17 ก.ย. 2567 13:14 น.

น้ำป่าหลากพะเยา เปิดใจนาทีชีวิตหนีตาย ไร้สัญญาณเตือน

"ตอนนั้นหนูตกใจมาก ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ยอมรับว่ากลัวตายสุด ๆ" เปิดใจนาทีหนีน้ำหลาก นิสิต ม.พะเยา เล่าสุดช็อก! ตื่นมาเจอน้ำป่าไหลทะลัก ท่วมเกือบมิดหลังคารถ แนะอยากให้มีระบบเตือนภัยฉุกเฉิน

วันนี้ (17 กันยายน 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดฝนตกหนักตลอดคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าลำห้วยแม่กา-ห้วยเคียน บ้านห้วยเคียน หมู่ 16 ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น. มวลน้ำไหลทะลักเข้าท่วมถนน บ้านเรือน และย่านหอพักนิสิต บริเวณมหาวิทยาลัยพะเยา

เหตุการณ์นี้ทำให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่ดังกล่าวสูงประมาณ 1-2 เมตร ชาวบ้านและนิสิต มพ. ไม่สามารถหนีออกจากที่พักอาศัยได้ บางส่วนต้องหนีน้ำเอาตัวรอดขึ้นไปอยู่บนหลังคา อีกทั้งมีรายงานว่ามีรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไหลลงลำห้วยหลายคัน

ล่าสุดมีรายงานว่า มีการตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย มวลน้ำไหลผ่านไป และสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว อย่างไรก็ตาม นอกจากภัยดังกล่าวจะทิ้งร่องรอยความเสียหายต่อทรัพย์สิน มันยังทิ้งความสะเทือนใจบางอย่างให้กับผู้อยู่ในเหตุการณ์อีกด้วย

...

"อาย ศศิธร" นิสิตมหาวิทยาลัยพะเยาชั้นปีที่ 2 ผู้อยู่ในเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากครั้งนี้ เปิดใจให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวฯ ว่า หนูตื่นประมาณ 6 โมงกว่าเพราะเพื่อนโทรมาปลุก ตอนแรกคิดว่าเป็นเสียงฝนตกเฉย ๆ แต่พอเริ่มเปิดดูโทรศัพท์ เห็นเขาถ่ายรูปลงกลุ่มว่าน้ำขึ้นมาถึงบันไดออกจากหอพักไม่ได้แล้ว

หนูพักอยู่ชั้น 2 ของหอ เลยรีบเดินออกมาดูหน้าระเบียง หนูตกใจกับภาพที่เห็นมาก เพราะน้ำท่วมชั้น 1 เต็มไปหมดจนเกือบมิดหลังคารถยนต์ที่จอดอยู่ และไม่ได้ท่วมแค่หอหนูหอเดียว หอที่อยู่ตรงนั้นก็ประสบภัยเหมือนกันหมดเลย

"ตอนนั้นหนูตกใจมากเพราะไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน กังวลว่าน้ำจะเพิ่มระดับจนหนีไปไหนไม่ได้ ยอมรับว่าตอนนั้นกลัวตายสุด ๆ เพราะน้ำมาไวมาก กลัวว่าจะไม่ได้เจอหน้าพ่อหน้าแม่อีก" ศศิธร เล่าภาพที่ยังติดตาเธอด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยสู้ดีนัก

นิสิต มพ. ชั้นปีที่ 2 เล่าเหตุการณ์ต่อว่า ตอนนั้นหนูเป็นห่วงทุกอย่างเลย เพราะรถมอเตอร์ไซค์ก็จอดอยู่หน้าหอด้วย หนูรีบโทรไปหาพ่อกับแม่เพราะรนไปหมด แต่พวกเขาช่วยดึงสติให้ใจเย็นลงก่อน พร้อมแนะนำว่าถ้าน้ำขึ้นเยอะให้รีบขึ้นไปอยู่ที่ชั้นบน

สถานการณ์ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่และหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ น้ำแห้งเหลือแต่โคลนและเศษต่าง ๆ ทุกคนพยายามช่วยกันทำความสะอาดอยู่ รถของหนูยังอยู่หน้าหอไม่ได้รับผลกระทบมาก เดี๋ยวพ่อกับแม่จะมาเอารถกลับไปทำความสะอาดและซ่อมที่บ้าน แต่รถของผู้พักอาศัยบางคนหายไปกับน้ำ ก็เดือดร้อนพอตัวเลยค่ะ

อาย ศศิธร กล่าวว่า จริง ๆ แล้วคุณพ่อคุณแม่ค่อนข้างกังวลและอยากให้กลับบ้าน แต่หนูบอกไปว่าหอของเพื่อนยังปลอดภัย และหนูยังไม่อยากกลับเพราะห่วงเรื่องการเรียนด้วย แต่ในใจหนูก็แอบกังวลว่าน้ำจะมาอีกรอบ เพราะถ้ามามันจะมาเมื่อไรก็ไม่รู้ กลัวว่าทรัพย์สินจะเสียหายอีก

"วันนี้เห็นได้ชัดว่าทุกคนแตกตื่นกันหมด หนูคิดว่าน่าจะมีระบบเตือนภัย หรือเสียงเตือนให้เรารู้ตัว เพราะครั้งนี้เราทักเตือนกันเอง อย่างหนูตื่นก็เพราะเพื่อนทัก ตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยก็แจ้งหยุดการเรียนการสอน เพราะการเดินทางไปเรียนไม่สะดวก และให้ทุกคนดูแลจัดการเรื่องตัวเองให้เรียบร้อยก่อน"