รัฐบาลเปิดขายสลากดิจิทัล ผ่านแอปฯ เป๋าตัง จะแก้ปัญหาขายหวยเกินราคาได้อย่างถาวรหรือไม่? หลังก่อนหน้านั้นทางกองสลากฯ ได้งัดสารพัดวิธี แต่ไม่สามารถทำได้ในการตัดวงจรพ่อค้าคนกลาง ตั้งแต่ยี่ปั๊ว มาถึงซาปั๊ว ยังคงมีการทำกำไรส่วนต่างของต้นทุน และรวมหวยชุดเพิ่มราคา แม้จะมีบทลงโทษ ก็ยังมีคนฝ่าฝืนขายเกินราคา 80 บาท

อีกช่องทางหนึ่งในการแก้ปัญหาที่ต้องจับตาดู เพราะขณะนี้ทางกองสลากฯ กำลังเพิ่มจุดจำหน่ายสลาก 80 บาท กระจายไปทั่วทุกภูมิภาคให้ครอบคลุมมากที่สุด เพื่อให้คนเข้าถึงง่าย หวังว่าการขายหวยเกินราคาจะสูญพันธุ์ไปในที่สุด หรืออีกมุมหนึ่งอาจไม่ยุติธรรมสำหรับคนขายหวยเร่ทั่วไป อาจต้องล้มหายตายจากไปก็ได้ ยังไม่รวมถึงข้อวิพากษ์วิจารณ์เป็นการมอมเมาประชาชน ให้เล่นการพนันมากขึ้น 

สลากดิจิทัล เหมือนมาถูกทาง แต่แก้ยังไม่ถูกจุด

ถามว่าการขายสลากดิจิทัล มาถูกทางหรือไม่นั้น “ผศ.ดร.วิษณุ วงศ์สินศิริกุล” คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เห็นว่า เหมือนกองสลากฯ จะไปได้ถูกทาง แต่ก็ไม่ เพราะท้ายสุดแล้ว ต้องมาแก้ปัญหาอย่างแน่นอน แม้จะพยายามทำ พยายามนำร่อง ก็ยังแก้ไม่ถูกจุด และยังแก้ปัญหาการรวมเลขชุดไม่ได้ ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาสลากราคาแพงได้

...

“ผู้ซื้อสลากดิจิทัล สามารถซื้อเท่าไรก็ได้ ในการกว้านซื้อแล้วรวมเลขชุด เอามาขายต่อ แม้ทางโฆษกกองสลาก บอกว่าปัญหานี้แก้ไม่ได้ แต่คนที่ซื้อต่อต้องมั่นใจว่าไม่ถูกโกง เมื่อถูกรางวัล ก็ไม่แตกต่างจากปัจจุบันที่ทำกันอยู่ เพราะต้องใช้ความไว้วางใจ ทำให้เชื่อว่าจะมีความเป็นไปได้ที่ต่อไปทางกองสลากฯ จะกำหนดโควตาในการซื้อ ป้องกันรวมเลขชุด แต่ขณะเดียวกันก็จะกระทบคนเร่ขายจะขายหมด 500 ใบหรือไม่ จะเกิดปัญหาหลายอย่างตามมา”

การจะขยายโควตาสลากดิจิทัลมาเป็น 100 ล้านใบ คงเป็นไปไม่ได้ เพราะคนขายสลากไม่ได้ถนัดโซเชียลเหมือนกัน ในการโฆษณาร้านของตัวเอง และมีผู้ค้ากว่า 4 แสนคน ถนัดในการเร่ขายมากกว่า เชื่อว่า 50 ล้านใบ ก็เกิดปัญหาแล้ว แม้ในงวดแรกจะสามารถขายสลากได้เกือบ 5 ล้านใบ เพราะไม่จำกัดจำนวน แต่ผู้ซื้อได้เลขที่ต้องการหรือไม่ ท้ายสุดก็ต้องหนีไปซื้อแพลตฟอร์มสลากอื่น

ปัญหาที่กองสลากฯ ต้องแก้ จะต้องเร่งประชาสัมพันธ์กับผู้ค้าในการขายผ่านแพลตฟอร์ม และการจะแก้ปัญหาสลากเกินราคาได้ ไม่ควรให้ผู้ค้าสลากลงทุน หากขายได้เท่าไรก็ได้เงินเท่านั้น โดยมีเครื่องขายสลากดิจิทัลให้กับผู้ค้าเร่ เพราะปัญหาขณะนี้ทางกองสลากฯ ขายสลากให้กับผู้ค้าแบบขายขาด เพราะต้องการรายได้ 100 ล้านใบไปเต็มๆ เป็นการเอาเปรียบผู้ขาย ต้องมีเงินไปจองสลาก และการขายสลากดิจิทัลไม่ได้ง่ายๆ สุดท้ายจะเกิดปัญหา”

“หากทำได้ตามที่เสนอไป เหมือนขายสลากแบบลอตโต้ใครอยากได้เลขอะไร ซื้อได้ทุกเลข เลือกเลขได้ทั้งหกตัว อาจมีการปรับเงินรางวัล เฉลี่ยตามจำนวนผู้ที่ถูกรางวัลในแต่ละงวด หากงวดไหนมีผู้ถูกรางวัลจำนวนมาก ตัวหารก็มาก ไม่ใช่ไปเพิ่มรางวัลเลขสามตัวหน้า เหมือนทุกวันนี้ เพราะไม่ได้แก้อะไร แต่กลับไปช่วยพวก 5 เสือที่ได้โควตากองสลากฯ มากกว่า”

ผู้ค้ากว่าครึ่งรับผลกระทบ สลากดิจิทัล ไม่ตอบโจทย์

ฝั่งผู้ค้าสลากฯ “ประสาน น้อมจันทึก” ผู้ดูแลกลุ่มสลาก 5 ภาค มองว่า แม้การขายสลากดิจิทัล จะได้รับผลตอบรับดี และทำให้คนขายเกินราคา 80 บาท ได้รับผลกระทบ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าคนขายหวย ได้โควตาสลากฯ คนละ 500 ใบ และความสามารถในการขายของแต่ละคนไม่เท่ากัน จึงอยากให้กองสลากฯ จัดสรรสลากฯ ตามจำนวนความต้องการของคนขาย เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และควรตัดพ่อค้าคนกลางออกจากระบบ

หรือเพิ่มราคาหน้าตั๋วของสลาก จากเดิม 80 บาท เป็น 100 บาท จะทำให้คนขายมีรายได้เพิ่มขึ้น 12 บาท จาก 9.60 บาท เพราะแต่ละงวดหากขาย 500 ใบ จะได้เงิน 4.8 พันบาท หรือเดือนหนึ่งขายได้ 9.6 พันบาท ซึ่งไม่พอกับค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน แต่หากปรับขึ้นใบละ 100 บาท จะทำให้มีรายได้เดือนละ 1.2 หมื่นบาท

...

“ไม่แน่ใจว่าที่ผ่านมากองสลากฯ มีปัญหาอะไร จะต้องเฉพาะเจาะจงให้โควตาคนละ 500 ใบเท่านั้น ทำไมไม่ให้คนละ 1 พัน ไปจนถึง 1.5 พันใบ ตามความต้องการของแต่ละคน ส่วนใหญ่เป็นคนเร่ขาย ลูกค้าก็น้อยอยู่แล้ว ก็ต้องการจำนวนต่อหน่วยมากขึ้น เพื่อให้มีรายได้เพิ่ม”

ปัจจุบันมีผู้ค้าสลากฯ 3-4 แสนคน มีคนได้รับผลกระทบเกินกว่าครึ่ง และการขายสลากดิจิทัล ผ่านแอปฯ เป๋าตัง ไม่ได้ตอบโจทย์ผู้ค้าสลากฯ ส่วนใหญ่ ซึ่งมาจากอาชีพเกษตรกร เพราะเมื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ในการขายสลาก ทำให้พวกเขาขาดโอกาส และขายสลากได้น้อยลง ยกตัวอย่างมีช่วงหนึ่งมีหวยบนดิน ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ค้าสลากเหมือนกัน อยากให้แยกกันระหว่างการแก้ปัญหาขายสลากเกินราคา กับความเดือดร้อนของผู้ค้าสลาก

หวั่นวัฏจักรเดิมๆ คนขายหวย ไม่ได้อยู่ในระบบ

พร้อมมีการตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนมีการออกสลากดิจิทัล ไม่ได้มีการสำรวจความคิดเห็นผู้เกี่ยวข้อง และคนจะมาขายสลากในแพลตฟอร์มนี้ เป็นใครมาจากไหน จะเข้าวัฏจักรเดิมๆ หรือไม่ เป็นคนไม่ได้ขายเองมาอยู่ในระบบ แต่คนที่ขายสลากฯ จริงๆ ไม่ได้อยู่ในระบบ จะทำให้คนขายสลากฯ ต้องเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น และอีกปัญหาหากจะขายสลากดิจิทัล ต้องใช้เงินลงทุน 2 ก้อน อย่างขายงวดนี้ 16 มิ.ย. ต้องจ่ายเงินล่วงหน้าตั้งแต่ 20 พ.ค. และจะขายงวด 1 ก.ค. ต้องจ่ายเงินตั้งแต่ 5 มิ.ย. เมื่อไม่มีเงินทุนก็ต้องไปทำอาชีพอื่น

...

“ขณะนี้ทางเครือข่ายผู้ค้าสลาก ได้ไปร้องว่าการขายสลากดิจิทัล มีการทำถูกต้องหรือไม่ ควรทำประชาพิจารณ์ แต่ไม่ทำ แม้กองสลากฯ ออกมาบอกไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ เพียงแต่เปลี่ยนวิธีการขายเท่านั้น แต่ทางผู้ค้าก็ไม่แน่ใจว่าเป็นอย่างไร และอีกอย่างเป็นการมอมเมาประชาชน เอาการพนันไปอยู่ในแอปฯ เป๋าตัง มันสมควรแล้วหรือ แม้เป็นสลากถูกกฎหมาย ก็ไม่ควรทำ และถามว่าใครได้ผลประโยชน์ตอนนี้”

ที่ผ่านมามีการเรียกร้องให้กองสลากฯ เข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องรายได้ในการขายของผู้ขายสลากฯ มานานแล้ว ด้วยการจัดสรรสลากฯ ตามจำนวนที่ผู้ขายต้องการ และตรวจสอบข้อมูลผู้ขายสลากฯ เพื่อตัดวงจรพ่อค้าคนกลาง น่าจะสามารถแก้ปัญหาขายสลากเกินราคาได้ในที่สุด หากผู้ค้าสลากมีรายได้เพียงพอ สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน.