เหลืออีกไม่กี่เดือนจะมีการเลือก ผบ.ตร. คนใหม่ หลัง “บิ๊กต่อ” ผบ.ตร.คนที่ 14 เกษียณอายุราชการ เดือน ก.ย.นี้ หากส่อง 3 แคนดิเดต “บิ๊กต่าย” มีโอกาสมากที่สุด โดยอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่วิเคราะห์ว่า แม้ช่วงเวลานี้ “บิ๊กต่าย” มีการทำงานหนัก เพื่อให้มีผลงานเข้าตา แต่ตัวแปรสำคัญคือ "การเมือง" ที่อาจทำให้เกิดการพลิกล็อกได้ทั้ง "กรมตำรวจ"
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนปัจจุบัน หรือ ผบ.ตร.คนที่ 14 เกษียณอายุราชการวันที่ 30 ก.ย. 2567 ดังนั้น การสรรหา ผบ.ตร.ใหม่ คนที่ 15 จะต้องจับตาว่าจะเป็น 3 แคนดิเดต ที่มีการเก็งไว้หรือไม่
เส้นทางสู่การเป็นผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนที่ 15 หลังจาก “บิ๊กต่อ” เกษียณอายุราชการ ต้องลุ้นหนัก แม้ว่า “บิ๊กโจ๊ก” หลุดจากแคนดิเดตไปแล้วก็ตาม เนื่องจาก "แพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี เพิ่งมารับตำแหน่ง และอาจมีผลต่อการแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนต่อไป ซึ่งในมุมของ "พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ" อดีตผู้บังคับการกองปราบปราม วิเคราะห์ว่า การคัดเลือก ผบ.ตร. คนใหม่ ต้องผ่านการคัดสรรตามเกณฑ์อาวุโส และความเหมาะสมของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ก่อนส่งให้นายกฯ พิจารณา
...
น่าสนใจว่าแนวโน้มรอบนี้แคนดิเดต ผบ.ตร.ที่มีรายชื่ออยู่อาจจะยังไม่ได้รับคัดเลือก ซึ่งมีโอกาสที่ “คนของใคร” จะขึ้นมารักษาการแทน
“การเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีมีผลต่อการเลือก ผบ.ตร.รอบนี้ ทำให้ต้องจับตาว่านายตำรวจที่มีความใกล้ชิดกับ คุณทักษิณ ชินวัตร มีโอกาสจะได้ขึ้นมา รวมถึงการวางแผนระยะยาวเพื่อผลักดันเครือข่ายให้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุด จึงมีโอกาสที่การแต่งตั้ง ผบ.ตร.รอบนี้จะยังไม่มีคนที่เข้าตา ซึ่งอาจแต่งตั้งรอง ผบ.ตร. ให้รักษาการแทนไปก่อน เพื่อรอให้มีการแต่งตั้งรอง ผบ.ตร.ชุดใหม่ ที่มีการผลักดันให้ก้าวไปสู่ตำแหน่งสูงสุดในรอบหน้า”
หากประเมิน 3 แคนดิเดตที่มีโอกาสชิง ผบ.ตร.รอบนี้ ประกอบด้วย 1.พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. 2.พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. 3.พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จตช.
ถ้าประเมินโอกาสของทั้ง 3 แคนดิเดต ถือว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ หรือ “บิ๊กต่าย” มีภาษีดีที่สุด เพราะมีการทำงานหนักในช่วงเวลานี้และที่ผ่านมา แต่อีกด้านหนึ่งก็ไม่ได้มีความใกล้ชิดกับขั้วการเมือง ดังนั้นมีโอกาสเกิดสภาวะที่ยังไม่แต่งตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่ ซึ่งอาจมีเหตุผลว่า เนื่องจากยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ และมีโอกาสที่ให้รอง ผบ.ตร.ที่แต่งตั้งขึ้นมาใหม่ นั่งรักษาการแทนประมาณ 1 ปี
“กรณียังไม่แต่งตั้ง ผบ.ตร. สามารถเกิดขึ้นได้ หาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยังทำงานไม่เข้าตา แต่อีกมุมหนึ่ง หากฝั่งการเมืองเห็นว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ทำงานเข้าตาตามนโยบายที่วางไว้ได้ ก็มีโอกาสที่บิ๊กต่าย จะขึ้นตำแหน่งสูงสุด เพราะมีอายุราชการประมาณ 2 ปี ส่วนแคนดิเดตอีก 2 ท่าน ค่อนข้างมีโอกาสน้อยกว่ามาก”
...
ต้องจับตาว่าการแต่งตั้งรอง ผบ.ตร. รอบใหม่จะมีชื่อของ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา จะได้รับการแต่งตั้งเป็นรอง ผบ.ตร. หรือไม่
หากมองในมุมของประชาชน การแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่ ยังไม่เป็นไปตามแนวทางที่ต้องการยึดโยงกับประชาชน แม้มีนักการเมืองที่คาดว่าจะเป็นตัวแทนของประชาชนมาเชื่อมโยง
สิ่งที่อยากเห็นคือ การที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการคัดเลือก ผบ.ตร. เพราะประชาชนถือเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแต่งตั้ง ที่ผ่านมา ผบ.ตร.ที่มารับตำแหน่งก็มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน บางคนก็มาจากการวิ่งเต้น ทำให้ไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบาย ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา และทำให้งานบริการประชาชนเกิดความไม่เป็นธรรม ไม่มีความสุจริตในการทำสำนวนสอบสวน ดังนั้น ผบ.ตร.คนใหม่ที่จะมานั่ง ควรคำนึงถึงการบริการ และความเป็นธรรมแก่ประชาชนเป็นหลัก.