ญาติหนุ่มผู้เสียชีวิตยังคาใจ กรณีพบศพชายที่คาดว่ากระโดดลงจากรถไฟ จนพบศพลอยน้ำ ใต้สะพานข้ามทางรถไฟ จ.สระบุรี เมื่อ 2 ม.ค. 66 โดยก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายโทร. หาเพื่อน และโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก ว่ากำลังถูกทำร้าย ขณะที่ข้อมูลล่าสุดตำรวจพบร่องรอยผู้ตายในห้องน้ำตู้โดยสาร และเร่งคลี่คลายว่าเป็นเหตุฆาตกรรมหรือฆ่าตัวตาย

  • การเสียชีวิตยังเป็นปริศนาบนขบวนรถไฟสายกรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ เกิดขึ้นเมื่อผู้เสียชีวิต เป็นชายวัย 48 ปี เดินทางถึงประเทศไทย หลังไปทำงานที่ประเทศเกาหลีมา 5 ปี โดยเดินทางกลับมาถึง เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 65 แต่ก่อนกลับมาไทย บ่นกับญาติถึงการมีปากเสียงกับภรรยา

  • เมื่อเดินทางกลับถึงไทย ชายผู้เสียชีวิตได้ติดต่อเพื่อน เพื่อสังสรรค์ ก่อนเดินทางกลับบ้านไปหาพ่อแม่ที่บุรีรัมย์ โดยเพื่อนได้มาส่งที่สถานีรถไฟ เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 65

  • ไม่มีใครรู้ว่านี้คือการเดินทางครั้งสุดท้ายของผู้ตาย เสียงหวูดรถไฟบดไปบนรางเมื่อความมืดเข้าปกคลุม ผู้ตายวิดีโอคอลหาเพื่อนที่ไปร่วมสังสรรค์ ในช่วงเวลา 2 ทุ่ม ภาพที่ปรากฏ ผู้ตายกำลังวิ่งหลบหนีบางสิ่งบนตู้โดยสาร ก่อนเข้าไปในห้องน้ำ แล้วใช้เข็มขัดมัดกับประตูห้องน้ำ แล้วตะโกนขอความช่วยเหลือ จากนั้นสัญญาณโทรศัพท์ก็ขาดหาย แม้เพื่อนพยายามติดต่อ แต่ก็ไร้การตอบรับ

  • ช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่ผู้ตายโทร. หาเพื่อน ได้โพสต์ขอความช่วยเหลือบนเฟซบุ๊ก เมื่อเวลา 20.54 ว่า “ช่วยผมด้วยครับ” และโพสต์อีกครั้งห่างกัน 1 นาที ว่า “ขอความช่วยเหลือครับ”

  • เหตุการณ์ปริศนาผ่านข้ามวันไปพร้อมกับไร้การติดต่อจากผู้ตาย จนเมื่อวันที่ 2 ม.ค. 66 มีคนพบศพลอยน้ำ ใต้สะพานข้ามทางรถไฟ สะพานดำ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี สร้างความตื่นตกใจให้กับผู้พบเห็น โดยคนในพื้นที่ระบุว่าไม่เคยพบผู้ตายบริเวณนี้มาก่อน

  • เมื่อค้นร่างของผู้ตายพบบัตรประชาชน และเงินสด 92,000 บาท และเงินวอนเกาหลีบางส่วน ตำรวจตั้งข้อสันนิษฐานว่า มูลเหตุการเสียชีวิตอาจไม่ได้มาจากการชิงทรัพย์ ล่าสุดตำรวจได้ตรวจสอบบนตู้โดยสารคันเกิดเหตุ พบว่า ผู้ตายล็อกประตูห้องน้ำไว้ เมื่อพังประตูเข้าไปภายใน พบกระจกบริเวณช่องระบายอากาศหายไป คาดว่าผู้ตายอาจพลัดตกจากขบวนโดยสารผ่านทางช่องลมดังกล่าว

  • ส่วนพ่อแม่ผู้เสียชีวิต ยังเชื่อว่าเป็นเหตุฆาตกรรม เพราะก่อนการเสียชีวิต มีข้อมูลหลายอย่างที่ผู้ตายขอความช่วยเหลือ และโทร. หาเพื่อน ในลักษณะกำลังถูกทำร้าย

...

หาคราบเลือดและสาเหตุบาดแผลที่ไหล่

“รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี” อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) วิเคราะห์ว่า สิ่งสำคัญที่ไขข้อสงสัยของญาติได้คือ การผ่าชันสูตรศพ หาสาเหตุของบาดแผลบริเวณไหล่ ขณะที่ลักษณะของการตกจากที่สูงอาจเป็นอีกสาเหตุการเสียชีวิต สามารถตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ว่า ผู้ตายมีร่องรอยของการปีนแล้วกระโดดลงมาเองหรือผลักตกลงมา โดยต้องดูจากรอยเท้าที่เกิดเหตุ

ขณะเดียวกันรอยแผลที่ไหล่อาจเกิดจากการหล่นลงมาแล้วกระแทกกับวัตถุของแข็งในที่เกิดเหตุจนเสียชีวิตได้ เพราะรอยแผลลักษณะนี้เป็นต้นเหตุการเสียชีวิตได้ ถ้าเลือดคั่งภายในร่างกายแล้วไหลลงสู่ปอด ทำให้เกิดการฉีกขาดบริเวณทรวงอกจนเสียชีวิต

“หลักฐานรอยเลือดบนตู้โดยสารเป็นอีกประเด็นสำคัญ เพราะถ้าถูกฆาตกรรมแล้วโยนลงมาจากรถไฟ จะมีรอยเลือดหยดลงบนพื้น ลักษณะการหยดของเลือดสามารถบอกถึงการทำร้ายและต่อสู้ได้ แม้ผ่านมาหลายวันแล้ว แต่ถ้าใช้สารในการตรวจยังสามารถพบรอยเลือดได้ แต่ถ้าตรวจแล้วไม่พบคราบเลือดบนตู้โดยสาร จะต้องมาดูบริเวณรางรถไฟว่ามีคราบเลือดหรือไม่”

อีกประเด็นที่น่าสงสัยคือ ผู้ตายเสียชีวิตจากการจมน้ำหลังร่วงลงมาจากรถไฟหรือไม่ จึงควรจะต้องตรวจสอบภายในปอด หากพบโคลนหรือก้อนกรวด แสดงว่าเสียชีวิตจากการจมน้ำ หากไม่พบอาจเกิดจากการที่ผู้ตายเสียชีวิตก่อนถูกทิ้งลงมาในน้ำ.