การเผชิญหน้าในแมตช์แห่งการชี้ชะตาระหว่าง “ลิโอเนล เมสซี” และ “คีเลียน เอ็มบัปเป” ที่นอกจากจะมี “โทรฟีฟุตบอลบอลโลก” เป็นเดิมพันแล้ว ชัยชนะในนัดนี้อาจส่งผลต่อการก้าวขึ้นเป็นนักเตะทรงคุณค่าประจำศึกฟุตบอลโลก 2022 รวมถึงหากใครเกิดสามารถยิงประตูในนัดชิงชนะเลิศนี้ได้ ก็จะมีโอกาสสูงสำหรับการคว้าตำแหน่งดาวซัลโวฟุตบอลโลกครั้งนี้ไปครอบครองทันที
ขณะเดียวกันหากได้แชมป์ฟุตบอลโลกมาไว้ในครอบครอง ก็จะทำให้ “ลิโอเนล เมสซี” สามารถก้าวขึ้นสู่เกียรติยศตำนานนักเตะผู้ยิ่งใหญ่ของโลกได้ (สักที) หลังใช้เวลามาเกือบตลอดชีวิตการเป็นนักฟุตบอลไขว่คว้าโทรฟีเดียวในโลกที่ยังไม่เคยเอื้อมถึงมานานแสนนาน
...
อย่างไรก็ดีในทางกลับกัน หาก “คีเลียน เอ็มบัปเป” เป็นฝ่ายทำสำเร็จ เขาจะกลายเป็นจุดโฟกัสของโลกลูกหนังไปในทันทีว่า “กองหน้ามหาประลัยผู้นี้” จะสามารถลบล้างทุกๆ สถิติที่ตำนานนักเตะโลกทุกคนเคยสร้างเอาไว้ได้มากน้อยแค่ไหน? เพราะหาก “คีเลียน เอ็มบัปเป” ที่มีอายุเพียง 23 ปี สามารถพิชิต “เมสซี” และผองเพื่อนลงได้ เขาจะกลายเป็นแชมป์โลก 2 สมัยติดต่อกัน เทียบเท่ากับ “ราชาลูกหนังโลกตลอดกาล” อย่าง “เปเล่” ที่เคยพาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัยติดต่อกันในปี 1958 และ 1962 ทันที!
ว่าแต่...แมตช์แห่งโชคชะตาซึ่งเป็นนัดสุดท้ายก่อนอำลามหกรรมฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ก่อนที่ไปพบกันใหม่ใน ฟุตบอลโลก 2026 ที่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก จะร่วมกันเป็นเจ้าภาพนั้น ระหว่าง อาร์เจนตินา และ ฝรั่งเศส ระหว่าง “ลิโอเนล เมสซี” และ “คีเลียน เอ็มบัปเป” มีสถิติอะไรที่พอจะบ่งชี้ถึง “ความเป็นไปได้” ที่จะเกิดขึ้น “ในนัดแห่งโชคชะตาที่ว่านี้ได้บ้าง?”
สถิติในโลกฟุตบอลของ “เมสซี” และ “เอ็มบัปเป” :
ลิโอเนล เมสซี :
ระดับสโมสร : ลงเล่น 853 นัด ยิง 701 ประตู Assists 333 ครั้ง
ทีมชาติ : ลงเล่น 171 นัด ยิง 96 ประตู Assists 55 ครั้ง
คีเลียน เอ็มบัปเป :
ระดับสโมสร : ลงเล่น 297 นัด ยิง 217 ประตู Assists 109 ครั้ง
ทีมชาติ : ลงเล่น 65 นัด ยิง 33 ประตู Assists 23 ครั้ง
...
** หมายเหตุ สถิติจนถึงก่อนนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 **
ผลการเผชิญหน้าระหว่าง “เมสซี” และ “เอ็มบัปเป” ครั้งหลังสุด :
สถิติการเผชิญหน้ากันครั้งหลังสุดในระดับทีมชาติ ต้องย้อนกลับไปเมื่อฟุตบอลโลกปี 2018 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ระหว่าง ทีมชาติอาร์เจนตินา และ ทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งในนัดนั้น อาร์เจนตินา พ่ายแพ้ในเกมสุดมันให้กับ ฝรั่งเศส ไป 3 ประตูต่อ 4 แถม “เอ็มบัปเป” ยังฉายแสงอย่างเจิดจรัส ด้วยการยิงถึง 2 ประตู ก่อนพาทีมตราไก่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปีนั้นอีกต่างหาก
ผลงานของ “เมสซี” และ “เอ็มบัปเป” ในฟุตบอล 2022 :
ลิโอเนล เมสซี : ลงเล่น 6 นัด ตัวจริง 6 นัด รวมเวลา 570 นาที ยิง 5 ประตู Assists 3 ครั้ง
คีเลียน เอ็มบัปเป : ลงเล่น 6 นัด ตัวจริง 5 นัด รวมเวลา 478 นาที ยิง 5 ประตู Assists 2 ครั้ง
และทั้งหมดนั้นคือ...สถิติส่วนตัวระหว่าง 2 นักเตะ ที่เชื่อว่าทุกๆ สายตาชาวโลกต่างต้องมุ่งจับจ้องในแมตช์แห่งการชี้ชะตาว่าใครจะเป็นผู้พาทีมชาติอาร์เจนตินา หรือ ทีมชาติฝรั่งเศส ขึ้นแท่นเป็นแชมป์โลก 3 สมัยได้ก่อนกัน
...
แต่แน่นอน...ในเมื่อฟุตบอลเป็นกีฬาที่เล่นกันเป็นทีม และทีมมีทั้งหมด 11 คน ฉะนั้นแม้ว่า “เมสซี” และ “เอ็มบัปเป” จะสามารถใช้ความสามารถเฉพาะตัว “เพื่อหาเศษเสี้ยวของโอกาส” ในการทำประตูคว้าชัยชนะให้กับทีมได้ แต่หากไม่มีเพื่อนร่วมทีมคอยป้อนบอลให้ หรือยอมเสียสละวิ่งไล่สกัดคู่ต่อสู้เพื่อรับผิดชอบเกมรับให้ “ทีมฟุตบอล” ก็คงยากที่จะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน
แล้วสถิติในแง่ของการเล่นเป็นทีม ระหว่าง “ทีมชาติอาร์เจนตินา” และ “ทีมชาติฝรั่งเศส” จนถึงก่อนนัดชิงชนะเลิศในศึกฟุตบอลโลก 2022 มีสถิติอะไรที่น่าจะพอบ่งบอก “กำลังเสริม” หรือ “คู่หู” ที่ดีให้กับ “เมสซี” หรือ “เอ็มบัปเป” ได้มากกว่ากัน?
...
ก่อนอื่น “เรา” ไปเริ่มต้นกันที่ สถิติการเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกระหว่าง ทีมชาติอาร์เจนตินา และ ทีมชาติฝรั่งเศส กันก่อน...
สถิติการเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก :
ทีมชาติอาร์เจนตินา : เข้าชิงทั้งหมดรวม 6 ครั้ง (1930, 1978, 1986, 1990, 2014, 2022)
ทีมชาติฝรั่งเศส : เข้าชิงทั้งหมดรวม 4 ครั้ง (1998, 2006, 2018, 2022)
โดยหากยังไม่นับรวมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนตินา คว้าชัยชนะในนัดชิงชนะเลิศได้ 2 ครั้ง จาก 5 ครั้ง (40%) ส่วน ฝรั่งเศส ทำได้ 2 ครั้ง จาก 3 ครั้ง (66.67%)
สถิติคู่หูและภาพรวมกำลังหนุนของ “เมสซี” และ “เอ็มบัปเป” :
เกมรุก :
สถิติการครองบอล : อาร์เจนตินา 58% ฝรั่งเศส 52.2%
สถิติการยิงประตู :
อาร์เจนตินา : ยิงประตูรวม 12 ประตู นักเตะที่ยิงประตูมากที่สุด : “ลิโอเนล เมสซี” 5 ประตู (41.67%)
พยายามยิงทั้งหมด 83 ครั้ง ในกรอบเขตโทษ 56 ครั้ง (67.47%) นอกกรอบเขตโทษ 27 ครั้ง (32.53%) เข้ากรอบรวม 39 ครั้ง (46.99%) นักเตะที่พยายามยิงประตูมากที่สุด : “ลิโอเนล เมสซี” 27 ครั้ง (32.53%)
ฝรั่งเศส : ยิงประตูรวม 13 ประตู นักเตะที่ยิงประตูมากที่สุด : “คีเลียน เอ็มบัปเป” 5 ประตู (38.46%)
พยายามยิงทั้งหมด 91 ครั้ง ในกรอบเขตโทษ 66 ครั้ง (72.53%) นอกกรอบเขตโทษ 25 ครั้ง (27.47%) เข้ากรอบรวม 30 ครั้ง (32.97%) นักเตะที่พยายามยิงประตูมากที่สุด : “คีเลียน เอ็มบัปเป” 25 ครั้ง (27.47%)
สถิติ Assists :
อาร์เจนตินา : Assists รวม 7 ครั้ง นักเตะที่ทำ Assists มากที่สุด : “ลิโอเนล เมสซี” 3 ครั้ง (42.86%)
ฝรั่งเศส : Assists รวม 11 ครั้ง นักเตะที่ทำ Assists มากที่สุด : “อองตวน กรีซมันน์” 3 ครั้ง (27%)
สถิติการส่งบอลทะลุแนวรับคู่ต่อสู้ :
อาร์เจนตินา : พยายามส่งบอลทะลุแนวรับคู่ต่อสู้รวม 1,086 ครั้ง สำเร็จ 763 ครั้ง (70.26%)
นักเตะที่ส่งบอลทะลุแนวรับคู่ต่อสู้สำเร็จมากที่สุด : “โรดริโก เดอ ปอล” 100 ครั้ง (13.11%)
ฝรั่งเศส : พยายามส่งบอลทะลุแนวรับคู่ต่อสู้รวม 902 ครั้ง สำเร็จ 622 ครั้ง (68.96%)
นักเตะที่ส่งบอลทะลุแนวรับคู่ต่อสู้สำเร็จมากที่สุด : “อองตวน กรีซมันน์” 71 ครั้ง (11.41%)
สถิติเปิดบอลจากด้านข้าง :
อาร์เจนตินา : 95 ครั้ง สำเร็จ 26 ครั้ง (27.37%) นักเตะที่เปิดบอลจากด้านข้างมากที่สุด : “อังเคล ดิมาเรีย” 24 ครั้ง (25.26%)
ฝรั่งเศส : 122 ครั้ง สำเร็จ 46 ครั้ง (37.70%) นักเตะที่เปิดบอลจากด้านข้างมากที่สุด : “อองตวน กรีซมันน์” 37 ครั้ง (30.33%)
เกมรับ :
อาร์เจนตินา : เสียประตูรวม 5 ประตู คลีนชีต 3 นัด จาก 6 นัด (50%) เสียฟาวล์ 74 ครั้ง ทำเข้าประตูตัวเอง 1 ประตู เสียการครอบครองบอล 407 ครั้ง พยายามเข้าแย่งบอลและป้องกันการผ่านบอล 1,408 ครั้ง
ฝรั่งเศส : เสียประตูรวม 5 ประตู คลีนชีต 1 นัด จาก 6 นัด (16.67%) เสียฟาวล์ 50 ครั้ง ทำเข้าประตูตัวเอง 0 ประตู เสียการครอบครองบอล 420 ครั้ง พยายามเข้าแย่งบอลและป้องกันการผ่านบอล 1,577 ครั้ง
นักเตะที่มีบทบาทโดดเด่นในแดนกลางและเกมรับ :
อาร์เจนตินา :
“โรดริโก เดอ ปอล” (อายุ 28 ปี ลงเล่น 6 นัด ตัวจริง 6 นัด รวมเวลา 498 นาที) คือ มิดฟิลด์พันธุ์แกร่งที่ทำทุกสิ่งทุกอย่างให้กับทัพฟ้าขาวอย่างแท้จริงในฟุตบอลโลกครั้งนี้ โดยนอกจากมิดฟิลด์จากแอตเลติโก มาดริดรายนี้จะทำสถิติรับและส่งบอลมากที่สุด 534 ครั้ง จากจำนวนการรับส่งบอลของทีมทั้งหมด 3,988 ครั้ง หรือคิดเป็น 13.39% แล้ว “โรดริโก เดอ ปอล” ยังทำสถิติพยายามเข้าแย่งบอลและป้องกันการผ่านบอลมากที่สุดของทีม 181 ครั้ง จากทั้งหมดที่ทั้งทีมร่วมกันทำ 1,408 ครั้ง หรือ 12.86% ด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น “ชายผู้ที่ประกาศต่อชาวโลก” ว่า ยินดีที่จะวิ่งในสนามเพื่อทดแทนในส่วนของ “ลิโอเนล เมสซี” เพื่อปล่อยให้อัจฉริยะผู้นี้ “เล่นเกมรุก” ได้อย่างเต็มที่ ยังทำสถิติวิ่งในสนามเป็นระยะทางรวมมากที่สุดของอาร์เจนตินา ด้วยระยะทางรวมถึง 61.03 กิโลเมตร และในจำนวนนี้เป็นการออกแรง Sprints รวมกันถึง 334 ครั้งอีกต่างหาก! (ในขณะที่ฝ่ายฝรั่งเศส นักเตะที่ออกแรง Sprints รวมกันมากที่สุดคือ “อุสมาน เดมเบเล” ปีกความเร็วจัดจ้านจากบาร์เซโลนา 283 ครั้ง)
ฝรั่งเศส :
ด้าน “ทัพเลอ เบลอส์” นักเตะที่กลับมาเล่นได้อย่างโดดเด่นอีกครั้ง อย่าง “อองตวน กรีซมันน์” ถือเป็น “เซอร์ไพรส์” สำหรับฟุตบอลโลกครั้งนี้ไปโดยปริยาย โดยนอกจากจะเป็นอีกหนึ่งนักเตะฝรั่งเศสที่เล่นเกมรุกได้อย่างเปล่งปลั่ง จากผลงาน 3 Assists แล้ว ในเกมรับยังเป็นผู้ที่ทำสถิติพยายามเข้าแย่งบอลและป้องกันการผ่านบอลมากที่สุดของทีมถึง 242 ครั้ง จากทั้งหมด 1,577 ครั้ง หรือ 15.35% ด้วย!
ขณะที่มิดฟิลด์จอมแกร่งที่รับบทปิดทองหลังพระให้กับทีมชาติฝรั่งเศส อย่าง “โอเรเลียง ชูอาเมนี” จากสโมสรเรอัล มาดริด และจะเป็นคีย์แมนสำคัญในการช่วงชิงพื้นที่แดนกลางกับ “โรดริโก เดอ ปอล” ของ อาร์เจนตินา มีสถิติวิ่งในสนามเป็นระยะทางรวมมากที่สุดของทีม คือ 63.4 กิโลเมตรเข้าไปแล้ว (เล่น 6 นัด ตัวจริง 6 นัด รวมเวลา 501 นาที) ซึ่งจากสถิติดังกล่าวทำให้การขับเคี่ยวของ “2 นักเตะเดอะแบกประจำทีม” (61.03 กิโลเมตร VS 63.4 กิโลเมตร) จะกลายเป็นอีกหนึ่งคู่ที่น่าติดตาม นอกจากการประลองชั้นเชิงในเกมรุกเพื่อตัดสินชัยชนะ ระหว่าง “ลิโอเนล เมสซี” และ “คีเลียน เอ็มบัปเป” อย่างแน่นอน!
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
กราฟิก Anon Chantanant
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง