยวเอง เพราะก่อนเข้าประเทศ เรามีข้อกำหนดให้มีการซื้อประกันสุขภาพอยู่แล้ว ซึ่งแต่เดิมทางการจีนเขาระบุเลย ว่าต้องไปตรวจที่ไหน... แต่เวลานี้นักท่องเที่ยวจีน ที่เดินทางเข้าประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็น FIT (Free Independent Travelers) หรือเดินทางมาด้วยตัวเอง (ไม่ใช่กรุ๊ปทัวร์) เชื่อว่าน่าจะรับผิดชอบตัวเองได้ แต่...เราก็มองในมุมมองประเทศไทย แต่เอกชนก็มองอีกแบบ

ประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องบังคับ ยกตัวอย่าง “ฮ่องกง” ของเขาไม่มีมาตรการนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อประกัน

...

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า “เงื่อนไข” การซื้อประกันของเรา จะกำหนดตามเงื่อนไข “การกลับประเทศ” ซึ่งเอกชนก็ทราบเงื่อนไขนี้ดี โดยทำมาตั้งแต่ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ซึ่งตอนนั้นก็มีปัญหา เอกชนต้องรับผิดชอบ หาโรงแรมให้พัก เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ต้องเห็นใจประเทศไทย เพราะนโยบายนี้จำเป็นต้องใช้เพื่อไม่ให้กระทบระบบสาธารณสุขของเรา ควรจะเก็บไว้ให้คนไทย

หากเจอจริงๆ ก็ต้องไปในรูปแบบ SHA+ หรือ SHA Extra Plus (SHA++) โดยโรงแรมจะมีสัญญากับโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการ อาจจะมีการตรวจก่อน หรือตรวจที่สนามบิน ซึ่งก็ถือเป็นแนวทางปกติ ตามระบบสาธารณสุข

เมื่อถามว่าคาดหวังอย่างไรกับนักท่องเที่ยวจีน ผู้ว่า ททท. บอกว่า ตามที่ รมว.ท่องเที่ยว ได้คาดการณ์ไว้ ว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนกลับมาสัก 5 ล้านคน ถือเป็นครึ่งหนึ่งของช่วงพีกๆ ในปี 2562 ส่วนเม็ดเงิน น่าจะมีการใช้จ่ายต่อคน 50,000-60,000 บาท จำนวน 5 ล้านคน ก็น่าจะมีรายได้มากกว่า 2.5 แสนล้าน

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน 

อ่านบทความที่น่าสนใจ 

...