การบุกเข้าทลายขบวนการถ่ายหนังโป๊โจ๋งครึ่ม ของนายทุนจีน ที่มาเช่าห้องพักในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี โดยได้ว่าจ้างนางแบบ-นายแบบคนไทย ให้ยั่วสวาทผ่านไลฟ์สดบนเว็บไซต์ กลุ่มวีไอพี ออนไลน์ไปทั่วโลก โดยคาดว่ามีอีกหลายกลุ่มที่ลักลอบถ่ายหนังโป๊ลักษณะนี้ เพราะยังมีช่องโหว่กฎหมายไทยไปไม่ถึง
กรณีบุกจับนายทุนจีนถ่ายหนังโป๊ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 65 ในห้องพักกลางเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบถึงพฤติกรรมดังกล่าว ที่ได้ทำการว่าจ้างนางแบบ-นายแบบ เพื่อไลฟ์สด เปิดกลุ่มลับ VIP ซึ่งกลุ่มนี้มีการโชว์ออนไลน์ทั้งวันทั้งคืน รวมนักแสดงทั้งหมดแล้วกว่า 30 ราย ที่เป็นชาวไทย
จากการสอบถามของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า นักแสดงรับค่าจ้างจากกลุ่มคนจีนในราคา 1,500 บาทต่อ 1 คลิป หนึ่งวันแสดงได้ 7-8 คลิป นักแสดงได้รับเงินเฉลี่ยคนละ 3,000-4,000 บาทต่อวัน
นอกจากการยึดของกลางเป็นอุปกรณ์ถ่ายภาพและมือถือ ยังพบอุปกรณ์เซ็กซ์ทอยกว่า 50 ชิ้น จึงได้ทำการควบคุมตัวนักแสดง 6 คน นายทุนชาวจีน 1 คน และล่าม 1 คน ไปดำเนินคดีข้อหานำสื่อลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
...
“ชลีรัตน์ แสงสุวรรณ” ผู้ประสานงานมูลนิธิพิทักษ์สตรี เล่ากับ “ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์” ว่า ที่ผ่านมาเคยมีชาวต่างชาติที่เป็นชาวยุโรปมาถ่ายหนังลักษณะนี้ โดยใช้นางแบบและนายแบบคนไทย แต่กรณีชาวจีนรายนี้ถือเป็นรายแรกๆ ที่ถูกจับ คาดว่ายังมีอีกหลายคนลักลอบทำอยู่ในไทย ประกอบกับขณะนี้สถานบันเทิงยามค่ำคืนซบเซา ทำให้มีนางแบบและนายแบบชาวไทยหันมารับงานถ่ายสยิวไลฟ์สดมากขึ้น
กลุ่มชาวต่างชาติ จะใช้ความรู้ด้านเทคโนโลยีในการเปิดกลุ่มรับ และเปิดห้องพักในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืน จากนั้นมีการติดต่อเพื่อหานางแบบเพื่อมาแสดง โดยรายได้ที่นักแสดงได้รับค่อนข้างมีหลายมาตรฐาน แต่นักแสดงบางส่วนที่มาเพราะเป็นความชอบส่วนตัว ขณะเดียวกันก็มีรายได้ที่ดี เลยทำให้มีคนหันมาทำงานนี้มากขึ้น
“บางคนตัดสินใจมารับงานนี้ เนื่องจากได้เงินง่าย ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน สามารถถ่ายได้ตอนอยู่ในห้อง ซึ่งต่างจากสมัยก่อน ที่ชาวต่างชาติที่มาถ่ายหนังประเภทนี้ต้องไปถ่ายในป่า หรือสถานที่แปลกๆ บางรายต้องจ่ายเงินให้กับคนในพื้นที่ เพื่อกันไม่ให้คนนอกเข้ามาระหว่างการถ่ายทำ และป้องกันการแจ้งให้ตำรวจทราบ”
ประกอบกับยุคนี้มีเทคโนโลยีทันสมัย มีเพียงมือถือเครื่องเดียวสามารถไลฟ์สดได้ทั่วโลก แม้ที่ผ่านมาตำรวจไซเบอร์ไทยพยายามปราบปราม แต่ยังหลุดรอดไปได้ เพราะผู้กระทำผิดมีความรู้เรื่องเทคโนโลยี
เรื่องนี้เป็นธุรกิจสีเทาในสังคมไทย ที่ดึงกลุ่มเด็กและผู้หญิงเข้าสู่วงจรจำนวนมาก จึงอยากเตือนให้ใช้ความระมัดระวัง เพราะมีบางกรณีที่เข้าสู่วงจรแล้วถูกแฮกข้อมูล ถูกนำไปแบล็กเมล์ กว่าจะหลุดพ้นวงจรนี้มาได้ก็ต้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายฝ่าย
ขณะเดียวกันอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กวาดล้างขบวนการเหล่านี้มากขึ้น เพราะเชื่อว่ามีเครือข่ายชาวต่างชาติ ที่แสวงหาผลประโยชน์จากเยาวชนและผู้หญิงของไทย ดังนั้นถ้าใครเห็นถึงพฤติกรรมดังกล่าวอยากให้แจ้งมาที่ตำรวจไซเบอร์ เพื่อทำการจับกุมและไม่ให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อประเทศไทย.