"ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล" อดีต รมว.คลัง อธิบายสาเหตุ หุ้นตกทั่วโลก กับสภาพเศรษฐกิจและหุ้นไทย ที่เหมือนอยู่ในภาวะ "อดตาย" ความมั่นใจนักลงทุนกับปัญหาการเมืองไทยที่ไม่แน่นอน

ในวันจันทร์ที่ผ่านมา เรียกว่า Black Monday หุ้นทั่วโลกเจอสภาวะแดงทั้งกระดาน อันเกิดมาจากความ “กังวล” เรื่องเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ ในขณะที่ประเทศไทยเอง ก็มีสภาพไม่ต่างกัน หุ้นร่วงหนักในรอบ 4 ปี นอกจากนี้ ยังมีสถานการณ์ทางการเมือง ที่ไม่แน่นอน และคำตัดสินของศาลเกี่ยวกับพรรคก้าวไกล ในวันนี้ 7 สิงหาคม รวมถึง ตัวนายกฯ ก็ปมจริยธรรม

ทั้งนี้ “เรา” มีโอกาสได้พูดคุยกับ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง ได้อธิบายสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นให้เข้าใจ... 

สาเหตุหุ้นตกทั่วโลก นายธีระชัย อธิบายว่า สาเหตุหุ้นตกทั่วโลกมาจากตลาดหุ้นอเมริกาที่ลงหนัก เนื่องจากที่ผ่านมา ทางสหรัฐฯ มีการขึ้นดอกเบี้ยในระดับที่สูง ขณะเดียวกัน มีประเทศหนึ่ง ซึ่งถือเป็นประเทศใหญ่ เลือกที่จะ “กดดอกเบี้ย” ไว้ต่ำ จึงทำให้เกิดการกู้เงินเยน จ่ายดอกเบี้ยต่ำ แล้วเอาไปลงทุนในสหรัฐฯ เพื่อมาเอาดอกเบี้ยสูงๆ  ขณะที่ บางคน ไม่ได้กู้มากินดอกเบี้ย แต่เอาไปลงทุนในหุ้น กลุ่ม หุ้นนางฟ้า พวกกลุ่มบริษัทไฮเทค ส่งผลให้โกยกำไรไปมาก...

...

แต่ในช่วงที่ผ่านมา ทางญี่ปุ่น กดดอกเบี้ยต่ำ เป็นเวลานานเกินไป ส่งผลกระทบให้เกิดเงินเฟ้อในญี่ปุ่น ส่งผลให้ “ค่าเงินเยน” อ่อน ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัว เพราะค่าเงินเยนอ่อน ทำให้การท่องเที่ยวดีขึ้น แต่มันทำให้เกิดเงินเฟ้อหนัก จนถึงจุดหนึ่ง ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องเร่งแก้ปัญหาเงินเฟ้อ เพราะหากปล่อยไว้แบบนี้จะนำไปสู่อันตราย 

“เมื่อเป็นเช่นนี้ รัฐบาลญี่ปุ่น จึงต้องเร่งแก้เงินเฟ้อ ด้วยการขึ้นดอกเบี้ย... ซึ่งขึ้นแค่ 0.25 เท่านั้น แต่มันทำให้คนที่เคยกู้เป็นเงินเยน ไปลงทุนกับเงินสกุลอื่นๆ เดิมแทบไม่มีต้นทุน แต่กลายเป็นว่าเวลานี้เจอกับต้นทุน ส่งผลให้การกู้เงินเยนดังกล่าว ไม่คุ้ม จึงต้องแก้ด้วยการ “คืนหนี้” ขายหุ้นในตลาดอเมริกา หรือบางคนไปลงทุนในยุโรป ก็พากัน “ถอย” ซึ่งการ “ถอย” แบบนี้มันจึงสะเทือนไปกับตลาดหุ้นทั่วโลก” 

สภาพเศรษฐกิจไทย อยู่ในภาวะ “อดตาย” 

นายธีระชัย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทย ไม่ค่อยเข้มแข็งอยู่แล้ว เพราะมีปัจจัยมาจากการพัฒนาเรื่องการศึกษา วิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ และดิจิทัลค่อนข้างน้อย ตลาดหุ้นของเรา จึงไม่มีธุรกิจระดับสูงด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ดังนั้น ธุรกิจในตลาดหุ้นเรา จึงเป็นแนวธุรกิจแบบโบราณ ฉะนั้น ความสนใจในตลาดหุ้นของนักลงทุนชาวต่างชาติจึงมีน้อยอยู่แล้ว

“คนที่มีความรู้ ด้านเทคโนโลยีใหม่ มันมีน้อยไป ทำให้เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ด้านดิจิทัล จึงสู้ต่างชาติไม่ได้ ดังนั้น หากเรายังเป็นแบบนี้ต่อไป เราจะต้องเผชิญกับ ภาวะเศรษฐกิจแบบ 'อดตาย' ไปเรื่อยๆ ผอมแห้ง หัวโต แตกต่างจากภาวะต้มยำกุ้ง ซึ่งเป็นผลกระทบกับคนระดับล่างมากกว่าบน” 

เมื่อมาประกอบกับ รัฐบาลที่ผ่านมา ไม่ได้เน้นเรื่องการแก้ปัญหาที่แท้จริงของประเทศ พยายามแก้แบบระยะสั้น นี่คือ เป็นเหตุผลที่นักลงทุน ยิ่งขาดความมั่นใจเข้าไปอีก 

การเมืองไทยไม่มั่นคง กับสภาวะเศรษฐกิจ 

อดีต รมว.คลัง กล่าวถึง คำตัดสินของศาล รธน. ในวันนี้ (7 ส.ค.) ของพรรคก้าวไกล ว่า ประเด็นในวันนี้เรียกว่า เป็นคำวินิจฉัยในเชิงกฎหมาย ในแง่ของนักลงทุน น่าจะเข้าใจ เพราะถือเป็นกระบวนการของศาล ซึ่งมีความเป็นอิสระ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ผมว่าไม่น่าจะมีปัญหา.

อ่านบทความที่น่าสนใจ 

...