• สร้างความดีใจและรอยยิ้มให้กับคนไทย เมื่อ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คว้าแชมป์โลกแบดมินตันคู่ผสม “โททาลเอ็นเนอร์ยี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ แชมเปียนชิพ 2021” แข่งขันที่เมืองอูเอลบาร์ ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา และขยับขึ้นเป็นมือ 1 ของโลก



  • พร้อมกับดราม่าคาใจของคนไทย ทั้งๆ ที่เป็นความภาคภูมิใจในห้วงเวลาพิเศษสุด เนื่องจากธงชาติไทย ไม่สามารถขึ้นสู่ยอดเสาได้ แต่กลับเป็นธงของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย จนสร้างความแปลกใจให้กับหลายคนที่ไม่รู้ถึงสาเหตุ



  • เพราะไทยมีความล่าช้าในการแก้ไขพ.ร.บ.ควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา และต้องแก้ไขให้หน่วยงานที่ควบคุมการใช้สารต้องห้าม ขึ้นเป็นหน่วยงานอิสระ ตามกฎขององค์กรต่อต้านสารกระตุ้นโลก หรือ WADA ทำให้ไทยถูกแบนห้ามจัดการแข่งขันทุกชนิดกีฬาในระดับนานาชาติ หรือแม้นักกีฬาจะคว้าชัยในระดับภูมิภาค ระดับทวีป และระดับโลกที่สหพันธ์เป็นผู้จัด แต่ธงชาติไทยจะไม่สามารถขึ้นสู่ยอดเสาในขั้นตอนรับเหรียญ ให้ชาวโลกได้เห็น


  • ปลายปี 2563 ทาง WADA ได้ออกหนังสือเตือนไทย ให้เร่งแก้ไขภายใน 3 เดือน แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ กระทั่งวันที่ 8 ต.ค. 2564 บทลงโทษมีผลบังคับใช้ เป็นเหตุให้การกีฬาแห่งประเทศไทย ต้องประสานขออนุญาตใช้ธงที่มีตราสัญลักษณ์คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย หรือธงสัญลักษณ์ของสมาคมกีฬานั้นๆ แทนไปก่อน

  • การกีฬาแห่งประเทศไทย แจงว่าไทยสามารถใช้ธงชาติไทยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก พาราลิมปิก โอลิมปิกฤดูหนาว และยูธโอลิมปิก ยกเว้นในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติที่สหพันธ์กีฬาเป็นผู้จัดในทุกระดับ ไม่สามารถใช้ธงชาติไทยได้ ส่วนเครื่องแต่งกายนักกีฬาไทย สามารถติดธงชาติไทยและใช้ข้อความ “THAILAND” ได้ รวมถึงกองเชียร์ สามารถนำธงชาติไทยไปโบกสะบัดได้

  • ไม่ใช่ไทยเท่านั้น ยังมีเกาหลีเหนือ และอินโดนีเซีย รวมถึงรัสเซีย เคยถูกแบน เนื่องจากไม่ได้ตรวจสอบและควบคุมการใช้สารกระตุ้นในนักกีฬา แตกต่างจากไทยต้องแก้ไขพ.ร.บ.ควบคุมสารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 ให้สอดคล้องกับเกณฑ์ของ WADA นอกจากนี้ทำให้คนไทยที่เป็นคณะกรรมการ หรือดำรงตำแหน่งในสหพันธ์กีฬานานาชาติ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปด้วย ไม่สามารถร่วมโหวตออกเสียงใดๆ ได้ จนกว่าไทยจะสามารถแก้ไขข้อกฎหมายแล้วเสร็จ

  • ก่อนหน้านั้นดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย คาดว่าการแก้ไขกฎหมายจะแล้วเสร็จในเดือนก.พ. 2565 โดยจะออกเป็น พ.ร.ก. ให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ แทนการแก้ไขพ.ร.บ. เพื่อลดขั้นตอนการพิจารณาในที่ประชุมรัฐสภาที่ใช้เวลานาน และเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นจะแจ้งไปยัง WADA คาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติถูกปลดโทษแบนไม่เกินเดือน พ.ค. 2565.

...