“คริสเตียโน โรนัลโด” (Cristiano Ronaldo) กลายเป็นมนุษย์ที่ได้รับค่าเหนื่อยมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลกฟุตบอลในทันที หลังลงลายมือชื่อลงในสัญญาที่มีมูลค่ามหาศาลถึง 172 ล้านปอนด์ต่อปี หรือ 3.3 ล้านปอนด์ต่อสัปดาห์ กับ "สโมสรอัลนาสเซอร์ (Al-Nassr)" จากการรายงานของ "AlEkhbariya" สำนักข่าวที่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย

ขณะที่ตามรายงานของ CBS Sports ระบุเพิ่มเติมว่า จำนวนเงิน 172 ล้านปอนด์ต่อปี จะแบ่งเป็นเงินค่าเหนื่อยในการค้าแข้งประมาณ 62 ล้านปอนด์ ส่วนจำนวนเงินที่เหลืออีก 110 ล้านปอนด์ จะเป็นรายได้ที่มาจาก “ส่วนแบ่งในสิทธิเครื่องหมายการค้าและส่วนแบ่งจากการทำข้อตกลงทางการค้าต่างๆ” รวมถึงการมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกในปี 2030 ของซาอุดีอาระเบียด้วย

...

ก่อนหน้าที่ CR7 จะได้รับค่าเหนื่อยที่สูงเป็นประวัติการณ์นี้ ตลอดเส้นทางอาชีพการค้าแข้ง “โรนัลโด” เริ่มต้นด้วยค่าเหนื่อยเท่าไร วันนี้ “เรา” ลองย้อนไปดูการก่อร่างสร้างตัวจนกลายเป็นอภิมหาเศรษฐีเจ้าของความมั่งคั่งสุทธิ 115 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2022 ตามการประเมินของ Forbes กันดู...

ปี 2002 : อายุ 18 ปี สังกัด สปอร์ติง ลิสบอน ได้รับค่าเหนื่อย 450 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (24,000 ปอนด์ต่อปี) สถิติการลงเล่นรวม 31 นัด ยิง 5 ประตู

ปี 2003 : อายุ 18 ปี ย้ายไปสังกัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับค่าเหนื่อย 35,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (1.8 ล้านปอนด์ต่อปี รายได้เพิ่มขึ้น 7,677%)

ปี 2007 : อายุ 22 ปี ต่อสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับค่าเหนื่อย 120,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (6.2 ล้านปอนด์ต่อปี รายได้เพิ่มขึ้น 242%) สถิติการลงเล่นรวม 292 นัด ยิง 118 ประตู

ปี 2009 : อายุ 24 ปี ย้ายไปสังกัด รีล มาดริด ได้รับค่าเหนื่อย 183,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (9.5 ล้านปอนด์ต่อปี รายได้เพิ่มขึ้น 52%)

ปี 2013 : อายุ 28 ปี ขยายสัญญากับ รีล มาดริด ได้รับค่าเหนื่อย 288,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (15 ล้านปอนด์ต่อปีหลังหักภาษี รายได้เพิ่มขึ้น 57%)

ปี 2016 : อายุ 31 ปี ขยายสัญญากับ รีล มาดริด ได้รับค่าเหนื่อย 365,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (20 ล้านปอนด์ต่อปีหลังหักภาษี รายได้เพิ่มขึ้น 27%) สถิติการลงเล่นรวม 438 นัด ยิง 450 ประตู

ปี 2018 : อายุ 33 ปี ย้ายไปสังกัด ยูเวนตุส ได้รับค่าเหนื่อย 500,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (26 ล้านปอนด์ต่อปี รายได้เพิ่มขึ้น 37%) สถิติการลงเล่นรวม 134 นัด ยิง 101 ประตู

ปี 2021 : อายุ 36 ปี ย้ายไปสังกัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับค่าเหนื่อย 480,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (25 ล้านปอนด์ต่อปี รายได้ลดลง 4%) สถิติการลงเล่นรวม 54 นัด ยิง 27 ประตู

ปี 2023 : อายุ 37 ปี ย้ายไปสังกัดอัลนาสเซอร์ 3.3 ล้านปอนด์ต่อสัปดาห์ (172 ล้านปอนด์ต่อปี รายได้ เพิ่มขึ้น 588%)

จากข้อมูลนี้จะเห็นได้ว่า "CR7" ใช้เวลาทำเงินจากจุดเริ่มต้นตอนอายุ 18 ปี ที่ 24,000 ปอนด์ต่อปี ไปสู่ 172 ล้านปอนด์ต่อปี หรือเพิ่มขึ้นถึง 716,566% ตอนอายุ 37 ปี (5 ก.พ. 2023 จะอายุครบ 38 ปี) ภายในระยะเวลาเพียง 19 ปีเศษเท่านั้น!

...

ทำความรู้จัก Saudi Pro league หรือ SPL ความท้าทายใหม่ ของโรนัลโด :

“Saudi Pro league” คือ ลีกสูงสุดของประเทศซาอุดีอาระเบีย ปัจจุบันฤดูกาล 2022-23 มีจำนวนทีมทั้งหมด 16 ทีม มีจำนวนนักเตะรวม 567 คน ในจำนวนนี้เป็นนักเตะต่างชาติ 136 คน หรือคิดเป็นสัดส่วน 24%

โดยแต่ละสโมสรสามารถเซ็นสัญญานักเตะต่างชาติได้ 7 คน แต่สามารถจัดลงสนามได้สูงสุด 6 คนในแต่ละนัด โดยจะมีทีมตกชั้นลงไปเล่นในดิวิชัน 1 ทั้งสิ้น 4 ทีม โดย 3 ทีมจากลำดับท้ายสุด (อันดับที่ 14-16) จะตกชั้นอัตโนมัติ ส่วนทีมอันดับที่ 13 จะไปเตะเพลย์ออฟ 2 นัด (เหย้า-เยือน) กับทีมอันดับที่ 4 จาก ดิวิชัน 1

สโมสรที่คว้าแชมป์ลีกได้ จะได้เงินรางวัลรวม 5,000,000 ริยาล (Riyal) หรือประมาณ 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รองชนะเลิศจะได้เงินรางวัลรวม 3,000,000 ริยาล (Riyal) หรือประมาณ 800,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนอันดับที่ 3 จะได้เงินรางวัล 2,000,000 ริยาล (Riyal) ประมาณ 530,000 ดอลลาร์สหรัฐ

...

อย่างไรก็ดี ในฤดูกาล 2023-24 ทาง SPL มีแผนจะขยายจำนวนทีมเพิ่มเป็น 18 ทีม โดยในฤดูกาลดังกล่าวทีมอันดับที่ 15-16 จะตกชั้นโดยอัตโนมัติ และจะมี 4 ทีมจากดิวิชัน 1 (อันดับที่ 1-4) เลื่อนชั้นขึ้นมาทดแทน นอกจากนี้ SPL ยังมีแผนที่จะอนุญาตให้แต่ละสโมสร เซ็นสัญญานักเตะต่างชาติได้เพิ่มเป็น 8 คน และสามารถจัดลงสนามได้สูงสุดครั้งละ 7 คน อีกด้วย

ทั้งนี้ เป้าหมายในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับลีก SPL เพื่อต่อยอดการพัฒนาวงการฟุตบอลของซาอุดีอาระเบียนั้นในท้ายที่สุด SPL วางเป้าหมายเอาไว้ว่า จะต้องมีจำนวนทีมในลีกรวมทั้งหมด 20 ทีมต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย

ความมั่งคั่งของสโมสรอัลนาสเซอร์ ต้นสังกัดใหม่ของ โรนัลโด :

“Musalli Al-Muammar” นอกจากจะนั่งเป็น "ประธานสโมสรอัลนาสเซอร์" แล้ว ชายผู้นี้ยังทำหน้าที่เป็นปรึกษาของ General Entertainment Authority หรือ GEA ซึ่งเป็นกองทุนด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมบันเทิงและกีฬาของซาอุดีอาระเบีย ที่มีแผนหว่านเม็ดเงินสำหรับการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมบันเทิงและกีฬาโลกในช่วงระหว่างปี 2020-2030 มากมายมหาศาลถึง 240,000 ล้านริยาล (Riyal) หรือประมาณ 64,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ!

...

นอกจากนี้ หาก “คุณ” ยังไม่ทราบ....สโมสรอัลนาสเซอร์ (Al Nassr) ยังได้รับการสนับสนุนทางการเงินชนิดสุดพิเศษซึ่งมีมูลค่ามากมายถึง 100 ล้านริยาล (Riyal) ต่อปี (ประมาณ 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็นระยะเวลาต่อเนื่องยาวนานถึง 20 ปี! (รวม 540 ล้านดอลลาร์สหรัฐตลอดสัญญา ปี 2022-2024) จาก Qiddiya Investment Company หรือ QIC กองทุนด้านบันเทิงและกีฬาทุนหนาของซาอุดีอาระเบีย ที่เพิ่งประกาศเมกะโปรเจกต์เนรมิต สปอร์ตคอมเพล็กซ์ขนาดยักษ์, สวนสนุก, สนามแข่งรถ F1, และ สนามฟุตบอล ในกรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย ภายใต้งบประมาณอันมากมายมหาศาล

โดยทั้ง GEA และ QIC นั้น อยู่ภายใต้การสนับสนุนของ Public Investment Fund หรือ PIF กองทุนที่มีความมั่งคั่งรวมมากกว่า 3.2 แสนล้านปอนด์! ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของ มกุฎราชกุมาร "โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน" แห่งซาอุดีอาระเบีย และกำลังใช้เงินทุนมากมายมหาศาลนี้ไปกับการขับเคลื่อนตามแผนการ "Vision 2030" เพื่อเปลี่ยนซาอุดีอาระเบีย ไปสู่ “ความร่วมสมัย” และหารายได้ชดเชยน้ำมันที่กำลังจะหมดไป โดยใช้วงการกีฬาและบันเทิงเป็นกลจักรสำคัญในการกระโดดเข้าหาเป้าหมายที่วางไว้

เมื่อเห็นแบบนี้...คงไม่จำเป็นต้องถามกันอีกต่อไปแล้วมั้งว่า “เงินค่าจ้างโรนัลโด” มาจากไหนและมันจะคุ้มกับที่ต้องจ่ายไปหรือไม่ ในเมื่อ “เรา” ได้เห็น “เงินทุนก้อนโตๆ นี้ จาก PIF แล้ว” และด้วยเหตุนี้ “บางที” เราอาจได้เห็นเมกะสตาร์ลูกหนังคนต่อๆ ไป ที่เตรียมมาโกยเงินในลีก SPL เร็วๆ นี้อีกก็เป็นได้!

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
กราฟิก Anon Chantanant

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง