จุดเริ่มต้น และคำสั่งสุดท้าย เรือหลวงสุโขทัย เกิดขึ้นในช่วงเย็นวันที่ 18 ธ.ค. เรือหลวงสุโขทัย (442) นำทหารเรือและเจ้าหน้าที่รวม 106 นาย เดินทางจากฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี มุ่งหน้าไปร่วมงานเทิดพระเกียรติ พล.ร.อ.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หรือ “เสด็จเตี่ย” เนื่องในวันครบรอบ 142 ปี วันคล้ายวันประสูติ องค์พระบิดาของทหารเรือไทย ที่จัดขึ้น ณ ศาลเสด็จเตี่ย ต.หาดทรายรี อ.เมืองชุมพร

15.30 น. ลางร้าย....เมื่อรับแจ้งทางวิทยุจาก ร.ล.กระบุรี และ ร.ล.สุโขทัย จะไปปฏิบัติภารกิจที่ จ.ชุมพร และในเวลาต่อมาไม่นาน ได้รับการประสานจาก ร.ล.กระบุรี จะขอเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือประจวบฯ เนื่องจากคลื่นลมทะเลรุนแรง คลื่นสูง 3-4 เมตร 

18.00 น. สถานการณ์เลวร้ายลง เมื่อรับแจ้งทางวิทยุจาก ร.ล.สุโขทัยว่า เครื่องยนต์มีปัญหา 1 เครื่อง เหลือใช้งานได้ 1 เครื่อง 

19.00 น. เรือหลวงสุโขทัย ที่มีมูลค่าหลายพันล้าน กำลังเจออุปสรรคใหญ่ เมื่อเครื่องยนต์เรือไม่สามารถใช้การได้ ควบคุมเรือไม่ได้ และ พบปัญหาการเอียงของเรือ 60-70 องศา ขณะเดียวกัน และเวลานั้นเอง เรือหลวงกระบุรี ที่กำลังเทียบท่าเรือประจวบฯ ก็หันหัวเรือกลับมาช่วยกำลังพล ที่กำลังรอลุ้นว่าเรือหลวงสุโขทัยจะล่มหรือไม่...

...

21.20 น. บริษัทท่าเรือประจวบฯ จัดส่งเรือทัก (Tug) 2 ลำ คือ เรือประจวบฯ 4 และเรือประจวบฯ 5 มุ่งหน้าจุดเกิดเหตุเพื่อช่วย...

23.30 น. เรือหลวงสุโขทัย เกิดล่ม...จมลงก้นทะเลทั้งลำ ที่ระดับความลึกราว 40 เมตร เขตพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากฝั่งไปประมาณ 19 ไมล์ทะเล ส่วนลูกเรือทั้งหมดต้องหนีตายตามคำสั่ง “สละเรือใหญ่”

ในค่ำคืนอันมืดมิด กำลังพลลอยคอรอการช่วยเหลือ....

เข้าสู่วันที่ 19 ธันวาคม 2565

04.20 น. ร.ล.กระบุรี เข้าเทียบท่าที่ท่าเรือประจวบฯ พร้อมผู้ประสบภัยจากเรือหลวงสุโขทัย 48 นาย ในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บหนัก 5 นาย 

จากการเข้าเทียบท่าของ “เรือหลวงกระบุรี” มีการประเมินว่า สาเหตุที่เรือหลวงสุโขทัยล่ม มาจากสภาพอากาศอันเลวร้าย คลื่นลมทะเลบริเวณจุดที่ ร.ล.สุโขทัย ล่ม มีคลื่นทะเลความสูงราว 4-5 เมตร อีกทั้งความมืดมิดในท้องทะเลที่เป็นอุปสรรคสำคัญ

06.30 น. ร.ล.กระบุรีออกปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยกลางทะเลอ่าวไทย ต่อเนื่อง

06.40 น. เรือสินค้าศรีไชยาเข้าเทียบท่าเรือประจวบฯ พร้อมข่าวดีในการช่วยผู้ประสบภัยอีกชุด จำนวน 22 นาย 

13.00 น. พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. เดินทางเยี่ยมผู้ประสบภัยและผู้บาดเจ็บ ที่รอดจากเรือล่ม 73 นาย ในจำนวนนี้มี น.ท.พิชิตชัย เถื่อนดี ผู้บังคับการ ร.ล.สุโขทัย รวมอยู่ด้วย มีผู้บาดเจ็บรวม 15 นาย ในจำนวนนี้สาหัส 4 นาย ยังเหลืออีก 33 นาย ที่ยังไม่รู้ชะตากรรม

16.00 น. พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษก ทร. ยืนยันว่า ได้ช่วยเหลือกำลังพลแล้ว 75 นาย ที่เพิ่มขึ้นอีก 2 นาย เพราะมีเรือบรรทุกน้ำมันช่วยเอาไว้ คงเหลือ 31 นาย

“คาดว่าผู้ประสบภัยสามารถลอยคอรอการช่วยเหลืออยู่ในน้ำได้ไม่เกิน 2 วัน เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเร่งค้นหาและนำผู้ประสบภัยขึ้นฝั่งให้ได้ทั้งหมดโดยเร็วที่สุด” 

มีรายงานออกมาในช่วงเวลานี้ว่า “ชูชีพ” ในเรือหลวงสุโขทัย ไม่เพียงพอ เนื่องจากเกิดเหตุมีกำลังพล 106 นาย บางนายไม่ใช่ลูกเรือหลวงสุโขทัย และขณะเกิดเหตุ บางคนก็หยิบไม่ทัน จึงต้องอาศัยเกาะลอยไปกับเพื่อน ชูชีพ 1 ตัว เกาะได้ 4-5 คน

...

“ขณะเรือจม ร.ล.กระบุรี พยายามเข้าให้การช่วยเหลือแต่ไม่สามารถทำได้ เพราะคลื่นสูง 4-5 เมตร คลื่นแรงจนเรือกระแทกกัน ต้องรอจน ร.ล.สุโขทัย จมลงก่อนถึงจะช่วยเหลือลูกเรือได้” หนึ่งในลูกเรือที่รอดชีวิต กล่าวถึงในนาทีเป็นตาย

18.00 น. เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล แบบที่ 1 บ.ลว.1 Dornier หมายเลข 1115 เดินทางกลับเข้ามา พร้อมช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ 6 นาย ก่อนจะนำตัวส่งรักษา รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

20 ธันวาคม 2565

พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 ยืนยันข้อมูลว่า ตอนนี้มีกำลังพลสูญหายลดลง 1 ราย เหลือ 30 นาย เนื่องจากมีกำลังพล 1 นาย ได้ลากิจไม่ได้ขึ้นเรือ จึงมีการยืนยันว่า “เรือหลวงสุโขทัย” มีกำลังพลโดยสารทั้งสิ้น 105 นาย

14.14 น. พลทหารชนัญญู แก่นศรียา สังกัดนาวิกโยธิน ได้รับการช่วยเหลือจากเรือบรรทุกน้ำมัน ทำให้รอดชีวิต หลังลอยคอมาหลายสิบชั่วโมง เป็นรายที่ 76

...

15.00 น. ได้รับแจ้งจาก ร.ล.นเรศวร พบผู้เสียชีวิต 5 ราย ประกอบด้วย 1. ร.ท.สามารถ แก้วผลึก 2. พ.จ.อ.อัชชา แก้วสุพรรณ์ 3. พ.จ.อ.อำนาจ พิมที่ 4. จ.อ.จักรพงศ์ พูลผล 5. พลฯ อัครเดช โพธิ์บัติ 

19.30 น. ได้รับแจ้ง จาก ร.ล.ภูมิพล พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ยังไม่ทราบชื่อ 


20.00 น. สรุปรวม มีผู้เสียชีวิต 6 นาย รอดชีวิต 76 นาย ยังเหลือผู้ประสบภัยที่ต้องค้นหาอีก 23 นาย

21 ธันวาคม 2565

ทุกหน่วยงาน ประสานความร่วมมือในการค้นหาเต็มกำลัง แต่ไม่พบกำลังพลเพิ่ม โดยมีรายงานพบศพ 1 ศพ ที่สวมเสื้อผ้าทหาร แต่..ไม่ใช่กำลังพลของเรือหลวงสุโขทัย ส่วนการเยียวยาตามระเบียบทางราชการ ชดเชยปูนบำเหน็จตามระเบียบราชการ ในภาพรวมจะได้รับการเลื่อนยศ 5 ชั้นยศ และได้รับเงินชดเชยตามระเบียบราชการประมาณ 1-2 ล้านบาท 

22 ธันวาคม 2565

ญาติทหารเรือ 23 ชีวิตยังเฝ้ารอด้วยความหวัง แต่ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม ขณะที่ญาติของนายทหารกล้าทั้ง 6 นาย ที่พบศพเสียชีวิต ญาตินำกลับไปประกอบพิธีน้ำหลวงอาบศพและสวดอภิธรรมที่ฌาปนสถานกองทัพเรือ 

...

23 ธันวาคม 2565

ร.ล.บางระจัน สำรวจพื้นที่จุดเรือล่ม พบศพลอยขึ้นมา 1 ศพ  ขณะที่การระดมค้นหาในพื้นที่ชุมพร และสุราษฎร์ธานี พบเพียงเสื้อชูชีพตัวเดียวลอยใกล้เกาะเต่า


24 ธันวาคม 2565 

10.30 น. พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ศพ ลอยใกล้จุดเรือล่ม ใกล้ๆ กับจุดที่พบ เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. โดยเรือหลวงบางระจัน

13.45 น. กองทัพเรือ แจ้งว่า พบผู้เสียชีวิตอีก 5 นาย โดยเวลาที่พบไล่เรียงกันตั้งแต่ 11.37-13.20 น. ประกอบด้วย คือ ร.ล.ตากสิน 1 นาย, เรือ ต.113 จำนวน 1 นาย, โดรน 2 นาย และ ร.ล.กระบุรี 1 นาย

สรุป ในเวลา 20.00 น. พบกำลังพลเพิ่ม 6 ศพ มีผู้เสียชีวิต รวม 13 ศพ ยังสูญหาย 16 ชีวิต

25 ธันวาคม 2565

11.00 น. พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผบ.ทรภ.1 แถลงว่า ร.ล.กระบุรี และ ร.ล.นราธิวาส พบ 2 ศพกำลังพล ลอยใกล้กับจุด ร.ล.สุโขทัย ล่ม ในช่วงคืนวันที่ 24 ธ.ค.

15.00 น. พบศพกำลังพล เรือหลวงสุโขทัย 3 นาย จุดพบศพอยู่ห่างไปประมาณ 40 กม. และอยู่ห่างจุด ร.ล.สุโขทัยล่ม ในพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 60-70 กม.

พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่อว่า สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย วันที่ 25 ธ.ค. เวลา 17.00 น. ยอดกำลังพล 105 นาย รอดชีวิต 76 นาย เสียชีวิต 18 นาย ระบุชื่อได้แล้ว 7 นาย มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือและอยู่ในกระบวนการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล 11 นาย และ 1 รายที่ก่อนหน้านี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือนั้น ขณะนี้มีหลักฐานยืนยันแล้วว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือ คงเหลือผู้สูญหาย 11 นาย 

ในขณะที่วันนี้ (26 ธ.ค.) เรือหลวงนเรศวร ได้ดำเนินการเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้เพิ่มอีก 1 ร่าง และจะกลับขึ้นฝั่งที่อำเภอบางสะพาน ซึ่งหลังจากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการของการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคลต่อไป

คณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริง มีหน้าที่ตรวจสอบหาสาเหตุเรือหลวงสุโขทัยล่ม ทั้งด้านความพร้อมของเรือ แนวทางการปฏิบัติ ขั้นตอนของการสละเรือใหญ่ และช่วยเหลือกำลังพลภายหลังประสบเหตุ ว่าเป็นไปตามหลักการและแนวทางการปฏิบัติที่กำหนดไว้หรือไม่

ขณะที่ตัวเลขกำลังพลที่ปลอดภัย และสูญหาย วันที่ 26 ธ.ค. (อัปเดต 11.30 น.) โดยโฆษกกองทัพเรือ ระบุว่า จากยอดกำลังพล 105 นาย รอดชีวิต จำนวน 76 นาย เสียชีวิตรวม 18 นาย ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 10 นาย อยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์อัตลักษณ์ 8 นาย คงเหลือผู้สูญหายจำนวน 11 นาย (ยังไม่นับรวมเคสที่เจอล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ รอผลและหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือ จึงจะมีการตัดยอด)

ต่อมาวันนี้ (27 ธ.ค.) มีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิต 2 ศพ ที่บริเวณ เกาะไข่ 1 ศพ และ เกาะสาก 1 ศพ โดยรายที่ 2 สภาพศพ ใส่ชุดหมี คาดว่าเป็นกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ซึ่งต้องรอการชันสูตรและยืนยันต่อไป 

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์

อ่านบทความที่น่าสนใจ